x close

หนุ่มวิศวะ มช. เข้าให้ปากคำ ด้านคู่กรณีชี้มองหน้ากันไป-มา แถมโดนต่อยสวน

หนุมวิศวะ ม.เชียงใหม่

             หนุ่มวิศวะ ม.เชียงใหม่ ให้ปากคำตำรวจ ยันขอโทษแล้ว แต่ถูกตื้บอ่วม ถามมองหน้าตอนไหนกลับถูกหาว่าไขสือ ด้านคู่กรณีชี้ มองหน้ากันไป-มาก่อนวันเกิดเหตุ บอกโดนต่อยสวนเหมือนกัน ยันไม่หลบหนีแน่นอน

             จากกรณีที่ นายปวีณ์กร สัมพันธวิวัฒน์ อายุ 22 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ถูกวัยรุ่นต่างสถาบันกล่าวหาว่ามองหน้า ซึ่งนักศึกษารายดังกล่าวก็ได้พูดขอโทษ แต่กลับถูกลากตัวไปทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนหัก-ตาแตก ในพื้นที่เมืองเชียงใหม่ [อ่านข่าว : อีกราย หนุ่มวิศวะ ถูกรุมทำร้ายสาหัส ตาแตก-แขนหัก กลางเมืองเชียงใหม่ คลิก]
             ล่าสุดวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 เฟซบุ๊ก Pook Sukonta Berthebaud ได้รายงานความคืบหน้าในกรณีดังกล่าวว่า คู่กรณีของนายปวีณ์กร คือ นายวุฒิกรณ์ ดอนปัน อายุ 22 ปี นักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ ซึ่งนายวุฒิกรณ์ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างรุนแรงว่าตนถูกใส่ร้าย อีกฝ่ายต่างหากที่ท้าทายแต่เจอเขาต่อยร่วงไปทั้งคู่

หนุมวิศวะ ม.เชียงใหม่

             ทั้งนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวระบุว่า ได้รับข้อมูลจากพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า เพื่อนของผู้ก่อเหตุมารุกรานไม่เลิก ซึ่งผู้ก่อเหตุนั้นเข้าใจผิดแต่ยังคิดว่าตัวเองเป็นคนถูก จนสุดท้ายก็ทำร้ายผู้อื่นอย่างรุนแรงโดยไม่ฟังเหตุผล และขอให้ได้รับผลการกระทำตามกฎหมาย ทั้งนี้ตนเองเป็นคนแชร์ข่าวดังกล่าวแต่กลับถูกเพื่อนของผู้ก่อเหตุเข้ามาต่อว่ามากมาย แต่มีการคุกคามระรานไปถึงรูปลักษณ์ของตน แทนที่จะอธิบายดี ๆ เรื่องราวก็จะไม่เป็นเช่นนี้

             ต่อมา รายงานข่าวระบุว่า นายวุฒิกรณ์ คู่กรณีของหนุ่มวิศวะ ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ พร้อมด้วยพ่อและแม่ โดยเล่าถึงเหตุการณ์ก่อนวันเกิดเหตุประมาณ 2 วันว่า ตนพร้อมด้วยแฟนสาวและเพื่อน 1 คน ได้เข้าไปนั่งในร้านกาแฟใกล้ที่เกิดเหตุ และพบว่า นายปวีณ์กร ได้เข้ามาในร้านพร้อมแฟนสาว พร้อมทั้งมองหน้าตนด้วยอาการคล้ายไม่พอใจ เนื่องจากตนไปมองแฟนสาวของนายปวีณ์กร หลังจากนั้นในวันที่เกิดเหตุตนพร้อมเพื่อนอีก 1 คน ได้ไปที่ร้านกาแฟร้านเดิมอีกก็พบว่านายปวีณ์กรได้เข้ามาที่ร้านพร้อมเพื่อนอีก 2 คนเช่นกัน

            
นายวุฒิกรณ์ ระบุอีกว่า จากนั้นก็ยังคงมองหน้ากันไป-มา อยู่เช่นเดิม จนตนและเพื่อนออกมาสูบบุหรี่หน้าร้าน ฝ่ายคู่กรณีก็เดินออกมาเช่นกัน ตนจึงเดินเข้ามาถามว่ามองหน้าทำไม และมีการพูดคุย ก่อนยื้อยุดผลักอกกันไปมา โดยนายปวีณ์กรก็ต่อยสวนตนเช่นกัน นายปวีณ์กรยังบอกอีกว่าขอโทษไม่รู้เรื่อง หลังจากนั้นเพื่อนตนจึงเข้ามาห้าม แต่ตนก็ได้ผลักนายปวีณ์กรจนล้มพร้อมให้มาเคลียร์กันต่อที่รถ แล้วได้นำไม้เบสบอลออกมาเพื่อเป็นการป้องกันตัว แต่คู่กรณีก็ไม่ได้เข้ามาทั้งยังเดินหนีไป ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และจะไม่มีการหลบหนีอย่างแน่นอน


             เวลาต่อมา นายปวีณ์กร นักศึกษาวิศวะผู้ได้รับบาดเจ็บพร้อมด้วยมารดา ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่าหลังเกิดเหตุได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ซึ่งตอนนี้ตาข้างขวาถูกชกจนเส้นเลือดฝอยในตาแตก ตอนนี้อาการเริ่มทุเลาแล้ว ส่วนอาการเบ้ากระดูกที่หัวไหล่ซ้ายหลุดต้องเข้ารับการรักษาต่อเนื่องกว่า 6 สัปดาห์

             โดยนายปวีณ์กร ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับกลุ่มเพื่อนได้ไปดื่มกาแฟที่ร้านกาแฟดำเนินสะดวก บริเวณด้านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งตอนที่กำลังกลับตนถูกนายวุฒิกรณ์ พร้อมกับเพื่อนประมาณ 4-5 คน เดินตรงเข้ามาหาตนและถามว่าตนไปมองหน้าวันก่อน ทำให้นายวุฒิกรณ์ไม่พอใจ ก่อนที่นายวุฒิกรณ์จะลากตนไปทำร้ายร่างกายจนล้มตนต้องเอาแขนยันพื้นไว้ ก่อนที่เพื่อนของนายวุฒิกรณ์จะห้ามไว้ และนายวุฒิกรณ์ได้บอกให้ตนไปคุยกันต่อที่รถ ตนและเพื่อนจึงเดินไปเพื่อเคลียร์ปัญหาให้จบ แต่พอไปถึงก็เจอนายวุฒิกรณ์ยืนถือไม้เบสบอลรอที่รถ ตนและเพื่อนจึงรวบรวมสติและเดินทางเข้าแจ้งความ


             นายปวีณ์กร เล่าอีกว่า ปกติตนชอบมองทั่ว ๆ ไปอยู่แล้วและยังเป็นคนที่ตาดูเหมือนโมโห แต่จริง ๆ แล้วไม่มีอะไรเลย วันเกิดเหตุตนได้ไปกับเพื่อนพอเดินออกมาจากร้านก็ถูกตะโกนไล่หลังมาว่า "เก๋าเหรอ วันก่อนมามองหน้า" ตนก็ตอบกลับไปว่ามองตอนไหน อีกฝ่ายกลับมาหาว่าตนไขสือจึงเกิดเรื่องขึ้น ตนก็ได้ขอโทษไปแล้ว แต่อีกฝ่ายไม่ยอมจบจนตนถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บขนาดนี้


             ด้านนางกมลวรรณ สัมพันธวิวัฒน์ อายุ 55 ปี มารดาของนายปวีณ์กร กล่าวว่า ต้องรักษากระดูกหัวไหล่ประมาณ 6 สัปดาห์ ส่วนอาการบาดเจ็บที่ตาก็ดีขึ้นมากแล้วเพราะประคบตลอดแต่ยังมีบวมช้ำอยู่ แต่ที่เป็นห่วงคือแขนข้างซ้ายเพราะลูกถนัดซ้าย ตอนนี้ยังเขียนหนังสือไม่ได้เลย ตอนนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากคู่กรณี อีกทั้งก่อนเกิดเหตุทางบ้านยังได้รับข้อมูลว่ามีการถ่ายรูปลูกชายไว้ก่อนเพื่อดูตัว แล้วจึงได้มาก่อเหตุทำร้ายร่างกายกันขึ้น

             เบื้องต้นหลังเจ้าหน้าที่ได้ทำการรับแจ้งความและได้แจ้งข้อกล่าวหากับทางด้านนายวุฒิกรณ์ ในข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการติดต่อให้นายวุฒิกรณ์ มารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะได้ติดต่อพยานของทั้งสองฝ่ายที่อยู่ในเหตุการณ์มาให้ปากคำ และจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อที่จะได้ดำเนินคดีต่อไป

ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Pook Sukonta Berthebaud, cnxnews.net, onlinenewscm.com

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
 


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หนุ่มวิศวะ มช. เข้าให้ปากคำ ด้านคู่กรณีชี้มองหน้ากันไป-มา แถมโดนต่อยสวน อัปเดตล่าสุด 1 ธันวาคม 2559 เวลา 13:27:54 22,957 อ่าน
TOP