เนติวิทย์ ยันไม่ต้องการป่วน แต่ต้องการแสดงจุดยืนเชิงสัญลักษณ์-รองอธิการบดี เผย จัดพื้นที่สำหรับผู้เห็นต่างแล้ว หากเข้าร่วมควรรักษามารยาท รอพิธีเสร็จถึงเดินออกจากแถว ยันรักษาประเพณีความภูมิใจของชาวจุฬา
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2560 นาย เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ประธานสภานิสิตจุฬาฯ เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุวุ่นวายพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นนิสิตจุฬาฯ ว่า ตามธรรมเนียมสถานิสิตจุฬาได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมพิธีถ่าย สภานิสิตมหาวิทยาลัยได้รับคำเชิญให้ร่วมงานถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตนเองและสภานิสิตอีกหลายคนก็ได้เข้าไปร่วมงาน ซึ่งหลังจากเข้าร่วมงานตนเองและสมาชิกสภานิสิตอีกหลายคนมีจุดยืนไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการถวายบังคมเนื่องจากรัชกาลที่ 5 ได้ประกาศยกเลิกการถวายบังคมแล้ว สิ่งที่พระองค์ต้องการให้ทำคือการโค้งคำนับเช่นเดียวกับสากล หลังจากเข้าร่วมงานก็ไม่มีปัญหาอะไรงานสามารถดำเนินไปได้ตามปกติ จนถึงขณะพิธีฝนได้ตกลงมา ซึ่งตนเองได้สังเกตเห็นว่าการจัดงานไม่ค่อยเรียบร้อยนิสิตบางคนไม่ได้รับแจกเสื้อกันฝน ประกอบกับก่อนหน้านี้ตนเองได้มีการพูดคุยกับอาจารย์ที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วและได้รับแจ้งว่าหากเกิดกรณีฝนตกจะให้ผู้เข้าร่วมพิธีโค้งคำนับเลยเพื่อความรวดเร็ว แต่ปรากฏว่าเมื่อฝนตกพิธีก็ยังคงดำเนินต่อไป
อีกประเด็นคือตนมองว่าอาจารย์ทำผิดเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ที่ตอนแรกบอกว่าจะเปิดพื้นที่สำหรับคนที่ไม่ต้องการถวายบังคม แต่ไม่มีการจัดให้ลงทะเบียนก่อนล่วงหน้า ทำให้คนไม่กล้าที่จะเข้าร่วมในกลุ่มที่ไม่ต้องการถวายบังคม ตนและคณะจึงได้หารือกันว่าหลังจากเสร็จพิธีจะเดินออกมาทันทีเนื่องจากปีที่แล้วการเดินออกมาขณะพิธียังไม่เสร็จก็อาจจะดูไม่เรียบร้อย ตนจึงโค้งคำนับและเดินออกจากงานทันที จากนั้นตนเองก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายมาจากด้านหลังโดยมีอาจารย์ท่านหนึ่งตะโกนด้วยถ้อยคำหยาบคายก่อนจะมาทราบภายหลังว่ารองประธานนิสิตรายหนึ่งถูกล็อคตามที่เป็นข่าวปรากฎ
นายเนติวิทย์ ระบุอีกว่า สาเหตุที่ตนเองและกลุ่มสภานิสิตจุฬาทำเช่นนี้เนื่องจากต้องการแสดงจุดยืนเชิงสัญลักษณ์และไม่มีเจตนาที่จะป่วนพิธีถวายบังคมแต่อย่างใดเพียงแค่ต้องการแสดงให้เห็นว่านี่คือพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ 5 เท่านั้น โดยตนเองและพวกตั้งใจที่จะทำแบบนี้เพื่อให้คนอื่นๆได้เห็นว่าพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ 5 ต้องการแบบนี้จริงๆ
ส่วนประเด็นที่มีคนตั้งคำถามว่าเป็นการจัดฉากหรือไม่นั้นตนขอยืนยันว่าไม่มีการจัดฉากทั้งสิ้น ไม่มีใครจ้างให้อาจารย์คนดังกล่าวทำพฤติกรรมเช่นนี้ และภาพที่ถ่ายได้ก็มาจากเพื่อนของตนไม่ใช่ภาพที่ได้จากสื่อมวลชนแต่อย่างใด ไม่มีใครทำให้จุฬาเสียหาย แต่จุฬาทำให้ตนเองเสียหาย และรองอธิการบดีทำให้จุฬาเสียหาย
อย่างไรก็ตามทางตนเองก็พร้อมที่จะหารือ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ในปีต่อต่อไปซึ่งที่ผ่านมาก็ได้เคยพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปแล้วหลายครั้ง โดยตนเองได้เสนอวิธีการประนีประนอมซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุดคือการเปิดพื้นที่ให้กับคนที่ไม่ต้องการถวายการบังคม ให้ใช้การโค้งคำนับแทน ไปแล้วล่วงหน้าก่อนงาน 2 เดือน แต่ทางมหาลัยไม่ได้ประสานติดต่อกลับมาว่าจะเปิดพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่จนกระทั่งก่อนจัดงานไม่กี่วันจึงติดต่อกลับไม่มีการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าทำให้นิสิตหลายคนไม่กล้าที่จะใช้วิธีโค้งคำนับแทนการถวายบังคม หรือจะต้องมีการลงทะเบียนก่อนหรือไม่
