x close

ดร.สามารถ ติง ที่หยอดเหรียญรถเมล์ 1.65 พันล้าน ใช้งานไม่ได้ ซื้อรถ NGV ใหม่ได้ 456 คัน



          ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ ติงใช้งบ 1,665 ล้านบาท ติดเครื่องเก็บเงินบนรถเมล์ ใช้ซื้อรถ NGV ใหม่ได้ 456 คัน บอกเสียดายจริง ๆ 

          หลังจากที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ประกาศยกเลิกเครื่องหยอดเหรียญบนรถเมล์ เผยติดปัญหาทั้งประสิทธิภาพและข้อจำกัดในการใช้งานนั้นก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างมากมาย เพราะการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) และเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash box) บนรถโดยสารจำนวน 2,600 คัน ที่ทาง ขสมก. ได้ทำสัญญากับ บริษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) มีมูลค่าถึง 1,665 ล้านบาท ระยะสัมปทาน 5 ปี
(อ่านเพิ่มเติม : ขสมก. ยกเลิกเครื่องเก็บเงินบนรถเมล์ ชี้ติดปัญหาหลายอย่าง-ใช้งานไม่ได้จริง
          เกี่ยวกับเรื่องนี้ (14 ธันวาคม 2560) ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า เสียดายจริง ๆ เพราะวัตถุประสงค์ของการติดตั้งกล่องหยอดเหรียญก็คือ ขสมก. ต้องการลดค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานเก็บค่าโดยสาร ซึ่งจากข้อมูลของ ขสมก. พบว่า ค่าจ้างพนักงานเก็บค่าโดยสารคิดเป็นประมาณ 60% ของรายได้ นั่นหมายความว่า ถ้าเก็บค่าโดยสารได้ 1 บาท จะต้องจ่ายเป็นค่าจ้างพนักงานเก็บค่าโดยสารประมาณ 60 สตางค์ ส่วนการติดตั้งเครื่องอ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์นั้น ขสมก. ต้องการใช้ในการอ่านบัตรคนมีรายได้น้อยหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามที่รัฐบาลได้มอบให้


          แต่ปรากฏว่าหลังจากทดลองใช้กล่องหยอดเหรียญและเครื่องอ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ได้ประมาณ 40 วัน ขสมก. ได้สั่งยกเลิกการติดตั้งกล่องหยอดเหรียญบนรถเมล์จำนวนที่เหลืออีก 1,800 คัน หลังจากติดตั้งไปแล้ว 800 คัน โดยอ้างว่าการใช้กล่องหยอดเหรียญมีปัญหาทางเทคนิค บางครั้งกล่องไม่คืนเหรียญหรือคืนเหรียญไม่ถูกต้อง ที่สำคัญในช่วงเวลาเร่งด่วนซึ่งมีผู้โดยสารแน่นมาก ทำให้ต้องเสียเวลาในการหยอดเหรียญและรับเงินทอน ซึ่งตรงนี้ก่อนติดตั้ง ขสมก.จะต้องศึกษาความเป็นไปได้ในการนำมาใช้ในกรุงเทพฯ ที่มีผู้โดยสารรถเมล์จำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน อีกทั้งในปัจจุบันหลายเมืองในหลายประเทศได้ยกเลิกการใช้กล่องหยอดเหรียญไปแล้ว โดยได้เปลี่ยนไปใช้เครื่องอ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์แทน

          หาก ขสมก. วางแผนการจัดซื้อรถเมล์ใหม่ให้รอบคอบก็จะทำให้ไม่ต้องเสียค่าเช่าติดตั้งกล่องหยอดเหรียญและเครื่องอ่านบัตรโดยสารอีเล็กทรอนิกส์ให้เอกชนถึง 1,665 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้สามารถซื้อรถเมล์เอ็นจีวีที่ ขสมก. กำหนดราคากลางไว้คันละ 3.65 ล้านบาท ได้ถึง 456 คัน



ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ดร.สามารถ ติง ที่หยอดเหรียญรถเมล์ 1.65 พันล้าน ใช้งานไม่ได้ ซื้อรถ NGV ใหม่ได้ 456 คัน โพสต์เมื่อ 14 ธันวาคม 2560 เวลา 20:58:07 11,031 อ่าน
TOP