หนุ่มเล่าวินาทีเจอ 3 ชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ควงปืนจี้ค้นบ้าน พบเป็นอดีตนักแสดงชื่อดังช่องมากสี เผยกลัวจนไม่กล้าอยู่บ้าน
จากกรณีที่มีชายฉกรรจ์ 3 คน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เพื่อขอตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งย่านสายไหม โดยใช้ปืนจ่อและใส่กุญแจมือ ระบุว่าผู้เสียหายมีหมายจับคดีครอบครองยาเสพติด และฟอกเงิน หลังจากที่พ่อของผู้เสียหาย บอกว่าเป็นทหาร กลุ่มชายฉกรรจ์ จึงรีบปล่อยตัวและขับรถหลบหนีไป อย่างไรก็ตามมีข้อมูลว่า 1 ในนั้นมีใบหน้าคล้ายอดีตดาราช่องมากสี
อั้ม : ผมขายอะไหล่รถยนต์อยู่ที่สายไหม เป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ส่วนใหญ่เน้นไปที่มอเตอร์ไซค์กับรถยนต์ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน มีโทรศัพท์โทร. มาหาผมว่าจะเอามอเตอร์ไซค์มาทำสี ผมก็ให้เขาเข้ามาเลย มาตอนหกโมงเย็น ขี่มอเตอร์ไซค์มาคนเดียว ก็ชวนคุย แล้วก็เริ่มถามแปลก ๆ ว่ากำไรเท่าไหร่ ถามว่ารถใครบ้าง อะไหล่เท่าไหร่ มันผิดสังเกต จังหวะแฟนผมออกไปข้างนอกกับน้อง ผมอยู่คนเดียวเขาบอกว่างั้นไปดูท่อให้หน่อยหน้าร้านมันอยู่ติดถนน ผมก็เริ่มเอะใจว่ามันไม่ใช่แล้ว ผมเลยบอกว่าพี่ผมไปกินข้าวก่อน เขาบอกว่าขอเข้าไปหยิบหมวกกันน็อกในร้านหน่อย แล้วพอเขาเดินเข้าไปหยิบหมวกกันน็อก ผมก็เดินตามเข้าไป เขาก็โทร. ตามเพื่อนเขาเข้ามาเลย น่าจะส่งสัญญาณกัน
ตอนนั้นกี่โมง ?
อั้ม : ประมาณหกโมงครึ่ง เพื่อนเขาสองคนขับรถมาจอดหน้าร้าน รถโปรตอนสีดำ คนแรกลงมาถือกระดาษมาใบหนึ่ง หล่อ ๆ ขาว ๆ เขามาถึงก็บอกว่าใครชื่อณัฐพงษ์ ให้ยกมือขึ้น แล้วเขาก็ตามคนที่ 3 มาที่ถือลูกซองสไลด์ ใส่กุญแจมือ เขาบอกว่าผมมีหมายจับครอบครองยาเสพติด เสพ และฟอกเงินร่วมกับแฟน ผมก็โวยวายว่าผมไม่ได้เสพไม่ได้อะไรเลย
ได้ขอดูหมายค้นไหม ?
อั้ม : เขาไม่ให้ดู เขาก็ถือแอบ ๆ ผมอ่านเห็นชื่อผม ก็บอกว่าท้องที่เขาตรวจสอบผมบ่อยนะ ถ้าผมผิดจริงตามท้องที่มาเลย ผมยอมให้ตรวจหมดเลยเขาก็ปิดร้านเลย ไม่พูด ผมก็โวยวายจะปิดทำไม ให้ผู้ใหญ่เข้ามาสิ
คุณไม่กลัวเหรอ ?