สิ่งที่ตนเองทำเพื่อให้มหาลัยเปิดพื้นที่เสรีทางความคิดในการถวายความเคารพไม่ได้ต้องการยกเลิกประเพณีเก่าๆแต่อย่างใด หรือสามารถมีวิธีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้หรือไม่เช่นย้ายเข้าไปจัดในหอประชุมและฉายภาพรัชกาลที่ 5 แทนให้นิสิตได้ถวายความเคารพ ทำไมมหาลัยยึดติดแต่ประเพณีดั้งเดิม ไม่คิดนำสิ่งที่เป็นความทันสมัยความสะดวกและรวดเร็วเข้าไปพัฒนา
ด้าน นายศุภลักษณ์ บํารุงกิจ รองประธานสภานิสิตจุฬา กล่าวถึงเหตุการณ์ในขณะนั้นว่า ขณะที่ตนกำลังเดินออกจากแถวเพื่อกลับนั้นปรากฏว่ามีอาจารย์คนหนึ่งได้ตะโกนด้วยถ้อยคำหยาบคายว่าตนเองทำแบบนี้ทำไม พร้อมกับล็อคคอตนเองให้กลับไปอยู่ที่แถว หลังจากนั้นก็มีอาจารย์คนอื่นๆและเจ้าหน้าที่มาห้าม พร้อมยืนยันว่าก่อนหน้านั้นตนเองไม่ได้มีพฤติกรรมยั่วยุอาจารย์คนดังกล่าวแต่อย่างใดเพียงแค่เดินออกจากพิธีเท่านั้น อาจเป็นไปได้ว่าอาจารย์คนดังกล่าวอาจมีอคติกับกลุ่มของตนเองว่าอาจจะเข้าไปปั่นป่วนพิธีก็เป็นได้ นอกจากนี้หลังเกิดเหตุก็ไม่มีอาจารย์หรือคนที่รับผิดชอบใดๆติดต่อกลับมาหาตนเองแต่อย่างใด
ขณะที่ รศ. ดร. บัญชา ชลาภิรมย์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า ทุกปีมหาวิทยาลัยจะมีพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนของนิสิตใหม่ เพื่อจุดมุ่งหมายแต่โบราณคือให้นิสิตทุกคนถวายตัวเป็นมหาดเล็กซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดมายาวนาน และเมื่อเรียนจบศึกก็จะเข้าพิธีถวายบังคมลาเพื่อให้เกิดสิริสวัสดิ์วัฒนมงคลในการประกอบอาชีพต่างๆ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ที่มีฝนตกเล็กน้อยซึ่งทางผู้จัดงานมองว่ายังสามารถจัดงานต่อไปได้จึงทำพิธีต่อ พร้อมแจกเสื้อกันฝนให้ทุกคนโดยยืนยันว่ามีปริมาณเพียงพอสำหรับทุกคน นักศึกษาทุกคนจึงใส่เสื้อกันฝนและทำพิธีต่อไปโดยไม่มีปัญหา
แต่ปรากฏว่านายเนติวิทย์ ซึ่งเป็นประธานสภานิสิต ได้พาทีมงานเดินออกมาจากแถวเพื่อออกมาโค้งคำนับซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่พิธีในปีของพวกเขา เป็นพิธีกรรมของปีหนึ่ง อาจารย์ที่ดูแลความเรียบร้อยเห็นดังนั้นจึงเข้าไปคว้าตัวเส้นทางมหาวิทยาลัยก็ต้องขอโทษในส่วนที่อาจมีการกระทำดังกล่าวซึ่งขณะนี้อาจารย์คนดังกล่าวก็ยังอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเนื่องจากเกิดภาวะเครียดเพราะตั้งใจอยากดูแลงานซึ่งเป็นสิ่งดีงามที่ชาวจุฬาประพฤติสืบต่อกันมานี้ให้ออกมาดีที่สุด แต่กลับเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
ซึ่งระหว่างที่กลุ่มดังกล่าวจะเดินออกมาโค้งคำนับนั้นพิธีการต่างๆยังไม่เสร็จสิ้น ยังมีพิธีร้องเพลงมหายนต์ และมอบเหรียญที่ระลึก ซึ่งตามมารยาทและระเบียบแล้วไม่สมควรที่จะออกไปก่อนพิธีการเสร็จ ซึ่งเรื่องนี้ทางมหาลัยก็จะมีการพิจารณาเกี่ยวกับอาจารย์คนดังกล่าวอีกครั้ง
นอกจากนี้ทางมหาวิทยาลัยก็ยังได้มีการจัดพื้นที่เอาไว้เฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการถวายบังคมและผู้ที่นับถือศาสนาอื่นที่ไม่สะดวกเช่นศาสนาอิสลาม โดยจัดอยู่ด้านข้างพิธีแต่ทางกลุ่มดังกล่าวอาจเข้าใจผิดว่าทางมหาลัยไม่ได้มีการจัดพื้นที่เอาไว้สำหรับคนที่ไม่ต้องการถวายบังคม
ทั้งนี้ขอยืนยันว่าทางมหาวิทยาลัยจะยังคงสืบทอดประเพณีอันดีงามของชาวจุฬาเอาไว้เช่นเดิม โดยหลังจากนี้ก็อาจจะมีการเรียกนายเนติวิทย์และพวกเข้ามาพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกันว่าจะทำอย่างไรให้การทำพิธีไม่เกิดปัญหาอีก จริงๆทางมหาวิทยาลัยได้มีการประชุมเพื่อปรับและเปลี่ยนแปลงหลายหลายอย่างออกไปเพื่อความสะดวกของผู้เข้าร่วมพิธี เนื่องจากคำนึงถึงความสะดวกของนิสิตทุกคนและยังคงรักษาประเพณีดั้งเดิมของมหาวิทยาลัยเอาไว้
