ภาพจาก a katz / Shutterstock
วิจารณ์สนั่น ทรัมป์นั่งดู "Finding Dory" แบบสุดชิล ขณะที่ประชาชนออกมาประท้วงนโยบายกีดกันมุสลิม ฝ่ายโฆษกทำเนียบขาวโต้ ประธานาธิบดีทำงานตลอด ไม่ได้แอบดูหนังอย่างแน่นอน
นับตั้งแต่ โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการนั้น เขาก็ได้เดินหน้าทำตามนโยบายสุดโต่งหลาย ๆ นโยบาย ตามที่ได้สัญญากับประชาชนไว้ตอนหาเสียง หนึ่งในนั้นคือการเพิ่มความเข้มงวดด้านการจัดการผู้อพยพ โดยทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษที่สั่งห้ามไม่ให้ชาวมุสลิม 7 ชาติ เดินทางเข้าประเทศเป็นเวลา 3 เดือน คำสั่งนี้ได้สร้างความไม่พอใจแก่ประชาชนเป็นอย่างมากจนก่อให้เกิดการออกมาประท้วงต่อต้านเป็นวงกว้าง
ข่าวรายงานว่า ตอนที่ทรัมป์ถูกกล่าวหาว่าเปิดภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวดูนั้น คือช่วงที่เขากำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว ทรัมป์ได้หารือเรื่องต่าง ๆ กับผู้นำซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และรักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ผ่านทางโทรศัพท์ หลังจากนั้นก็นั่งดูภาพยนตร์ไป โดยใช้เวลาราว 97 นาที ก่อนจะกลับมาทำงานอีกครั้ง
ด้าน คริสเตียน ลู รองเลขาธิการกระทรวงแรงงาน ได้วิเคราะห์เรื่องนี้เอาไว้อย่างละเอียดว่า ประธานาธิบดีทรัมป์กลับเข้ามาทวีตข้อความในทวิตเตอร์เมื่อเวลา 16.45 น. และเวลาที่เขาน่าจะเริ่มเปิดภาพยนตร์ดูคือราว 15.00 น. ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความยาว 97 นาที เมื่อเทียบกับเวลาที่เขาหายไปก็คาบเกี่ยวกันพอดิบพอดี และที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ การที่ประธานาธิบดีทรัมป์เลือกดูภาพยนตร์เรื่องนี้มันมีนัยแฝงอยู่ เพราะเนื้อหาการผจญภัยของเจ้าปลาสีฟ้าในเรื่องก็เปรียบได้กับชีวิตของผู้อพยพต่างชาติ ที่แอบเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายเพื่อมาตามหาพ่อแม่ของพวกเขา
ไม่ใช่แค่เพียงรองเลขาฯ กระทรวงแรงงานเท่านั้นที่สังเกตถึงประเด็นนี้ โดยหนึ่งในทีมงานผู้สร้างภาพยนตร์ก็กล่าวว่า การที่ประธานาธิบดีทรัมป์นั่งดูภาพยนตร์เรื่องนี้มันเป็นอะไรที่แปลกและดูย้อนแย้งมาก พล็อตเรื่องคือการเดินทางเพื่อมาเจอหน้าครอบครัว แต่ในความจริงแล้วตัวเขาเองด้วยซ้ำคือคนที่สั่งการขัดขวางไม่ให้มันเกิดขึ้น
หลังจากนั้นก็ได้ทำงานต่อถึงราว 19.00 น. ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้กลับมาใช้ทวิตเตอร์อีกครั้ง ในเวลา 19.45 น. และโฆษกย้ำอีกว่าเรื่องที่ประธานาธิบดีใช้เวลาถึง 90 นาที เพื่อนั่งดูภาพยนตร์ขณะทำงานนั้นไม่ใช่เรื่องจริงอย่างแน่นอน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Finding Dory