มติที่ประชุมปมทุจริตสอบนายสิบตำรวจ ให้ตัดสิทธิ์เฉพาะผู้ทุจริตสอบ ยันไม่สอบใหม่ผู้บริสุทธิ์ไม่ได้รับผลกระทบ ชี้พบพิรุธอีกบางส่วนที่ บช.ภ.1 ย้ำไม่ยอมให้คนทุจริตเข้ามาเป็นตำรวจ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2559 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 10.30 น. พล.ต.อ. เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาผลการตรวจสอบข้อมูลรับสมัครและคัดเลือกสอบนายสิบตำรวจ หลังพบการทุจริตสอบในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค(บช.ภ.) 7 โดยมีตัวแทนแต่ละภาค ตั้งแต่ บช.ภ.1-9 ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้(ศชต.) ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เข้าร่วม โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.อ. เดชณรงค์ กล่าวภายหลังการประชุม ว่า
ผลสรุปการประชุมว่าจะให้การสอบเป็นโมฆะหรือไม่โมษะนั้น
ในที่ประชุมได้ลงความเห็นให้ตัดสิทธิ์เฉพาะบางรายที่พบการทุจริต ซึ่งมีทั้ง
บช.น. บช.ภ.1 และ บช.ภ.7 จำนวนหนึ่ง ส่วนตัวเลขที่ชัดเจนยังไม่ขอเปิดเผย
ซึ่งมติดังกล่าวคณะทำงานจะได้เสนอให้ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.
พิจารณาอีกครั้ง เบื้องต้นได้นำเรียนทางวาจาให้ทราบเรียบร้อยแล้ว ซึ่ง
ผบ.ตร. คงจะใช้เวลาเล็กน้อยในการพิจารณา เนื่องจากเป็นเวลาเร่งด่วน
ส่วนการประกาศผลสอบ ทาง บช.ภ.1 กับ บช.ภ.7 ซึ่งมีปัญหาอยู่ขณะนี้
ขอประกาศวันที่ 27 เหมือนกันทุกที่ ส่วน บช.น. ขอขยับออกไปอีก 2-3 วัน
คือจะประกาศในวันที่ 30 มกราคม
ซึ่งยืนยันว่าการพบทุจริตดังกล่าวไม่กระทบการสอบคัดเลือกแต่อย่างใด
ส่วนการดำเนินคดีกับมือรับจ้างหรือผู้ที่มารับจ้างสอบ ต้องถูกดำนเนินคดี
ข้อหาอั้งยี่ และข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
เป็นความผิดมาตรา 14 ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ส่วนผู้สมัครสอบก็ถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกัน
โดยทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งการว่าจะยอมให้บุคคลทุจริตเข้ามาเป็นตำรวจเด็ดขาด
พร้อมกันนี้ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ
ไปตรวจสอบซ้ำอีกว่าพบความบกพร่องของผู้คุมสอบด้วยหรือไม่
ถ้าพบก็ต้องดำเนินการ
อย่างไรก็ตามจากการสืบสวนสอบสวนยังไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง
