อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ลั่น "MV เที่ยวไทยมีเฮ" ที่มีภาพทศกัณฐ์แคะขนมครก ปั่นจักรยาน ไม่เกินเลย ย้ำกลับเป็นเรื่องดี ทำคนรุ่นใหม่รู้จักศิลปะไทย แนะการอนุรักษ์ควรทำควบคู่กับการพัฒนา
ยังคงเป็นประเด็นร้อนฉ่า ! สำหรับดราม่า MV "เที่ยวไทยมีเฮ" ที่ใช้ตัวละครจากวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ อย่าง ทศกัณฐ์ มาร่วมแสดงทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเชิญชวนเที่ยวไทย ทั้งหยอดขนมครก, ขับโกคาร์ท, ถ่ายเซลฟี่ เป็นต้น จนทำให้ น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย อดีตศิลปินกองการสังคีต กรมศิลปากร ได้เข้าร้องเรียนต่อสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (วิทยาลัยนาฏศิลป์) ถึงความไม่เหมาะสม ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ [อ่านข่าว MV เที่ยวไทยมีเฮ ทั้งหมด]
ล่าสุด วันที่ 23 กันยายน 2559 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการผลิต MV ดังกล่าว เปิดเผยว่า สำหรับตนนั้น มองว่า MV เที่ยวไทยมีเฮ เป็นการนำเรื่องของศิลปะมาเป็นตัวช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่าพวกเราต่างไม่รู้เรื่องศิลปะแล้วพากันดื้อดึงไปด้วยกัน 2 ฝ่าย โดยอย่างกรณีครูบาอาจารย์โขนแสดงนั้นจะถือว่าตัวเองมีครูบาอาจารย์ มีความขลัง มีอุดมคติ มีจินตนาการที่ยิ่งใหญ่ ต้องอยู่ในโรงละคร อยู่ในที่อันเหมาะสมและมีความอลังการ ทำให้ตนเห็นว่าถ้าเราจะมีการเปลี่ยนพัฒนาได้อย่างไรเพื่อจะนำไปสู่สิ่งใหม่ที่เป็นผลดีต่อประเทศไทย
ดังนั้นเมื่อฝ่ายที่ต้องการอนุรักษ์ ก็เอาแต่อนุรักษ์ โดยไม่สนใจอะไร แล้วอย่างนี้จะพัฒนาไปได้อย่างไร ส่วนคนรุ่นใหม่จะทำสิ่งใดก็ต้องระวังอย่าเกินเลย
อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า กรณีที่มีคนออกมาร้องเรียนเรื่อง MV เที่ยวไทยมีเฮ ตนเชื่อว่า เกิดจาก MV ที่ออกมาไม่ถูกใจคนรุ่นเก่าที่มองว่า ทศกัณฐ์ไม่ใช่ของเล่น แต่มีอุดมคติ ทรงพลังอำนาจ มีความงดงาม อยู่ในโรงละครไม่ใช่เอาออกมาเล่นแบบนี้
แต่หากถามตนแล้ว ตนกลับมองว่า การนำทศกัณฐ์มาโลดแล่นอยู่ใน MV กลับเป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักทศกัณฐ์ ที่สำคัญก็ไม่ได้มีการพาทศกัณฐ์ไปอยู่ในที่อโคจรหรือไปอยู่กับภาพลามกแต่อย่างใด มีเพียงพาขี่จักรยาน หรือขี่ม้าบ้างเท่านั้น
ส่วนที่มีคนออกมาแสดงความเห็นขัดแย้งนั้น ตนก็ว่าดี เพราะทำให้สังคมมีความสนใจติดตาม MV เที่ยวไทยมีเฮ และอยากรู้จักทศกัณฐ์มากขึ้น ดังนั้นตนจึงขอให้ทั้ง 2 ฝ่าย อย่าได้ทะเลาะกันเลย หันหน้าเข้าหากันพัฒนาชาติเพราะเรื่องนี้เคยเป็นปัญหามากว่า 40 ปีในยุคของตนแล้ว และเราได้ผ่านพ้นมันมาแล้วจึงขอให้มาสู่สิ่งดี ๆ ดีกว่า