อั้ม : ก็กลัวครับ แต่นาทีนั้นมันคิดอะไรไม่ได้ คนหล่อ ๆ ที่ถือกระดาษ เขามีปืน เป็นปืนสั้น ส่วนอีกคนถือลูกซองสไลด์ อีกคนไม่ถืออะไรมา ถ้าจะให้ผมไปต้องมีผู้ใหญ่มาด้วย เขาก็ปิดร้านเลย แล้วก็เหยียบไว้คนหนึ่งกันคนอื่นเข้ามา ซึ่งมันยังไม่มืด ข้างหน้าร้านคนบานเลย คนแถวร้านเยอะแยะ แล้วเขาก็พาผมไปค้นบนบ้าน ถามว่าเอาปืนเก็บไว้ไหน เอายาเก็บไว้ไหน บ้านพฤกษาซื้อหรือยัง
คุณจะซื้อบ้านเหรอ ?
อั้ม : ผมไม่เคยคิดจะซื้อเลย ผมชอบซื้อรถมากกว่า แต่เขาอ้างว่าผมจะซื้อบ้าน
มั่นใจได้ไงว่าเป็นตำรวจ ?
อั้ม : ผมดูทรงเขา เขาเอาปืนจ่อแล้วใส่กุญแจมือเลย ถือปืนมาจ่อ ให้ผมยกมือขึ้น ผมก็ถามว่ามาทำอะไร ทำไมต้องล็อกกุญแจมือ ผมยังไม่ผิดเลย เขาบอกว่าเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน แล้วก็ปิดบ้าน ผมก็โวยวายตลอดเลยพอใส่กุญแจมือ เขาก็พาไปบ้านอีกหลัง ผมมีห้องแถว 2 ห้องติดกัน อีกหลังหนึ่งก็พาเขาไปค้นเหมือนหลังแรก ก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิมพอเรามาแฟนมาพอดี
แฟนอั้ม : เห็นบ้านปิดทั้งสองหลังเลยตกใจ คิดว่าแฟนออกไปข้างนอก ไม่ได้คิดอะไรก็โทร. ไป แต่ร้านข้าง ๆ เขาเดินมาบอกว่ามีตำรวจอยู่ข้างใน หนูก็งงว่ามาจับอะไรก็โทร. หาแฟนตรงกับที่แฟนบอก พอโทร. ไปเสร็จปุ๊บ แฟนบอกว่าตำรวจจับ หนูเลยให้น้องชายที่เป็นแฟนของน้องเขาโทร. หาพ่อ มันก็ล็อกตัวหนูสองคนกับน้อง คนที่ถือลูกซองเป็นคนล็อก ให้เข้าไปข้างใน
ต้อนเข้าไปข้างในสามคน ?
แฟนอั้ม : หนูก็เลยตกใจว่าพี่มาใส่กุญแจมือแฟนหนูทำไม เขาไม่ได้ทำอะไรผิด ตรวจสอบได้ ถ้าพี่มาหาว่าหนูเสพ พี่ก็ตรวจฉี่หนูได้ ไปดูในบัญชีหนูเลย เขาบอกว่ามึงไม่ต้องพูดมาก คนหน้าหล่อเป็นคนพูด เขาบอกว่าถ้ามึงพูดมาก พูดไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวกูพาไปเซฟเฮ้าส์ตอนนี้เลย
อั้ม : ผมเลยโวยวายว่าถ้าไป ต้องมีผู้ใหญ่ไปด้วย ถ้าไม่มีผู้ใหญ่ไป ผมไม่ไป พ่อผมก็โทร. มา ยืนหน้าร้านพอดี ปกติพ่อไม่ได้อยู่ที่นี่ ผมอยู่กับแฟนแล้วก็เพื่อนสามสี่คน
คุณเคยเห็นหน้าเขามาก่อนไหม ?
อั้ม : ไม่เคยเห็น แต่คนหน้าหล่อคุ้นครับ เหมือนดาราคนหนึ่ง ผมส่งไลน์กลุ่มให้แม่ที่บ้าน ก็มีแม่มีป้าทักมาว่าเป็นคนนี้หรือเปล่า ก็เลยคุยกัน ก็เลยไปเสิร์ช ๆ หา ๆ ดู
คุณพ่อคุณมาถึงหน้าร้านพอดี ?
