ตำรวจเตรียมเรียก "ฟิล์ม รัฐภูมิ" รับทราบข้อหาทำธุรกิจ payall ให้บริการอีมันนี่ ไม่ได้รับอนุญาต 3 มี.ค. 60 เตรียมพิจารณาขยายผลเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่-สคบ. ชี้ บริษัทต้องหยุดให้บริการ
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 พล.ต.ท. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เรียกประชุมชุดสืบสวน โดยมีผู้แทนจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. เข้าร่วมประชุม เป็นครั้งที่ 4 เพื่อคลี่คลายคดีที่ "ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์" นักร้องนักแสดง กับพวกเปิดบริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด ซึ่งให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีมันนี่ ในการใช้ชำระค่าสินค้าและบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศชาติ หรือ ธปท.
โดย พล.ต.ต. ชวลิต แสวงพืชน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวน ระบุว่า ตำรวจจะออกหมายเรียกให้กรรมการและนิติบุคคลของบริษัท รวม 6 คน มารับทราบข้อหาให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตในวันที่ 3 มีนาคม 2560 เวลา 13.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ.
ทั้งนี้จากการรวบรวมพยานหลักฐาน ตำรวจพบว่าบริษัทดังกล่าวมีหลักฐานชัดเจนว่าประกอบธุรกิจไม่ถูกต้อง ส่วนจะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากยังไม่มีสมาชิกของบริษัทเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน เบื้องต้นจึงพบเพียงความผิดเกี่ยวกับการให้บริการอย่างเดียว
ด้าน นายพฤทธิพงศ์ ศรีมาจันทร์ ผู้ช่วยผู้ว่าการฝ่ายช่วยงานบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดตั้งบริษัทอีมันนี่ มีระเบียบขั้นตอน โดยจะต้องมีทุนจดทะเบียน 200 ล้าน และต้องมีวันเวลากำหนดคืนผลตอบแทนให้สมาชิก และเมื่อรับเงินจากสมาชิกแล้วจะต้องมีการจัดเก็บและทำบัญชีอย่างชัดเจน แต่พบว่า บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด มีการฝ่าฝืนทั้งหมด จึงได้เข้าร้องทุกข์ให้มีการดำเนินคดี อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบขณะนี้ยังพบว่ามีเพียง บริษัท เพย์ออล ที่เข้าข่ายความผิด แต่หากประชาชนมีเบาะแส หรือพบบริษัทที่เข้าข่าย สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1213
ด้าน นายณัชภัทร ขาวแก้ว นิติกรชำนาญการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า เดิมที บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จดทะเบียนในนาม บริษัท นานา คอร์เปอเรชั่น จำกัด ซึ่งขออนุญาตเป็นบริษัทขายตรงจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารเสริมและเครื่องสำอาง รวม 6 รายการ ตั้งแต่ปี 2525 ก่อนจะมาขออนุญาตกับ สคบ. และกรมการค้าภายใน เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด พร้อมปรับแผนการทำงานเป็นบริการอีมันนี่ แต่ยังไม่ได้รับอนุญาต แต่กลับให้บริการกับผู้บริโภคจึงเข้าข่ายการกระทำผิด และได้มีการเชิญกรรมการและนิติบุคคล รวม 6 คน เปรียบเทียบเสียค่าปรับรายละ 300,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,800,000 บาท
ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่ต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิก หรือสินค้า สามารถดำเนินการได้ตามระเบียบ ซึ่งทางบริษัทจะต้องจ่ายค่าสมาชิกคืนให้ภายใน 15 วัน และผู้บริโภคสามารถคืนสินค้าได้ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่รับสินค้า หลังจากนี้หากพบว่ายังมีโฆษณาปรากฏในเว็บไซต์หรืออินเทอร์เน็ตจะเข้าข่ายมีความผิดซ้ำ ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีอีกข้อหา
ภาพจาก Instagram filmrattapoom
