สาวโพสต์เตือนภัย ต้องวิ่งขอความช่วยเหลือในสภาพเปลือยเปล่า หลังถูกโจรดักข่มขืนใต้สะพานกลางเมืองราชบุรี พบเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน ก็เกิดเหตุลักษณะนี้ แต่โชคดีรอดอย่างหวุดหวิด วอนตำรวจเร่งล่าตัวคนร้าย หวั่นไปก่อเหตุซ้ำ
วันที่ 28 กันยายน 2559 ผู้สื่อข่าวเปิดเผยว่า โลกโซเชียลกำลังให้ความสนใจกับเรื่องราวที่หญิงสาวคนหนึ่งใน จ.ราชบุรี โพสต์ข้อความเตือนภัย หลังรอดเงื้อมมือโจรตระเวนขี่รถจักรยานยนต์ดักจี้หมายข่มขืน เหตุเกิดใต้อุโมงค์สะพานข้ามถนนเพชรเกษมกลางเมืองราชบุรี โดยระบุข้อความว่า
ภายหลังจากที่ข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์โพสต์ดังกล่าวออกไปจำนวนมาก เพื่อแจ้งเตือนหญิงสาวที่ต้องทำงานเลิกตอนกลางคืน หรือขี่รถจักรยานยนต์ในเส้นทางต่าง ๆ ให้เพิ่มความระมัดระวังตัว ทั้งนี้ มีผู้มาแสดงความคิดเห็นและให้ข้อมูลว่า เมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาตนก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ประสบเหตุในสถานที่เดียวกันนี้ และสามารถหนีรอดมาได้
ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าว workpointtv ได้ติดต่อไปหาหญิงสาวทั้ง 2 ราย โดยทั้งคู่ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่โพสต์ในเฟซบุ๊กเป็นเรื่องจริง ที่สำคัญรูปพรรณสันฐานของคนร้ายตรงกันด้วย
โดยผู้เสียหายรายแรกนั้น ได้รับการเปิดเผยจากนายสุทัศน์ ขาวสะอาด ชาวบ้านใน ต.โคกหม้อ โดยนายสุทัศน์ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ตนขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้าน เพื่อไปทำงาน โดยมี น.ส.ป่าน (นามสมมติ) แฟนสาว นั่งซ้อนท้ายมาด้วย เมื่อตนถึงที่ทำงานก็ให้ น.ส.ป่าน ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านพัก ซึ่งต้องขี่ลอดใต้อุโมงค์ "สะพานโคกหม้อ ถนนเพชรเกษม" เพื่อข้ามกลับไปยังถนนอีกฝั่ง
ปรากฏว่า เมื่อขี่รถจักรยานยนต์มาถึงบริเวณใต้อุโมงค์สะพาน จู่ๆ มีชายรูปร่างสูงขาวขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สีดำ มาประกบและขวางเพื่อให้แฟนของตนหยุดรถ จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ใช้มือเอื้อมจับที่หน้าอก หอมแก้มแฟนตน ทั้งยังบอกว่า ขอมีเพศสัมพันธ์ 1 ครั้ง ทำให้แฟนของตนตกใจและพยายามร้องให้คนช่วย คนร้ายจึงรีบชักกุญแจรถและพยายามฉุดแฟนของตนเข้าไปด้านหลังกำแพงใต้สะพานเพื่อที่จะข่มขืน แต่โชคดีที่แฟนของตนรีบวิ่งหนีกลับมาหาตนซึ่งทำงานอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร ขณะที่คนร้ายรีบขี่รถตามมาแต่ไม่ทัน โดยหลังเกิดเหตุตนได้พาแฟนไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่เรื่องก็ยังเงียบ
ขณะที่ น.ส.ฝัน (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 24 กันยายน เวลาประมาณ 00.45 น. ตนขี่รถจักรยานยนต์มาบริเวณนั้น และได้เจอเหตุการณ์คล้ายกับ น.ส.ป่าน โดยคนร้ายได้ถอดเสื้อผ้าของตนออกจนร่างกายเปลือยเปล่าเพื่อจะข่มขืน แต่ตนอาศัยจังหวะที่คนร้ายเผลอวิ่งหนีออกมาทั้ง ๆ ที่เปลือยเปล่า กระทั่งเจอพลเมืองดีจอดรถช่วย ซึ่งหลังเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งความเช่นเดียวกัน
ซึ่งผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ได้ฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รีบจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เพื่อที่จะไม่ไปก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง เพราะไม่แน่ใจว่า ผู้เสียหายรายต่อไปจะโชคดีเหมือนพวกตนหรือไม่ ที่สำคัญบริเวณใต้สะพานมืดมาก ทั้งยังไม่มีกล้องวงจรปิดหรือกล้อง CCTV รวมไปถึงกระจกมองทางก็ถูกตีแตกชำรุดอีกด้วย
เบื้องต้น จ่าสิบเอก กมลพันธุ์ เจริญทรง เจ้าหน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยชำนาญการ เทศบาลตำบลหลักเมือง อ.เมือง ได้นำเจ้าหน้าที่มาดำเนินการติดตั้งหลอดไฟ เพื่อเพิ่มไฟแสงสว่างพร้อมทั้งปรับเปลี่ยนกระจกมองทาง เพื่อเป็นการป้องกันในขั้นต้นแล้ว
สำหรับเรื่องกล้องวงจรปิดหรือกล้อง CCTV นั้น ต้องนำเรื่องแจ้งไปยังผู้บริหาร เพื่อเข้าประชุมงบประมาณเพื่อนำมาติดตั้งในคราวต่อไป ส่วนเรื่องของการจับกุมคนร้ายต้องฝากไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
ภาพและข้อมูลจาก