อั้ม : พ่อก็ถามว่ามาจับลูกผมคดีอะไร เขาบอกว่าครอบครองยาเสพติด พ่อก็บอกว่าขอดูหมาย เขาก็ให้ดูเหมือนผม ให้ดูแล้วก็เอาออกให้ดูผ่าน ๆ พ่อผมก็โวยวายว่าขอถ่ายรูป เขาก็ยกออกมาวางบนเบาะมอเตอร์ไซค์ พอพ่อจะถ่ายก็ดึงออก ถ่ายได้แต่ไม่ทัน พอเสร็จปุ๊บก็ถามพ่อว่าเป็นทหารเหรอ เพราะพ่อใส่เสื้อมีตราทหารอากาศมา พ่อเป็นทหารอากาศ เขาก็ปล่อยเลย แฟนผมก็เอาโทรศัพท์มาอัดวิดีโอ เขาก็บอกว่ามึงลบคลิปก่อน เดี๋ยวจะปล่อยแฟนมึง
แฟนอั้ม : เขาบอกให้ลบค่ะ ไอ้หน้าหล่อค่ะ แต่ก็ไม่ปล่อย ตกใจมือสั่นก็เลยลบ
กล้องวงจรปิดที่อยู่ในบ้าน ?
อั้ม : เขาถอดฮาร์ดดิสก์ไปหมดเลยครับ ทั้งสามคนแย่งกัน คนที่เอาไปคนสุดท้ายคือคนขี่มอเตอร์ไซค์ กล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้คือกล้องที่แอบอยู่หลังผนังร้านที่ผมทำรถ มันมีกล่องบังอยู่ มันเลยไม่ได้สังเกต อีกร้านหนึ่งก็กล้อง 4 ตัว แต่เขาถอดฮาร์ดดิสก์ไป เขาก็ปล่อยผม คนที่ถอดฮาร์ดดิสก์เป็นคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปก่อนคนแรก ส่วนคนที่ถือลูกซองสไลด์ออกไปรอที่รถ คนที่สามคือหน้าหล่อ ไขกุญแจผมเสร็จก็รีบวิ่งออกไปเลย ผมก็วิ่งเอามือถือไปถ่ายทะเบียนรถไว้ก็ได้ทะเบียนและให้ตำรวจไปแล้ว
กลุ่มนี้ไม่ได้ทำกับคุณเพียงคนเดียว เคยไปทำกับคนอื่นด้วย ?
อั้ม : ใช่ครับ เมื่อวานเขาโทร. มาหาผมคนหนึ่ง รถคนละคัน แต่ทะเบียนเดียวกัน เรื่องจริงนะครับ เมื่อวานผมโพสต์แล้วมีคนโทร. มาหาผมว่าเขาโดนแบบนี้ ให้ลองติดต่อไปคุยกับเขาดู เพราะเขาโดนแล้วไม่มีกล้องเหมือนผม เขาจำได้สองคน คนหน้าหล่อกับลูกซองยาว
ตอนนี้ไปแจ้งความแล้ว แล้วเป็นยังไง ?
อั้ม : ตำรวจบอกว่าเขารอสืบสวนอยู่ครับ แต่ตอนนี้ออกหมายจับแล้ว
ในมุมคุณสองคนคิดว่าเจตนาเขาคืออะไร ?
อั้ม : ผมว่าเขาจะมาปล้น จงใจอุ้มผมเรียกตังค์จากผม อาจจะให้แฟนเอาบัตรผมไปกดแล้วโอนตังค์ให้ ตังค์ส่วนใหญ่ผมเก็บไว้กับแฟนหมดเลย
คุณคิดว่าเขาไปสืบหาข้อมูลคุณมาหมดไหม ?
อั้ม : ผมว่าไม่หมด เขาว่าผมเสพยา ไม่ดูหุ่นผมเลย ผมก็โวยวาย อ้วนอย่างนี้เสพยา กินทั้งวันทั้งคืน หาว่าผมเสพยา ไม่ใช่แล้ว
ฟอกเงินล่ะ ?
อั้ม : ผมทำงานมา 8 ปีพี่ ผมขายของ ขายรถ ขายอะไหล่ ขายโน่นขายนี่ตลอด ผมมีลูกค้าประจำรู้จักมา 7-8 ปี ยืนยันได้
ตอนนี้คุณกังวลและไม่สบายใจ ถ้าจับไม่ได้ กลัวมีปัญหา ?
อั้ม : ผมกลัว ผมไม่ปลอดภัย ปกติผมนอนร้าน แต่ตอนนี้ผมไปนอนบ้านเพื่อนบ้าง อยู่ร้านไม่ได้ กลัว เพราะเขาขู่จะเอาคอมมานโดมาลง เขาบอกว่าถ้าพี่ปล่อยน้อง น้องปิดร้านเลยนะ ไปอยู่ไหนก็ได้เดือนหนึ่ง ถ้าไม่ปิดจะมีคอมมานโดมาลงชุดใหญ่เลย
แฟนอั้ม : ทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตอยู่อย่างไม่ปกติ
จากกองละครหรือเปล่า ?
อั้ม : ผมก็ไม่รู้ ผมก็หลอกให้เขาปล่อยผมก่อน เดี๋ยวปิดเลย ไปต่างจังหวัดเลย เขาก็ปล่อยแล้วรีบวิ่งไปเลย
มั่นใจว่าคนที่เห็นคลับคล้ายคลับคลาเป็นดารา ?
อั้ม : คลับคล้ายคลับคลา แต่ปกติไม่ดูทีวีอยู่แล้ว
แล้วทำไมถึงคิดว่าคล้าย ?
อั้ม : ที่บ้านเขาบอกมาแล้วก็พวกในเฟซบุ๊กครับ เขาส่งมาให้ดูกัน เขาช่วยหลายทางเหมือนกัน
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ อย่างนี้เขาเรียกอะไร ?
ทนาย : วิธีการคล้าย ๆ ตำรวจ แต่เขาโง่ไปหน่อย มาทำในกรุงเทพฯ ถ้าทำในพื้นที่ห่างไกล จังหวัดชายแดน อาจจะสงสัยว่าเป็นตำรวจก็ได้ แต่วิธีนี้ไม่ค่อยฉลาด ทิ้งร่องรอยไว้ให้เก็บหลักฐานได้
เป็นไปได้ไหม เป็นทีมงานหน่วยงานที่ไม่ใช่ตำรวจ แต่อาจใช้ไป ?
ทนาย : คล้าย ๆ สายสืบ ก็ต้องไปสืบให้ชัดเจนว่าทำงานให้ใครบ้าง อยู่ดี ๆ ก็โผล่มาอย่างนี้เหรอ ถ้าเป็นตำรวจจริง ๆ ถ้าทำเองนี่โง่มาก มาปุ๊บไม่แสดงหมาย ไม่อะไรเลย โดยขั้นตอนปฏิบัติ ต้องแสดงหมายค้น อยู่ ๆ คุณมาค้นใคร มาจับใครคุณต้องมีเหตุ รัฐธรรมนูญ มาตรา 28 เขาก็ระบุไว้ว่าคุณจะทำอะไรแบบนี้ไม่ได้ ในการตรวจค้นต้องแสดง ไม่ใช่มาค้นตอนกลางคืนแน่นอน กลางคืนตำรวจไม่ค้นบ้านใคร พระอาทิตย์ตกดินแล้ว เขาไม่ค้นแน่นอน เพราะถ้ามาแบบนี้คุณปิดประตูใส่แล้วไล่กลับไปเลย นี่ไม่ใช่วิธีตำรวจ ตำรวจมาต้องมาพร้อมรถตำรวจสิ นี่ไม่มีสัญลักษณ์อะไรเลยมาปุ๊บเข้ามาล็อกปิดประตู มันโจรชัด ๆ
ทนาย : ต้องไปขยายผลมาให้ได้ คือวิธีการคล้าย ๆ สายสืบ เพราะงั้นตำรวจต้องมาขยายผลให้ได้ เพื่อให้ตัวเองพ้นมลทินด้วย แล้วพวกมิจฉาชีพพวกนี้จะได้เอาให้หนักที่สุด
มั่นใจว่ากำลังจะเป็นข่าวใหญ่ เพราะไอ้หน้าหล่อ อาจเป็นนักแสดงชื่อดังท่านหนึ่ง ?
