นายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าววานนี้ (9 ส.ค.) ว่า ที่ประชุม ป.ป.ช. ได้พิจารณากรณีเรื่องกล่าวหาอดีตอธิบดีกรมป่าไม้ กับพวก กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีกองตำรวจป่าไม้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวหากระทำความผิด คือ
1. ละเว้นไม่ดำเนินคดีกับบริษัทเอกชน ซึ่งแจ้งการครอบครองเสือโคร่งที่ได้มาโดยมิชอบ และพิจารณาอนุญาตให้บริษัทดังกล่าว ครอบครองเสือโคร่งเบงกอล 125 ตัว
2. ละเว้นไม่ดำเนินคดีกับบริษัทเอกชน ที่เพาะพันธุ์เสือโคร่ง โดยไม่ได้รับอนุญาต และพิจารณาให้เพาะพันธุ์เสือโคร่งโดยมิชอบ และ
3. ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีพิจารณาอนุญาตให้มีการส่งออกเสือโคร่งที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทเอกชน ไปยังประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
โฆษก ป.ป.ช. กล่าวว่า ป.ป.ช.ได้ไต่สวนพยานบุคคล 18 ปาก และรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ปรากฏว่า ข้อกล่าวหา 1 และ 2 ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานว่ามีการทำผิดตามข้อกล่าวหา จึงมีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป แต่สำหรับข้อกล่าวหาที่ 3 จากการไต่สวนฟังได้ว่า
บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ได้ทำการขออนุญาตอธิบดีกรมป่าไม้ เพื่อขอให้ส่งออกเสือโคร่งจำนวน 100 ตัว ไปยังบริษัทเอกชนอีกแห่งหนึ่ง ในประเทศจีน ซึ่งมีกรรมการผู้จัดการบริษัทเอกชน ที่ขออนุญาตส่งออกเสือเป็นหุ้นส่วนใหญ่ โดยอ้างว่า เพื่อกิจการเพาะพันธุ์หรือกิจการสวนสัตว์สาธารณะ และขอให้กระทำในนามกรมป่าไม้ ต่อมาอธิบดีกรมป่าไม้ขณะนั้น ได้ลงนามอนุญาตเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2545 ให้บริษัทดังกล่าวส่งออกเสือโคร่งได้ในนามกรมป่าไม้
