x close

ครูจอมทรัพย์ ขึ้นศาลวันแรก แต่ไม่พบ สับ วาปี เข้าร่วมเป็นพยานสำคัญ

ครูจอมทรัพย์ ติดคุกฟรี

          ครูจอมทรัพย์ พร้อมพยานสำคัญขึ้นศาลวันแรก คดีขับรถชนคนตายเมื่อปี 2548 ไม่พบนายสับ วาปี ชายอ้างเป็นผู้กระทำความผิดตัวจริง ด้านรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ชี้ ได้ตัดชื่อ นายสับ ออกในการรื้อคดีแล้ว

          จากกรณีที่ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครูใน จ.สกลนคร ถูกศาลตัดสินจำคุกในข้อหาขับชนนายเหลือ พ่อบำรุง จนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2548 ซึ่งภายหลังได้มีการฟ้องร้องให้รื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่นั้น

          วันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2560) ที่ศาลจังหวัดนครพนม นางจอมทรัพย์ พร้อมพยานสำคัญ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถยนต์ 10 ปาก ได้เดินทางมาขึ้นศาลเพื่อสืบพยานนัดเเรก นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเคลื่อนย้ายรถกระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บค 56 สกลนคร ซึ่งเป็นของนางจอมทรัพย์มาให้ศาลสืบเกี่ยวกับร่องรอยการชนต่าง ๆ ด้วย
ครูจอมทรัพย์ ติดคุกฟรี

          โดยพยานของฝ่ายนางจอมทรัพย์ 10 ปาก ประกอบไปด้วยพยานสำคัญคือ

          - นายสับ วาปี ผู้ที่ออกมารับสารภาพว่าเป็นคนขับรถชนคนตายตัวจริง ซึ่งวันนี้กลับพบว่าไม่ได้ร่วมเดินทางมายังศาลด้วย

          - นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ และนางทองเรศ วงศ์ศรีชา ผู้ที่เห็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2548

          - นายประพัฒน์ แสนเมืองโคตร ผู้ครอบครองรถทะเบียน บค 56 สกลนคร ต่อจากครูจอมทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2548 จนถึงปัจจุบัน

          - นายนิรันด์ แสนเมืองโคตร สามีครูจอมทรัพย์ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์จากโตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และกรมการขนส่งทางบก เพื่อสืบพยานหลักฐานทั้งหมด

          ทั้งนี้ พ.ต.อ. ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีของ นายสับ วาปี ว่า ทางกระทรวงยุติธรรมได้ข้ามขั้นตอนไป 2 ขั้นตอน คือ การนำนายสับ วาปี เข้าเครื่องจับเท็จ และการนำผู้เสียหายฟ้อง นายสับ วาปี ในคดีอาญา ซึ่งหากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นจะต้องรอให้ศาลมีคำพิพากษาก่อนว่านายสับ เป็นผู้กระทำความผิด จึงจะสามารถดำเนินการรื้อฟื้นคดีของนางจอมทรัพย์

          รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวต่อว่า ในการสืบสวนเห็นว่า นายสับ วาปี มาเกี่ยวข้องกับการรื้อฟื้นคดี ดังนั้นในการสอบสวนในชั้นนี้จึงไม่มีประโยชน์ที่จะพิสูจน์ว่า นายสับ วาปี กระทำความผิดหรือไม่ แต่เป็นการเน้นเรื่องของการพิสูจน์ว่า รถกระบะของนางจอมทรัพย์ขณะที่อยู่ในความครอบครองไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ และที่ผ่านมาทางกระทรวงกับตำรวจก็ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึก และการหาตัวผู้กระทำผิดก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ซึ่งไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของทางกระทรวงที่จะตัดสินได้ว่า นายสับ วาปี เป็นผู้กระทำผิดหรือไม่

          นอกจากนี้มีรายงานว่า การสวบสวนในวันที่ 9 และ 10 กุมภาพันธ์นี้ จะเป็นการสืบพยานของฝ่ายผู้คัดค้าน คือ พนักงานอัยการจังหวัดนครพนมและฝ่ายตำรวจ โดยทางตำรวจยังคงยืนยันว่าจะต้องรอกระบวนการของศาลเสร็จสิ้น จึงจะมีการตรวจสอบดำเนินคดี ในส่วนเกี่ยวข้องหากพบว่ามีขบวนการรับจ้างทำผิดแทนจริง

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ครูจอมทรัพย์ ขึ้นศาลวันแรก แต่ไม่พบ สับ วาปี เข้าร่วมเป็นพยานสำคัญ อัปเดตล่าสุด 8 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 16:15:08 11,329 อ่าน
TOP