x close

แฉพยานคดีครูจอมทรัพย์ ไม่ผ่านเครื่องจับเท็จ-สั่งฟันสามีครู เชื่อมีแก๊งรับจ้างติดคุก


แฉพยานคดีครูจอมทรัพย์

         กระทรวงยุติธรรม เผย สับ วาปี - ครูอ๋อง ในฐานะพยานคดีครูจอมทรัพย์ ไม่ผ่านเครื่องจับเท็จ เชื่ออาจมีการสร้างหลักฐานเท็จ จ่อฟันสามีครูจอมทรัพย์พร้อมพวก ข้อหาร่วมกันให้การเท็จ

         จากกรณีที่ศาลฎีกายกคำร้องขอรื้อฟื้นคดีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร คดีขับรถชนคนตายเมื่อปี พ.ศ. 2548 กระทั่งปี 2556 ศาลมีคำพิพากษาจำคุก 3 ปี 2 เดือน ก่อนได้รับอภัยโทษออกมาในปี 2558 ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาระบุว่า หากพบว่ามีการสร้างเรื่องเกี่ยวกับพยานหลักฐานต่าง ๆ ขึ้นมาจริง ทางตำรวจจะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่เคยออกมาเป็นพยานก่อนหน้านี้ รวมถึงตัวของ ครูจอมทรัพย์ เองก็จะมีความผิดด้วยเช่นกัน [อ่านข่าว : จ่อเอาผิด ครูจอมทรัพย์และเพื่อน หากพบใช้หลักฐานเท็จ ศาลระบุทำเป็นขบวนการ]
         เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 พ.ต.อ. ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ระบุว่า เมื่อนางจอมทรัพย์พ้นโทษ ศาลมีคำสั่งให้รื้อคดี ขณะนั้นนายสับ วาปี ได้สารภาพว่าเป็นคนชนเอง ตนจึงรับเรื่องมาดูแลต่อ ทั้งนี้จากการตรวจสอบพยานทั้งหมดยังไม่ผ่านเครื่องจับเท็จ จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนนำตัว นายสับ วาปี และนายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง เพื่อนสนิทของนางจอมทรัพย์ มาเข้าเครื่องจับเท็จ ผลปรากฏว่า บุคคลทั้ง 2 ไม่ผ่านเครื่องจับเท็จ บ่งชี้ว่าให้การไม่เป็นความจริง และอาจมีการสร้างพยานหลักฐานเท็จ

         พ.ต.อ. ดุษฎี กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวเชื่อว่ามีขบวนการสร้างหลักฐานเท็จ รับจ้างติดคุกแทน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินคดีได้ แต่ในส่วนของนางจอมทรัพย์ที่ให้ปากคำผ่านเครื่องจับเท็จนั้น เครื่องไม่สามารถอ่านแปลผลได้ เนื่องจากครูจอมทรัพย์มีสภาพร่างกายไม่ปกติ คือ บริเวณปลายนิ้วเหงื่อไม่ออก กราฟจึงไม่สามารถประมวลผลได้ กระทรวงยุติธรรมจึงตัดสินใจใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาช่วย

         พ.ต.อ. ดุษฎี กล่าวอีกว่า คดีนี้ต้องแยกให้ชัดระหว่างการสร้างหลักฐานเท็จกับการร้องขอความช่วยเหลือผ่านกระทรวงยุติธรรม การสร้างหลักฐานเท็จเกิดจากความไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมไม่สามารถให้ความเป็นธรรมได้ จนทำให้ประชาชนไม่มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรม นางจอมทรัพย์เองก็บอกว่ารับสภาพ ซึ่งคำว่ายอมรับสภาพเป็นคนละเรื่องกับยอมรับสารภาพ เพราะถึงอย่างไรทุกคนต้องเคารพในคำตัดสินของศาล สำหรับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในคดีของนางจอมทรัพย์ไม่ใช่หลักฐานใหม่ เพราะศาลได้ตัดสินไปแล้ว นอกจากนี้ ยังมีขบวนการสร้างหลักฐานเท็จเพื่อให้มีการรื้อฟื้นคดีอาญาด้วย

         ขณะเดียวกันที่ สภ.นาโดน จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ตำรวจในคณะทำงานชุดคลี่คลายคดีครูจอมทรัพย์ และเจ้าของคดีขณะนั้น ได้นำเอกสารเข้าแจ้งความดำเนินคดี นายสับ วาปี พร้อมพวกอีก 3 คน รวมเป็น 4 คน คือ 1. นายสับ วาปี 2. นางจันทร์ วาปี 3. นายบุญเทิง วาปี และ 4. นายเลิศ วาปี โดยกล่าวหาว่า ทั้งหมดร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จให้เจ้าหน้าที่จดบันทึกเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานภายหลัง

         ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าวได้เดินทางไปยัง สภ.เมือง จ.นครพนม เพื่อแจ้งความร้องทุกข์  โดยกล่าวหาพยานในคดีครูจอมทรัพย์เพิ่มอีก 4 คน คือ 1. นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง 2. นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร สามีครูจอมทรัพย์ 3. นายสับ วาปี 4. นางทัศนีย์ หาญพยัฆย์ โดยให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวในข้อหา "ร่วมกันให้การเท็จ"

         ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน จะได้ออกหมายเรียกบุคคลดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ภาพจาก amarintv
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แฉพยานคดีครูจอมทรัพย์ ไม่ผ่านเครื่องจับเท็จ-สั่งฟันสามีครู เชื่อมีแก๊งรับจ้างติดคุก อัปเดตล่าสุด 20 พฤศจิกายน 2560 เวลา 18:08:35 21,064 อ่าน
TOP