ทนาย : ผมอยากรู้คำตอบเขามากเลยนะ ว่าเขาบุกมานี่ต้องการอะไร เพราะถ้าเป็นตำรวจจริงมีหมายค้นมา เขาก็จับอยู่แล้วถ้ามีของผิดกฎหมาย เขาไม่ปล่อยอยู่แล้ว
สังเกตอะไรในร่างกายเขาบ้างไหม ?
อั้ม : คนหล่อมีรอยสักตรงแขนขวาโผล่มานิดหนึ่ง มั่นใจครับ เสื้อปิดไม่มิด เขาล็อกกุญแจผม เขาบิดแขนผมอยู่แล้วผมหันไปมองเขาตลอด
ทนาย : ถ้าจับแล้วไม่มีรอยสักแสดงว่าจับผิดตัว ก็โดนปล่อยเลยนะ ผมอยากรู้ว่ามีใครมาสั่งให้อุ้มเขา ถ้ามาเองก็ต้องมีเหตุ อยากได้เงิน เงินจากอะไร ถ้าเรียกค่าไถ่เขาก็ต้องรวยมาก
อั้ม : ยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ
อั้ม : ผมไม่รวยครับ จนด้วยซ้ำ
ทนาย : มันต้องมีสาเหตุ มันไม่มาอุ้มมั่วหรอก
ประเด็นคือเขากลัวว่ากลุ่มนี้จะทำร้ายเขา ?
ทนาย : พรุ่งนี้ไปโรงพักไปค้านการประกันตัวให้หมด ถ้าจับได้ขอค้านการประกันตัว ทำได้เลย
อั้ม : เครียดก็เครียด กลัวก็กลัว แม่เป็นห่วงโทร. มาตลอด
แฟนอั้ม : กลัวค่ะ ไม่เคยเจออะไรแบบนี้
ถ้าให้ดูรูปแล้วยืนยันได้ไหมว่าเป็นผู้ชายคนนี้จริง ๆ เป็นคนเดียวกับที่ไปหาน้อง ?
อั้ม : (ดูรูป) ใช่เลยครับ ผมมั่นใจเลยล้านเปอร์เซ็นต์ คนเดียวกันเลย
แฟนอั้ม : ใช่ค่ะ
ทนาย : รอพนักงานสอบสวนจับกุมมาให้ได้ทั้งหมดก่อน แล้วหลังจากนี้ไปขอให้ตำรวจทำเรื่องยื่นคัดค้านการประกันตัวซะ นี่คือสิ่งที่ทำได้เลย ถ้าเราสงสัยว่าใครเป็นคนสั่งการ ก็ให้ตำรวจขยายผลเพิ่มเติม ถ้าใครเจอแบบนี้ก็วิ่งสวนออกไป เราต้องกล้าแลกหน่อย
อั้ม : ผมตะโกนเรียกลุงข้างบ้านบอกว่าให้มาดูหน่อย แต่เขาก็บอกว่าไม่เกี่ยวอย่ามายุ่ง แล้วก็ดันเข้าบ้านอีกหลังหนึ่งเลย
