ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ เข้าร้องเรียน ผบช.น. หลังรับเรื่องขอความช่วยเหลือ กรณีมีเศรษฐินีที่ดินย่านฝั่งธนบุรี วัย 82 ปี ถูกลูกเลี้ยง 3 คน มอมยากล่อมประสาท หลอกโอนเงิน 20 ล้าน เผยหนึ่งในนั้นเคยต้องโทษคดีจ้างวานฆ่า
วันที่ 29 กันยายน 2559 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้นำหลักฐานและภาพถ่ายวงจรปิด เดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อเข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. หลังได้รับจดหมายขอร้องให้ช่วยเหลือกรณีเศรษฐนีที่ดินย่านฝั่งธนบุรี วัย 82 ปี ถูกลูกเลี้ยง 3 คน เป็นชาย 2 คน และหญิง 1 คน หลอกให้ปิดบัญชีตนเองและโอนเงิน 20 ล้านบาท เข้าบัญชีลูกเลี้ยงทั้งหมด โดยการบังคับให้กินยากล่อมประสาทเพื่อให้ครองสติไม่ได้ จนปัจจุบันต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลธนบุรี
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากการที่ นายสงกานต์ ได้รับจดหมายแจ้งจากหัวหน้าพยาบาลที่ดูแลเศรษฐินีรายนี้ ซึ่งเศรษฐินีรายนี้ เล่าว่า คนร้ายเป็นลูกที่ขอมาเลี้ยงจากโรงพยาบาล และก่อนหน้านี้เคยกล่าวเอาไว้ว่าหากวันหนึ่งตนเองเป็นอะไรไปจะยกทรัพย์สมบัติให้ลูกเลี้ยง และหลังจากนั้นลูกเลี้ยงก็กลับมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปทันที คือไม่ยอมให้ตนออกไปพบปะผู้คน พยายามจะให้โอนทรัพย์สินอยู่ตลอดเวลา จนมาช่วงปี 2558 มีการโอนเงินปิดบัญชี ที่ทางหัวหน้าพยาบาลคนนี้ได้เดินทางไปด้วย และได้พบความผิดปกติในการปิดบัญชีที่ต้องเซ็นชื่อแต่กลับเป็นการปั๊มลายนิ้วมือแทน
นายสงกานต์ กล่าวอีกว่า ด้วยความผิดปกติดังกล่าวทางเศรษฐินีจึงขอให้หัวหน้าพยาบาลช่วยร่างจดหมายและเซ็นชื่อกำกับว่า หากลูกเลี้ยงยอมคืนเงินที่เคยถอนไป 20 ล้านบาท ก็จะยกเงินจำนวน 10 ล้านบาทให้ จนมีการพูดคุยเรื่องร่างจดหมาย อยู่ ๆ ก็เกิดเหตุการณ์มีคนร้ายมาทุบรถยนต์ของหัวหน้าพยาบาลพร้อมขโมยเอากระเป๋าใส่เอกสาร แต่เป็นคนละใบกับที่ใส่เอกสารจดหมายร่างนี้ ซึ่งเหตุการณ์นี้มีภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิด
จนล่าสุด วันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา ลูกเลี้ยงได้ส่งกลุ่มนักเลงมาพาตัวเศรษฐินีออกไปจากโรงพยาบาลธนบุรี เพื่อไปบ้านพักย่านธรรมศาลา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าลูกเลี้ยงผู้หญิงเคยมีคดีที่ สน.ท่าพระ ในคดีจ้างวานฆ่าสามี รับโทษจำคุก 8 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมา ซึ่งตนเป็นห่วงในสวัสดิภาพของเศรษฐินีรายนี้ จึงได้ดำเนินการประสานไปทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อเข้าช่วยเหลือ
ด้าน พล.ต.ท. ศานิตย์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับเรื่องดังกล่าวเพื่อตรวจสอบแล้ว ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำผิดทางอาญาจริง จะดำเนินการสั่งการให้พนักงานสอบสวน สน.บางเสาธง เร่งรัดดำเนินการทันทีเพื่อให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่าย
ภาพและข้อมูลจาก
