เมื่อวันที่ (28 มีนาคม 2560) ดร.ทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยทีมนักวิจัย เจ้าหน้าที่ และผู้แทนจากองค์กรพันธมิตร ได้แก่ มูลนิธิฟรีแลนด์ และมูลนิธิแพนธีร่า ร่วมกันเปิดเผยข่าวที่น่ายินดี หลังจากที่ได้ข้อมูลการสำรวจล่าสุดโดยใช้กล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า พบว่าเสือโคร่งสามารถดำรงชีวิตและขยายพันธุ์ได้ตามธรรมชาติในพื้นที่มรดกโลกกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่
การสำรวจครั้งนี้เริ่มต้นเมื่อปี 2559 กรมอุทยานแห่งชาติ ร่วมกับมูลนิธิฟรีแลนด์ และมูลนิธิ Panthera ทำการสำรวจประชากรเสือโคร่งในพื้นที่มรดกโลกกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ โดยการติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า จำนวน 158 ตัว ไว้ในบริเวณที่เป็นถิ่นอาศัยและแหล่งอาหารที่สำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น มูลนิธิ Panthera ซึ่งได้ทำงานอนุรักษ์เพื่อปกป้องพันธุ์สัตว์ประเภทเสือภายใต้โครงการ Tiger Forever ประเมินว่าเมื่อพื้นที่กลุ่มป่า ดงพญาเย็น-เขาใหญ่ได้รับการคุ้มครองดูแลให้มีความอุดมสมบูรณ์ จะสามารถรองรับประชากรเสือโคร่งได้มากกว่าในปัจจุบันอีกหลายเท่า
อย่างไรก็ดี เสือโคร่งถูกจัดอยู่ในสภาวะใกล้สูญพันธุ์ (Endanger species) เนื่องจากประชากรเสือโคร่งในธรรมชาติทั่วโลกมีจำนวนลดลงในช่วงศตวรรษที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จากประมาณ 100,000 ตัว เหลืออยู่ไม่ถึง 4,000 ตัว โดยป่าที่ยังมีรายงานพบเสือโคร่งในธรรมชาติมากสุดที่กลุ่มป่าตะวันตกมากกว่า 150-200 ตัว
ภาพจาก ไทยพีบีเอส, มูลนิธิฟรีแลนด์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก