เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2560 สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์ รายงานว่า เปอร์วีน ราฟีค หญิงชาวปากีสถาน ถูกศาลตัดสินประหารชีวิต หลังก่อเหตุฆาตกรรมลูกสาวแท้ ๆ ของตนเองโดยการทุบตีและเผาทั้งเป็น สาเหตุเพราะเธอแต่งงานกับผู้ชายที่ครอบครัวไม่ยอมรับ ซึ่งมัน "นำความเสื่อมเสียอับอาย" มาสู่วงศ์ตระกูล
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ครอบครัวของซีนาตปฏิเสธความรักของเธอนั้น เป็นเพราะชาติพันธุ์ที่แตกต่างของทั้งคู่ ฮาซานมีเชื้อสายปาทานในขณะที่ครอบครัวของซีนาตเป็นชาวปัญจาบ ซีนาตรับรู้ความต่างนี้ดีและครอบครัวของเธอก็สั่งห้ามอย่างเด็ดขาดไม่ให้แต่งงานกับเขา
ซีนาตเคยกล่าวกับสามีว่า การที่เธอหนีมาแต่งงานกับเขาแบบนี้ ครอบครัวต้องฆ่าเธอแน่ ๆ แต่ซีนาตเบาใจและยอมกลับบ้านเพราะญาติผู้ใหญ่ทั้งทางฝั่งเธอและสามีแนะนำให้เธอกลับบ้าน พร้อมกับยืนยันว่าจะไม่มีใครทำร้ายเธอแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ฮาซานผู้เป็นสามียังได้รับคำสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะอีกว่า พวกเขาได้วางแผนเตรียมจัดงานแต่งงานที่เหมาะสมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
ทว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นไปดังที่กล่าว ทันทีที่ซีนาตกลับมาถึงบ้าน เธอถูกแม่และพี่ชายทุบตีก่อนจะถูกลากตัวไปมัดไว้กับเตียง เปอร์วีน แม่แท้ ๆ ของซีนาต ราดน้ำมันบนตัวเธอและจุดไฟเผาฆ่าเธอทั้งเป็น การฆาตกรรมครั้งนี้ไม่ได้ถูกทำอย่างลับ ๆ เปอร์วีนเดินออกไปนอกบ้านและประกาศให้ทุกคนรับรู้เองด้วยซ้ำว่าเธอฆ่าลูกสาวในไส้เพื่อรักษาเกียรติของครอบครัว แต่เมื่อเปอร์วีนถูกจับกุม เธอกลับปฏิเสธกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเธอไม่ได้เป็นคนฆ่าลูกสาว โดยบอกว่าซีนาตฆ่าตัวตายเอง
เปอร์วีนมาให้การรับสารภาพในภายหลัง โดยเธอกล่าวในศาลเมืองลาฮอร์ว่าเธอฆ่าซีนาต เพื่อเป็นการลงโทษในฐานะที่นำความอับอายมาสู่ครอบครัว จากความผิดในครั้งนี้ทำให้ศาลพิพากษาประหารชีวิตเธอ ส่วนอานีส อาเหม็ด พี่ชายของซีนาต ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
ทั้งนี้ซีนาตไม่ใช่ผู้หญิงปากีสถานคนแรกที่ถูกสังหารเพื่อเกียรติของครอบครัว เฉพาะแค่ครึ่งปีแรกของปี 2559 มีผู้หญิงปากีสถานถูกสังหารด้วยเหตุนี้ไปแล้วกว่า 300 คน ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรง แต่ถ้าสมาชิกคนอื่นในครอบครัวให้อภัย ผู้ก่อเหตุก็จะพ้นผิด ไม่ต้องได้รับโทษใด ๆ ทั้งนั้น แต่ตอนนี้กฎหมายได้เปลี่ยนไปแล้ว ตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2559 การฆ่าเพื่อเกียรติจะไม่ถูกละเว้นโทษอีกต่อไป ใครก็ตามที่ก่อเหตุจะโดนลงโทษจำคุกอย่างน้อย 25 ปี ไปจนถึงประหารชีวิต
ภาพจาก urdu.geo.tv, addiyar.com
ข้อมูลจาก edition.cnn.com, dailymail.co.uk