ครูซี 8 ที่ตกเป็นจำเลยสังคมว่าเป็นเมียน้อยบุกตบครูเมียหลวง เปิดบ้านแถลงโต้ข้อกล่าวหา จ่อฟ้องคนอยู่เบื้องหลังที่ทำให้ตนและครอบครัวเสียหาย 20 ล้านบาท
จากประเด็นดราม่าร้อนในโซเชียลที่มีการเผยแพร่ข่าวครูเมียน้อยตบครูเมียหลวง จนเป็นเหตุให้นักเรียนรับไม่ได้กับพฤติกรรมของครูเมียน้อย และได้มีการแชร์ทั้งภาพและข้อความว่อนโซเซียลกันไปก่อนหน้านี้
คืบหน้าล่าสุด (4 ธันวาคม 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเอ (นามสมมติ) ครู ค.ศ. 3 ซี 8 โรงเรียนชื่อดัง ใน จ.อำนาจเจริญ ยอมเปิดบ้านนั่งแถลงข่าวพร้อมเผยความจริงที่เกิดขึ้นว่า เกิดเหตุเมื่อช่วงเวลา 02.30 น. ของวันที่ 28 พฤศจิกายน 2559 มีคนมาเคาะประตูห้องนอนของตนอย่างแรงหลายต่อหลายครั้ง และยังตะโกนออกมาว่า ปืนมา ปืนมา ตนกำลังนอนหลับตกใจตื่นขึ้นมาเปิดประตูห้องนอน และออกมาด้านนอกห้องพบคนรูปร่างผอมสูงใช้ผ้าคลุมหน้าคลุมตา ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด พูดเพียงคำเดียวว่า ปืนมา ปืนมา
จากนั้นตนพยายามจะเปิดหน้าตาดู แต่บุคคลดังกล่าวพยายามจะบุกรุกเข้ามาที่ห้องนอน ซึ่งตนนอนอยู่คนเดียว สามีของตนที่เป็นผู้รับเหมาไปทำงานที่หน้างานยังไม่กลับบ้าน ตนจึงดึงแขนไว้ และฉุดกระชากกันไปมาหลายต่อหลายครั้งจนถึงขั้นตบตี ส่วนคู่กรณีก็ได้กระชากผม ดึงกันไปกันมาสักพัก บุคคลดังกล่าวจึงได้ร้องออกมาว่า "มาตามหาสามี" ตนจึงตกใจและถามว่าทำไมทำแบบนี้ จากนั้นตนก็ดึงแขนไปส่งที่กลางลานบ้านตนแล้วให้เดินออกไป
นางเอ เล่าต่อว่า จากนั้นตนก็เข้านอนเป็นปกติเพราะคนที่มาบุกรุกบ้านตน คือ นางบี (นามสมมติ) เป็นครูสอนวิชาภาษาอังกฤษอยู่ที่โรงเรียนเดียวกันกับตน และตนก็สงสัยว่าอยู่ ๆ นางบี จะมาตามหาสามีที่บ้านตนได้อย่างไร พอรุ่งเช้าตนทราบข่าวทางโซเชียล กล่าวหาว่าตนเป็นเมียน้อย และมีคนโพสต์ข่าวเสีย ๆ หาย ๆ แต่ตนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเลย
มาวันนี้ตนทนไม่ได้ จึงต้องเปิดแถลงข่าว และขอความเป็นธรรม พร้อมรวบรวมเอกสารหลักฐานจะฟ้องหมิ่นประมาทครูผู้บุกรุกและคนที่ลงข่าวในโซเชียลเน็ตเวิร์กที่บิดเบือนจากความเป็นจริง และจะฟ้องคนที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้ตนและครอบครัวของตนต้องเสียหาย เป็นจำนวนเงิน 20 ล้านบาท ทั้งนี้ เชื่อว่านักเรียนที่ตนสอนคงไม่ได้เป็นคนนำเรื่องดังกล่าวไปเผยแพร่อย่างแน่นอน เวลาจะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ความจริงและจะกระชากหน้ากากคนที่ใส่ร้ายตนได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะผู้บริหารและคณะกรรมการต้นสังกัด ได้เรียกตัวครูเมียหลวง ครูเมียน้อย และพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ในกระแสดังกระฉ่อนโซเชียลเน็ตเวิร์ก เข้าสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน ที่อาคารสำนักงานโรงเรียนต้นสังกัดของครูคู่กรณี โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียด ซึ่งทางผู้บริหารของทางโรงเรียน ไม่ยอมให้ผู้ที่ไม่ส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปเฝ้าสังเกตการณ์หรือรับฟังแต่อย่างใด
