หากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 หลายคนคงจำได้ดีกับโศกนาฏกรรมครั้งประวัติศาตร์กับอุบัติภัยสึนามิ ที่นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศไทย และแม้จะผ่านมานานถึง 12 ปี แล้วด้วยกัน แต่เชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นยังคงฝังอยู่ในความทรงจำไม่มีวันลืม
ล่าสุด วันที่ 24 ธันวาคม 2559 ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า พ.ต.อ. สาธิต ก้อนแก้ว รองผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ตัวแทนผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมฆาตะกั่วป่า ได้พาญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิเดินทางไปยังสุสานผู้ประสบภัยสึนามิ ที่ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า เพื่อเดินทางมารับศพญาติผู้เสียชีวิตกลับไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนา จำนวนทั้งหมด 5 ศพ
นอกจากนี้ รายงานเปิดเผยว่า ยังมีศพที่ถูกฝังอยู่ที่สุสานอีก 412 ศพ ซึ่งยังไม่สามารถพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากต้องรอการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ที่ทางญาติจะต้องเป็นผู้นำหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาขอเปรียบเทียบดีเอ็นเอ
นายชาติชาย คงเกลี้ยง หนึ่งในญาติของผู้เสียชีวิตที่มารับศพ เผยว่า แม้เหตุสึนามิจะผ่านมามากกว่าสิบปีแล้ว แต่ตนเองยังจำเหตุการณ์ทุกอย่างได้ โดยในครั้งนั้นครอบครัวต้องสูญเสียพ่อ แม่ และลูกชายวัย 7 ขวบ ซึ่งที่ผ่านมาเจอเพียงร่างของพ่อและแม่ ส่วนลูกชายสูญหายไป จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ติดต่อมาว่า ผลการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของลูกชายตรงกับดีเอ็นของศพ ก็รู้สึกดีใจมาก แม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านมานานถึง 12 ปี แต่ในที่สุดตนก็พบลูกชายและได้พากลับบ้าน
ภาพและข้อมูลจาก ช่อง 8