ตำรวจเร่งไล่ล่าโจรโรคจิตหมายข่มขืนสาวใต้อุโมงค์สะพานข้ามถนนเพชรเกษม กลางเมืองราชบุรี หลังสาววัย 24 รอดหวุดหวิดในสภาพเปลือยกาย สุดทนโพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัยสาว ๆ ที่ต้องเดินทางช่วงค่ำคืน จนเป็นกระแสได้รับความสนใจจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีที่มีหญิงสาววัย 24 ปี โพสต์เฟซบุ๊กแจ้งเตือนภัยโดยเฉพาะสาว ๆ ที่ต้องเดินทางในช่วงเวลากลางคืน หลังที่เธอต้องตกอยู่ในเหตุการณ์ที่ตัวเองไม่เคยคิดว่าจะเกิดกับตัว จากการถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์สะกดรอยตามจนมาถึงบริเวณอุโมงค์ใต้สะพานกลับรถถนนเพชรเกษม หมู่ที่ 3 ตำบลโคกหม้อ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า สะพานโคกหม้อ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับโรงงานโอ่งรัตนโกสินทร์ ๑ ราชบุรี เพื่อหมายที่จะข่มขืน แต่ก็สามารถรอดมาได้อย่างหวุดหวิดในสภาพเปลือยกาย วิ่งร้องขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี เมื่อช่วงเวลาประมาณ 00.45 น. ของวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของคดี ได้รับการเปิดเผยจากพลเมืองดี 1 ราย ที่ให้การช่วยเหลือหญิงสาวที่รอดจากการถูกข่มขืน ทราบชื่อคือ นายบี (นามสมมติ) เป็นพนักงานของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ โดยนายบีเล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเวลาตีหนึ่งเศษ ๆ มีหญิงสาววิ่งมาร้องขอความช่วยเหลือในสภาพเปลือยกาย โดยมาในสภาพตื่นตกใจและร้องไห้ไปด้วย ตอนแรกนึกว่าคนจิตไม่ปกติ จึงไม่กล้าที่จะช่วยเหลือ แต่หลังจากที่พูดคุยจึงทราบว่าหนีจากการถูกคนร้ายจะข่มขืนมา โดยเธอได้ขอเสื้อผ้าเพื่อสวมใส่ ตนจึงเดินไปหยิบมาจากห้องพักและให้ไป จากนั้นก็วิ่งข้ามถนนไปขอความช่วยเหลือจากรถเพื่อให้พาเธอไปส่งที่บ้านพัก
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าของคดีที่สถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี ซึ่งได้รับรายงานว่า ผู้เสียหายทั้งสองคนได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เข้าไปสอบปากคำ พร้อมทั้งสเก็ตช์ใบหน้าคนร้ายและตรวจสอบร่องรอยภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่าง ๆ เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ด้าน พ.ต.อ. กิตติภพ ชมภูนุช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี กล่าวว่า หลังจากที่ทราบเรื่องและได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวน และจากประเด็นที่เป็นกระแสข่าวทางสังคมและสื่อต่าง ๆ ถึงพฤติกรรมของคนร้าย เบื้องต้นได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมทั้งตั้งทีมชุดสืบสวนสอบสวนทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ โดยมอบหมายให้รอง ผกก.ป.สภ.เมืองราชบุรี เป็นหัวชุดในการคลี่คลายคดี นำทีมลงพื้นที่ไล่ล่าติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้ เพื่อไม่ให้เป็นภัยแก่สังคม
พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร พร้อมทั้งประสานไปยังหน่วยงานในพื้นที่ ร่วมกันจัดส่งชุดกำลังออกตรวจตลอด 24 ชั่วโมง และมีการตั้งด่านสกัด โดยแบ่งเป็นช่วงเวลาในการบริการประชาชน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าว พร้อมกันนี้จะประสานไปยังหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อประสานเรื่องของการดูแลเครื่องอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย อาทิ ไฟแสงสว่าง กระจกมองทาง ที่ชำรุดหรือไม่มีความสว่างเพียงพอ และจัดให้มีการตัดถางหญ้าที่ขึ้นรกให้โล่งเตียน โดยเฉพาะจุดอับ จุดมืด ที่ดูแล้วเป็นอันตราย รวมไปถึงการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนด้วย
อย่างไรก็ดีอยากฝากแจ้งเตือนประชาชนหากมีความจำเป็นต้องเดินทางในช่วงเวลายามวิกาลไม่สมควรเดินทางเพียงลำพัง หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ขอให้ไปใช้เส้นทางที่ไม่เปลี่ยวหรือเลี่ยงเส้นทางที่มืดดูแล้วไม่ปลอดภัย และหากเป็นไปได้ขอให้ผู้ปกครองเดินทางมารับ รวมไปถึงหญิงสาวขอให้แต่งกายให้มิดชิด ไม่ล่อแหลมที่ดูแล้วเป็นการยั่วยวนอาจก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมได้
ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ขี่ต้องมีกระจกมองหลัง เพื่อไว้คอยสังเกตผู้ที่ขับรถตามหลังมา และหากพบหรือสงสัยว่ามีเหตุที่จะเกิดขึ้นหรือมีผู้ที่ขับขี่ตามมาด้วยความสงสัย ให้แวะเข้าบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ข้างทางนั้น ๆ หรือตามร้านค้าและปั๊มน้ำมัน พร้อมทั้งโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 หรือหมายเลข 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือในเบื้องต้น
