ว่าที่คุณแม่วัย 24 ตัดสินใจสละลูกในท้อง เพื่อบริจาคไขกระดูก รักษาพี่ชายที่ป่วยเป็นมะเร็ง ชาวเน็ตยกย่อง นี่คือฮีโร่ที่แท้จริง
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม เว็บไซต์อ็อดดิซิตี้ เซ็นทรัล เผยแพร่เรื่องราวของ หยาง ลี่ หญิงสาวผู้มีอันต้องเผชิญกับเรื่องราวแสนเจ็บปวด เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต ว่าจะเลือกชีวิตของลูกน้อยในครรภ์ หรือจะช่วยชีวิต หยางจุน พี่ชายซึ่งกำลังจะตายจากโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (lymphoma)
ตอนที่หยางลี่รับทราบว่าพี่ชายของเธอกำลังจะตายนั้น เธอกำลังตั้งครรภ์ได้สามเดือน และกระบวนการปลูกถ่ายไขกระดูกนี้ จะส่งผลกระทบในด้านลบต่อลูกในท้องของเธอ ทำให้หยางลี่ต้องเลือกระหว่างการเก็บลูกของเธอเอาไว้ หรือเลือกที่จะช่วยชีวิตพี่ายของเธอ
หยางลี่เล่าว่า เธอเติบโตขึ้นในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในมณฑลเหอหนาน ครอบครัวของเธอยากจนมาก เธอจึงต้องไปอาศัยอยู่กับป้า ส่วนหยางจุนทำงานอยู่ในเมืองหังโจว ทุกครั้งที่เขากลับบ้านเกิด เขาจะมาหาเธอเสมอและเอาของขวัญมาฝากเธอทุกครั้ง หลังจากหยางลี่เรียนเรียนจบมัธยมปลาย เธอย้ายไปอยู่หังโจวเพื่อหางานทำและได้งานในร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง หยางจุนเป็นห่วงความปลอดภัยของน้องสาว จึงไปรับไปส่งเธอทุกวัน และเมื่อไรก็ตามที่หยางลี่ไม่มีเงินพอที่จะซื้ออาหาร หยางจุนก็จะพาเธอไปร้านค้าและซื้อของกินดี ๆ ให้
สำหรับหยางลี่ การตัดสินใจครั้งนี้เจ็บปวดมากที่สุด เธอบอกกับสามีและครอบครัวของเขาว่า "หยางจุนกำลังจะตาย เธอต้องช่วยชีวิตเขา" หลังจากตัดสินใจแล้ว หยางลี่เข้ารับการทำแท้งในวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะนี้เธอกำลังอยู่ในช่วงฟื้นร่างกายเพื่อให้พร้อมสำหรับการปลูกถ่ายไขกระดูกให้พี่ชาย
แพทย์กล่าวว่า การปลูกถ่ายไขกระดูกที่จะเกิดขึ้นนี้ มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงมาก อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าหยางจุนได้มีผู้บริจาคไขกระดูกที่เหมาะสมแล้ว แต่เขาก็จะต้องจ่ายค่าปลูกถ่าย เป็นเงินสูงถึง 400,000 หยวน หรือกว่า 2 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาหยางจุนหมดเงินไปกับค่ารักษาโรคมะเร็งแล้วกว่า 300,000 หยวน หรือราว 1 ล้าน 5 แสนบาท ค่ารักษาเหล่านั้น เงินเก็บที่เขาสั่งสมมาก็ไม่จ่าย เขาจึงต้องเป็นหนี้อีก 200,000 หยวน หรือราว 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หยางจุนยังพอมีโชค เพราะ นายแพทย์เชาลี่หง แพทย์ผู้รักษาเขา ได้เปิดรับบริจาค เพื่อระดมเงินมาช่วยเหลือค่ารักษาให้เขาแล้ว
หลังจากเรื่องราวของหยางลี่เผยแพร่ไปบนสังคมออนไลน์ หลายคนไม่เห็นด้วยและวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของเธอ แต่ก็มีอีกหลายคนที่ชื่นชมเธอ ว่ายอมเสียสละครั้งใหญ่เพื่อช่วยชีวิตพี่ชาย และยกย่องให้เธอเป็นฮีโร่เลยทีเดียว
ภาพ
www.yewaishengcun.com
