วันที่ 21 กันยายน 2560 พ.ต.อ. มานะ กลีบสัตบุศย์ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันสอบปากคำผู้เสียหายในคดีป๋าเกิด หรือนายเกิดใหม่ รวยจริงนะ ซึ่งมีผู้เสียหายเพิ่มอีก 3 ราย ประกอบด้วย น.ส.มายด์ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี, น.ส.เก๋ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และ น.ส.ป๊อบ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ซึ่งทั้งหมดทำงานขณะอายุ 17 ปี และ 16 ปี
พ.ต.อ. มานะ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหายทราบว่า เด็กสาวจะได้ค่าจ้างในการเต้นตามสถานบันเทิงต่าง ๆ ต่อคืน ครั้งละประมาณ 700-1,000 บาท ขึ้นอยู่กับหน้าตา โดยป๋าเกิดจะได้ค่าส่งเด็กสาวให้สถานบันเทิงต่อคน คนละ 150 บาท โดยหนึ่งวันจะส่งเด็กประมาณ 10 คน ทั้งนี้แต่ละวันจะส่งเด็กจำนวนมากน้อยไม่เท่ากัน นอกจากนี้ยังมีค่าดริงก์ลูกค้าอีกครั้งละ 60 บาท มีการแบ่งกันระหว่างเด็กสาวกับป๋าเกิดตามข้อตกลงร่วมกัน
ส่วนเรื่องการสวมบัตรประชาชนปลอมให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานนั้น จากการสอบสวนพบว่า ทางโมเดลลิ่งจะเก็บบัตรประชาชนตัวจริงไว้และให้เด็กใช้บัตรประชาชนคนอื่นที่อายุเกิน 18 ปีที่มีใบหน้าใกล้เคียงกับเด็กคนนั้น ๆ แทน อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม เป็นเพียงการสอบปากคำผู้เสียหายเท่านั้น
น.ส.มายด์ เล่าต่อว่า ตนมีหน้าที่เปลื้องผ้าอยู่เป็นเพื่อนแขก 3-4 คน บางครั้งถูกลวนลามแลกค่าทิป วันไหนเสร็จงานเร็วก็จะไปรอรถที่ซอยคาวบอย เพราะจะมีรถมารับโคโยตี้ วันไหนขาดงานไม่มีเหตุผลก็จะถูกหักเงินเพิ่ม นอกเหนือจากค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่า Wi-Fi อินเทอร์เน็ตเฉลี่ยเดือนละ 1,400-1,500 บาท
น.ส.มายด์ บอกด้วยว่า วันที่ไปสมัครเป็นพีอาร์ ป๋าเกิดได้ให้ตนถอดเสื้อผ้าออกเพื่อเป็นการแคสติ้ง ก่อนจะบังคับให้ตนยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย โดยหว่านล้อมว่าจะซื้อโทรศัพท์มือถือให้ ตั้งแต่ทำงานมาถูกป๋าเกิดล่วงละเมิดทางเพศไป 4 ครั้ง
ภาพจาก brighttv
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก