เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่หลายคนต่างติดตามและให้ความสนใจ สำหรับกรณีที่ คิตตี้ ศศิประภา โพสต์เฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือหลัง กิตติ ดัสกร นักแสดงดาวร้ายชื่อดัง ได้ล้มป่วยเป็นอัมพฤกษ์ โดยบอกว่าเป็นลูกสาว กระทั่งต่อมาได้ยอมรับว่าเป็นภรรยา ไม่ใช่ลูกของกิตติ ทำให้โซเชียลตั้งข้อสังเกตว่า เงินที่ชาวบ้านบริจาคให้ทั้งหมดนั้น คิตตี้เอาไปใช้เองหรือไม่ ซึ่งไทด์ เอกพันธ์ ก็ได้ออกมาตอกคิตตี้ว่าอย่าใส่หน้ากาก หลังบอกไม่รู้ยอดเงินบริจาคทั้งที่ถือเอทีเอ็ม
ความคืบหน้าล่าสุด (10 พฤศจิกายน 2560) ไทด์ เอกพันธ์ ได้เดินทางไปที่ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เพื่อลงบันทึกประจำวันกรณีเงินบริจาคของกิตติ จำนวนกว่า 80,000 บาท ที่มีผู้บริจาคเข้ามาช่วยเหลือ ถูก คิตตี้ ศศิประภา ถอนออกไป โดยไทด์ เอกพันธ์ เผยว่า มาลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเบิกเงินจำนวนดังกล่าว พร้อมทั้งบอกถึงอาการล่าสุดของกิตติ ด้วยว่า หลังทำกายภาพบำบัดก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ และในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (13 พฤศจิกายน) จะพากิตติไปรักษาตาที่โรงพยาบาลหู ตา คอ จมูก ย่านตลิ่งชัน ส่วนค่าใช้จ่ายทางมูลนิธิร่วมกตัญญูจะเป็นผู้ออกให้ทั้งหมด
ต่อมา คิตตี้ ก็ได้เดินทางมาที่โรงพัก เพื่อชี้แจงเรื่องเงิน 80,000 บาท ว่า ตนถอนเงินออกมาจริง เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน โดยนำไปใช้หนี้และใช้จ่ายภายในครอบครัว รวมถึงจ่ายค่างวดรถจักรยานยนต์ที่ติดค้างชำระ ทั้งนี้ยินยอมที่จะชดใช้เงินคืนทั้งหมด
อย่างไรก็ดี เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำทั้งสองไว้เป็นหลักฐาน และจะทำการสอบปากคำกิตติ เพิ่มเติมว่ามีความประสงค์ที่จะดำเนินคดีหรือไม่
ด้านนายอภินันท์ รัตนะวิศ ประธานหมู่บ้านปิยวรารมย์ 3 หลังจากทราบเรื่องดังกล่าว ก็ได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาบัวทองสแควร์ เลขที่บัญชี 924-7-05721-0 ร่วมกันกับกิตติ พร้อมด้วย อมต อินทา เพื่อให้ผู้ที่มีความประสงค์ที่จะช่วยเหลือกิตติ โอนเงินผ่านบัญชีนี้เท่านั้น
ภาพจาก workpointnews
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก