เกิดเป็นดราม่าร้อน ๆ ขึ้นมาทันที หลังจากมีการปล่อยคลิป MV ของหนังเรื่อง หลวงพี่แจ๊ส5G ซึ่งมีฉากหนึ่งเผยให้เห็นว่าผู้กำกับคนดัง พชร์ อานนท์ ได้ดึงตัวสองแม่ลูกที่เคยมีกรณีวิวาทและถุยน้ำลายใส่ตำรวจ มาร่วมเล่นหนังเรื่องนี้ด้วย แถมยังท้าต่อยกับพระด้วยคำพูดที่ดูรุนแรง จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก ซึ่งทาง นายพายุ แซ่โง้ว หรือ ปืน ก็ยืนยันว่าทีมงานมาขอให้ตนเล่นหนัง ตั้งแต่ช่วงที่มีข่าวทะเลาะกับตำรวจ ยอมรับว่าตกใจที่บทรุนแรง แต่ในเมื่อรับงานมาแล้วก็ต้องเล่นไปตามบท [อ่านข่าว : "ปืน" แจงเหตุได้เล่นหนัง - แม่ถาม..ไม่ได้ฆ่าคนตาย จะไม่ให้โอกาสกันเลยหรือ ?]
ล่าสุด (27 ธันวาคม 2560) ภายในรายการ ต่างคนต่างคิด ทางอมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 ก็ได้เชิญ นายพายุ หรือ ปืน พร้อมด้วยคุณแม่ และ พชร์ อานนท์ ผู้กำกับหนังเรื่อง หลวงพี่แจ๊ส5G มาอธิบายถึงการนำเรื่องดังกล่าวมาเขียนเป็นบทหนัง โดย พชร์ อานนท์ ชี้ว่าที่ผ่านมาหนัง หลวงพี่แจ๊ส5G จะเป็นหนังที่นำกระแสสังคมมาเล่น แล้วให้หลวงพี่แจ๊สนำธรรมะไปสั่งสอนว่า ถ้าไม่มีสติชีวิตจะพัง เตือนสติผู้ที่หลงผิดให้คิดได้ ซึ่งกรณีของปืนก็เป็นเพียงแขกรับเชิญในฉากเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากสังคมเห็นว่าการนำประเด็นนี้มานำเสนอในหนังเป็นสิ่งผิด ตนก็ยินดีแก้ไขหรือตัดออก ทั้งนี้ต้องขอโทษสังคมด้วย และยืนยันว่าไม่ต้องการให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบสิ่งที่ผิดแต่อย่างใด เพราะจุดประสงค์ของหนังคือการนำธรรมะมาสั่งสอนให้เกิดสติ เพราะถ้าไม่มีสติชีวิตก็พังมาหลายคนแล้ว
ด้าน ปืน ชี้ว่าตนได้รับการติดต่อจากทีมงานหลังเกิดเรื่องที่เป็นข่าวเพียง 2-3 วัน ซึ่งพ่อกับแม่ก็เห็นว่าไม่มีอะไรเสียหายเพราะเป็นหนังตลก และเห็นเป็นโอกาสครั้งหนึ่งที่ได้เล่นหนัง เลยตกลงใจรับเล่น อย่างไรก็ตามหากดูเนื้อหาทั้งหมดจะเห็นว่าเป็นการสั่งสอน ยอมรับว่าตั้งแต่เกิดเรื่องตนก็เครียด ทั้งที่เรื่องจบแล้วแต่สังคมยังไม่จบ บางครั้งตนก็ไม่พอใจที่มีบางคนมายั่วยุด้วยคำพูด หรือมองหน้าแล้วพูดถึงในทางที่ไม่ดี แต่ตนก็ไม่ได้คิดว่าจะไปทำร้ายคนเหล่านั้นแต่อย่างใด เพียงไม่เข้าใจว่าพวกเขาต้องการอะไรจากตน
อย่างไรก็ตามหลังรายการจบ ปืนก็ได้เผยว่า ตอนแรกตนได้รับบทให้ทะเลาะกับเด็กวัดก่อนถูกเปลี่ยนให้ไปเถียงกับพระแทน แต่ตอนจบของหนังนั้น หลวงพี่แจ๊สจะสอนให้ใช้สติเยอะกว่านี้ ความจริงคลิปจะยาวกว่านี้ และมีคำพูดที่พระใช้สอนเยอะมาก แต่ MV ดังกล่าวแค่ตัดมาเป็นตัวอย่างเท่านั้น ส่วนตัวก็เฉย ๆ ไม่ได้น้อยใจสังคมอะไร เพราะตนห้ามคนพูดไม่ได้ ทุกวันนี้ตนก็ไปช่วยแม่ขายของตามปกติแล้ว คนที่รู้จักตนดีก็จะรู้ว่าตนไม่ใช่คนแบบนี้ ส่วนเรื่องของตนที่ผ่านมาก็จบลงในชั้นศาลแล้ว ขอวอนสังคมจะขุดคุ้ยไปเพื่ออะไร
