กลุ่มชาวนาพิจิตร รวมกลุ่มขายข้าวหอมมะลิสู่ผู้บริโภคโดยตรง ในสถานีบริการน้ำมัน อีกหนึ่งทางรอดของชาวนาไทย ด้าน กฟผ. ผุดโปรเจคท์ช่วยซื้อข้าว ถวายเป็นพระราชกุศล
วันนี้ (6 พฤศจิกายน 2559) กลุ่มชาวนาใน จ.พิจิตร ได้ร่วมกันนำข้าวที่ตนเองปลูก มาแปรรูปเป็นข้าวสารจำหน่ายในโครงการรวมพลังซื้อข้าวจากชาวนาในสถานีบริการน้ำมัน ที่สถานีบริการน้ำมันหลิมศิริวงษ์ ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร ให้ผู้บริโภคสามารถรับซื้อได้โดยตรง เป็นการเพิ่มรายได้จาการขายข้าวในช่วงราคาข้าวเปลือกตกต่ำ โดยจำหน่ายข้าวหอมมะลิในราคากิโลกรัมละ 35 บาท หรือ 3 กิโลกรัม 100 บาท ส่วนข้าวไรซ์เบอร์รี่ จำหน่ายเพียงกิโลกรัมละ 60 บาท
ด้าน นางสาวจำรัส เสือดี ชาวนาที่ร่วมโครงการ กล่าวว่า ราคาข้าวตอนนี้ตกต่ำมาก จากปีที่แล้วตันละ 9,000 - 10,000 บาท ในปีนี้ลดลงเหลือตันละ 5,000-6,000 บาท ข้าวหอมมะลินั้นทำได้ครั้งเดียวและได้ผลผลิตต่อไร่อย่างต่ำประมาณไร่ละ 50 ถัง ทำให้ชาวนาอยู่ไม่ได้ แต่การแปรรูปจำหน่ายสู่ผู้บริโภคโดยตรง จะลดต้นทุนและจำหน่ายได้ราคาตันละ 10,000-15,000 บาท
ทางด้าน นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการ กฟผ. เปิดเผยว่า ทาง กฟผ. ได้เตรียมโครงการช่วยชาวนา โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือเริ่มจากการทำโครงการ "คน กฟผ. ซื้อข้าว 9 กิโล ช่วยชาวนาไทย ถวายเป็นพระราชกุศล" รณรงค์ให้ผู้ปฏิบัติงานร่วมซื้อข้าวจากชาวนาคนละ 9 กิโลกรัม โดยเริ่มสั่งจองข้าวได้ระหว่างวันที่ 9-21 พฤศจิกายนนี้ ก่อนซื้อข้าวจากแหล่งต่าง ๆ เช่น เครือข่ายเกษตรกรชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง กฟผ.บริเวณรอบพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า เครือข่ายชาวนา สมาคมชาวนาไทย โดยมีเป้าหมายซื้อข้าวจากชาวนาไม่น้อยกว่า 29,999 กิโลกรัม
จากนั้นจะจัดหาเครื่องสีข้าวมาบริการให้แก่ชาวนาในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า และร่วมมือกับวิทยาลัยเทคนิคของจังหวัดต่าง ๆ พัฒนาเครื่องสีข้าวชุมชนให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ขณะที่ในระยาว กฟผ.จะจัดทำโครงการ "ข้าวชาวนา เบอร์ 5" โดยเกษตรกรสามารถนำไปวางจำหน่ายได้ที่ร้านค้าภายในหน่วยงานของ กฟผ. ตลอดจนรณรงค์ให้คนไทยหันมาบริโภคข้าวกล้อง ที่ดีต่อสุขภาพและยังช่วยลดการใช้พลังงาน
ขณะที่ พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานลงพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อสำรวจปริมาณผลผลิตข้าวเปลือกนาปีรอบแรกอย่างละเอียด เพื่อหาตัวเลขผลผลิตที่ชัดเจน ไม่ใช่การประมาณการ
ภาพจาก ช่อง 8
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ช่อง 8, , ช่อง 8