ภาพจาก AFP / GOVERNMENT HOUSE
สื่อญี่ปุ่นรำลึกสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นตลอด 50 กว่าปี ในหลวง รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระจักรพรรดิ-จักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น
หนังสือพิมพ์โยมิอุริชิมบุนของญี่ปุ่น เผยแพร่บทความรำลึกถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ-จักรพรรดินีมิชิโกะ ที่เริ่มต้นตั้งแต่ 50 กว่าปีก่อนเรื่อยมา เผยทรงมีมิตรไมตรีที่ดีต่อกันมาก
จักรพรรดิอากิฮิโตะ-จักรพรรดินีมิชิโกะ
JIJI PRESS / AFP
JIJI PRESS / AFP
ต่อมาในเดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2507 เพียง 1 ปีหลังจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเยือนญี่ปุ่น มกุฎราชกุมารอากิฮิโตะและเจ้าหญิงมิชิโกะ ได้เสด็จฯ เยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรก
จากนั้นในปี พ.ศ. 2532 มกุฎราชกุมารอากิฮิโตะทรงขึ้นครองราชสมบัติเป็นสมเด็จพระจักรรดิอากิฮิโตะ ขณะที่เจ้าหญิงมิชิโกะก็ทรงเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีด้วย ทั้งสองพระองค์ได้ทรงเลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่เสด็จฯ เยือนหลังจากทรงครองราชย์
ทรงฉายพระรูปร่วมกันเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2534
JAPAN POOL / JIJI PRESS / AFP
สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะเสด็จเยือนประเทศไทยอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งเป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 60 ปี พระองค์ทรงเข้าร่วมพิธีฉลองสิริราชสมบัติ และในครั้งนั้น ทรงประทับนั่งตรงกลางระหว่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความแน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองราชวงศ์ได้เป็นอย่างดี
นอกจากสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะแล้ว สมาชิกราชวงศ์พระองค์อื่น ๆ ก็มีความสัมพันธ์อันดีต่อประเทศไทยเช่นกัน เจ้าชายอาคิชิโนะ พระราชโอรสของสมเด็จพระจักพรรดิอากิฮิโตะทรงมีไมตรีอันแน่นแฟ้นกับสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี พระองค์เสด็จเยือนประเทศไทยบ่อยครั้ง และยังได้ทรงศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการเลี้ยงไก่ของไทยอีกด้วย
ในการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชนั้น นำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจแก่พสกนิกรชาวไทยเป็นอย่างมาก ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ประจำสำนักพระราชวังญี่ปุ่นได้กล่าวว่า "ราชสำนักญี่ปุ่นนั้น มีความสัมพันธ์อันแน้นแฟ้นกับพระราชวงศ์ของไทยมาอย่างยาวนาน และสมเด็จพระจักรพรรดิทรงเสียพระทัยอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้ "
และเช่นเดียวกัน ชาวญี่ปุ่นเองต่างก็เศร้าโศกเสียใจต่อการสูญเสียพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของชาวไทย นายโอซามุ อาคางิ คณบดีคณะการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยโอซากา ผู้มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการเมืองไทยและมีความเข้าใจสังคมไทยเป็นอย่างดี กล่าวว่า
"พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ทรงธรรม และเป็นที่รักยิ่งแก่ปวงชนชาวไทย" นายอาคางิ กล่าว
นายอาคางิ เคยมีโอกาสได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุยเดชในปี พ.ศ. 2547 พระองค์ทรงประทับอยู่บนพระเก้าอี้ และแทบพระบาทมีสุนัขทรงเลี้ยงนอนหมอบอยู่ใกล้ ๆ พร้อมกับทรงมีพระราชดำรัสว่า "เราต้องห่วงใยในสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย" นายอาคางิรู้สึกประทับใจภาพในวันนั้นเป็นอย่างมาก และเขามารับรู้ในภายหลังว่า สุนัขตัวนั้นคือคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยงซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยุ่หัวได้ทรงพระราชนิพนธ์ถึงนั่นเอง นายอาคางิจึงแปลหนังสือพระราชนิพนธ์ "ทองแดง" เป็นภาษาญี่ปุ่นเพื่อเผยแพร่ให้กับชาวญี่ปุ่นได้ทราบ