ขณะที่ พชร์ อานนท์ ก็ยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในหนังนั้นความจริงต้องดู MV ตัวเต็มก่อน จึงจะรู้ว่ามีเนื้อหาเป็นอย่างไร สำหรับตัวอย่างที่ออกมาเป็นตัวอย่างเพียงนิดเดียวจึงดูเหมือนเรื่องร้ายแรง แต่หากมีปัญหาตนก็พร้อมแก้ไขและตัดออกจากหนังทันที ตอนนี้ทีมงานกำลังพูดคุยกัน แต่ยังคงทำอะไรไม่ได้เพราะติดช่วงปีใหม่ โดยคาดว่าหลังปีใหม่จะได้เห็น MV ตัวใหม่ ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสังคมเลยก็ได้
สำหรับกระแสสังคมที่มองว่า หากเปรี้ยวออกมาจากคุก ตนจะนำมาแสดงหนังด้วยหรือไม่นั้น ขอบอกว่าสังคมต้องแยกแยะให้ถูก ตนมีสมอง เปรี้ยวเป็นฆาตกร แต่ปืนแค่หมิ่นประมาทตำรวจ คนละกรณีกัน ตนคงไม่โง่เอาเปรี้ยวมาเล่นหนัง ตนคิดเป็นไม่โง่ขนาดนั้น ทั้งนี้ที่ตนชวนปืนมาเล่นหนัง ก็เพื่ออยากให้ทุกคนรู้ว่า ปืนในอดีตกับชีวิตปัจจุบันนั้นเป็นอย่างไร อยากให้หลวงพี่แจ๊สมาสอนการดำเนินชีวิตเท่านั้น หนังมันยาวไม่ใช่สั้น MV ที่ออกมาเลยดูไม่ค่อยสุภาพ
ทั้งนี้ พชร์ อานนท์ ยังชี้ว่า ปืนกับคุณแม่มาเล่นหนังไม่ถึงนาที เรื่องที่ด่าตำรวจเขาก็โดนจับไปแล้ว ไม่ได้ฆ่าคนตาย ทีกับเปรี้ยวนั้นมีคนเยินยอทำกุญแจออกมาขายกัน แต่นี่เขาไม่ได้ฆ่าคนตาย ไม่ได้ขายยา แค่โมโหแล้วไปด่าตำรวจ แต่เขาก็ไม่ใช่คนเลว เขาขอโทษ ถูกจับ และเสียค่าปรับไปแล้ว น้องทำอะไรผิดตนถึงให้มาเล่นหนังไม่ได้ ไม่เคยด่าตำรวจกันหรือไง เราไม่ได้บอกว่าด่าตำรวจแล้วเป็นคนดีน่าสรรเสริญ แต่จะบอกว่าโยมต้องมีสติ ถ้าไม่มีสติชีวิตจะพัง "เขาด่าตำรวจ ขอโทษ รับผิด เสียค่าปรับไปแล้ว ไม่ให้โอกาสเขาเหรอ"
ยืนยันว่าตนไม่ได้คิดว่าน้องเป็นคนเลว ตนว่าพวกลับหลังด่าแรงกว่าน้องอีก แต่ไม่เคยเป็นข่าว เขาไม่ได้ทำอะไรผิด ตนคิดแล้วไตร่ตรองแล้วถึงได้ทำ น้องไม่ได้ทำผิดอะไร หลังเป็นข่าวแล้วยังไม่ได้คุยกับเขา แต่เย็นนี้จะเจอเขาเดี๋ยวคุยกัน แต่ถ้าคิดว่าเราผิดก็ขอโทษ เราไม่ได้คิดมาก คิดถึงความสนุกสนานแค่นั้นเอง
ถามว่าตนรับผิดชอบสังคมมั้ย ตนรับผิดชอบสังคม ตนคิดว่าน้องไม่ได้เป็นฆาตกร เขาเป็นเด็กคนหนึ่ง โมโหแล้วด่าแค่นั้นเอง กับตนไม่ว่าทำดีทำชั่วสังคมก็ด่าอยู่ดี คนเราสมัยนี้ฟังไม่ถี่ถ้วนเลย ด่าไปแล้ว ยอมรับมันคือการตลาดวิธีหนึ่ง เราไม่ได้คิดให้คนมาด่า เราให้คนคิดว่าในหนังมีอะไรมากกว่านี้ ถ้าตนเอาเปรี้ยวมาเล่นค่อยมาด่า เราไม่ได้ปัญญาอ่อนขนาดนั้น รู้ว่าอะไรควรไม่ควร
