เรื่องเล่าจากศิริราช ในหลวง ร.9 ทรงงานหนักตลอดเวลา แม้ทรงพระประชวร

   

        เรื่องเล่าจากอดีตหัวหน้าคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา ในหลวง รัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงงานหนักตลอดเวลา แม้ทรงพระประชวร เมื่อได้ยินเสียง ทรงพระเจริญ ทรงมีพระพักตร์แจ่มใสขึ้น

        วันที่ 25 ตุลาคม 2559 ศาสตราจารย์คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ อดีตหัวหน้าคณะแพทย์ถวายการรักษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างปี 2550-2554 ได้ให้สัมภาษณ์เล่าเรื่องราวขณะ ในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จฯ ประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช กับทางไทยพีบีเอส ว่า พระองค์ทรงเป็นผู้ป่วยที่ดีมาก ปฏิบัติตามการรักษาพยาบาลอย่างเคร่งครัด รวมทั้งทรงมีความอดทนและเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้ป่วยในการฟื้นฟูร่างกาย แม้พระองค์จะทรงพระประชวรแต่ยังคงทรงงานตลอดเวลา เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้พสกนิกร
        ครั้งแรกที่ทราบว่าจะต้องถวายการรักษา ในหลวง รัชกาลที่ 9 ก็รู้สึกตื่นเต้น ดีใจ และก็เป็นเกียรติอย่างยิ่ง เมื่อพระอาการดีขึ้นก็ทรงงานเลย ห้องทรงงานของพระองค์อยู่ติดกับห้องประทับ พอเสวยพระกระยาหารเสร็จ ก็จะทรงพระราชดำเนินมาห้องทรงงาน บางครั้งก็ทรงเสวยในห้องทรงงานเลย พระองค์ทรงงานหนักตลอดเวลา ทรงอ่านข่าวสารจากหนังสือพิมพ์ อินเทอร์เน็ต และโทรทัศน์เป็นประจำ พระองค์ทรงทราบความเป็นไปจากคนที่มาเข้าเฝ้าฯ


        เรื่องโครงการก่อสร้างทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี พระองค์ทอดพระเนตรสภาพการจราจรบนสะพานปิ่นเกล้า การจราจรบนสะพานอรุณอมรินทร์และถนนโดยรอบซึ่งรถติดมากจากห้องทรงงาน จึงมีพระราชดำริว่าจะช่วยเรื่องการจราจรของฝั่งธนบุรี พระองค์ทอดพระเนตรแผนที่ ทรงพระปรีชามากในเรื่องของการจราจร และมีพระราชดำรัสว่า จะสร้างถนนหรืออะไรก็แล้วแต่ อย่าให้ประชาชนเดือดร้อน หลังจากนั้นท่านก็มีพระราชกระแสรับสั่งให้ประชุมเรื่องการจัดการจราจร พอได้ข้อมูลพร้อมจะถวายรายงาน พระองค์ก็มีพระราชวินิจฉัยออกมาในการที่จะแก้ไขปัญหาจราจรในฝั่งธนบุรี

         พอพระองค์ทรงแข็งแรงขึ้น คณะแพทย์ก็พยายามที่จะให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญ ก็จะพยายามทำทุกรูปแบบไม่ว่าจะพาเสด็จฯ ลงข้างล่างหรือไปที่ท่าน้ำ ซึ่งเป็นจุดที่อากาศดีมีลมพัดเย็นสบาย เป็นจุดที่พระองค์ทรงโปรดทอดพระเนตรพระบรมมหาราชวังอย่างใกล้ชิด อีกอย่างหนึ่งซึ่งทรงพระเกษมสำราญมาก คือ ดนตรี ผมจัดคอนเสิร์ต "เทิดไท้ องค์อัครศิลปิน" พระองค์ก็เสด็จฯ ไปทอดพระเนตร ทรงมีพระราชดำรัสกับผมว่า "เพลงเพราะดี ขอบใจนะ ที่จัดให้" ทุกครั้งที่ประชาชนเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" ภายในโรงพยาบาลศิริราช พระองค์ทรงได้ยิน พระพักตร์ก็แจ่มใสขึ้น

        มีเหตุการณ์หนึ่งที่ผมประทับใจคือ ตอนนั้นแพทย์และทีมงานเข้าเฝ้าฯ กันอยู่ 3-4 คน ที่ห้องทรงงาน ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีข่าวเรื่องการฟ้องร้องแพทย์ ปัญหาความไม่เข้าใจกันระหว่างแพทย์ ผู้ป่วยและญาติ พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสกับผมและคณะแพทย์ว่า "ให้พวกเราอ่อนน้อมถ่อมตน ทุกคนมีดี อย่าไปดูถูกใคร" ซึ่งเป็น 3 ประโยคสั้น ๆ แต่มีความหมายมาก นอกจากสุภาพแล้ว แพทย์ยังต้องให้เกียรติทุกคน โดยเฉพาะผู้ป่วย ไมตรีจิตก็จะเกิดขึ้นระหว่างแพทย์ ผู้ป่วยและญาติ ปัญหาต่าง ๆ ที่มีอยู่ก็จะลดน้อยลง

        เวลาเสด็จฯ ลงจากที่ประทับ สายพระเนตรที่มองประชาชนที่มาเข้าเฝ้าฯ เป็นสายพระเนตรที่ทรงพระเมตตา แม้กระทั่งเสด็จฯ ออกจากลิฟต์ พระองค์จะเอื้อมพระหัตถ์แตะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แล้วทรงมีพระราชดำรัสว่า "ขอบใจนะ" อีกเรื่องหนึ่งคือช่วงที่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี 2554 พระองค์ทรงทราบก่อนเกิด ให้ผมรายงานเรื่องน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2554 ก่อนที่น้ำจะท่วมในเดือนตุลาคม ผมต้องทำรายงานถวายทุกวันว่าน้ำขึ้นที่ไหน เท่าไหร่ กี่เมตร สถานการณ์เป็นอย่างไร ผมจะประชุมทีมงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมชลประทาน ทหารเรือ และผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการน้ำที่ห้องประชุมคณะแพทย์ทุกวัน และทำรายงานถวาย พระองค์ทรงทราบถึงสถานการณ์น้ำท่วมและทรงช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ ตามแนวพระราชดำริ ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง


ภาพจาก Thai PBS
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก