x close

นักศึกษาฝึกงานโดนสารเคมีลวกหน้าเสียโฉม แม่สุดช้ำบริษัทยื่น 2 หมื่น จบเรื่อง

เตาสารเคมีระเบิดใส่หน้า

          นักศึกษาสาวโดนเตาสารเคมีลวกหน้าเสียโฉม แม่สุดช้ำบริษัทยื่น 2 หมื่นจบเรื่อง แต่เรียกร้องจนทางบริษัทยอมดูแลถึงที่สุด

          จากกรณีที่บริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง เกิดเหตุนักศึกษาฝึกงานถูกเตาน้ำมันความร้อนระดับ 150-180 องศาเซลเซียส ที่ใช้ทดสอบชิ้นงานเกิดระเบิดใส่ จนออยล์ผสมสารเคมีกระเด็นเข้าหน้าและแขนจนเสียโฉม ซึ่งต่อมาทางบริษัทบอกให้ปิดข่าว และแจ้งว่าบริษัททำหนังสือส่งถึงวิทยาลัยแล้ว แต่ทางวิทยาลัยยังไม่ทราบเรื่อง เบื้องตนทางบริษัทดูแลค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด แต่เมื่อคนอื่นรู้เรื่องเยอะขึ้น ทางบริษัทก็บังคับให้นักศึกษาฝึกงานออกจากโรงพยาบาลไปรักษาตัวที่บ้านพร้อมเอาหนังสือมาให้เซ็น วอนผู้รู้ทางกฎหมายให้คำปรึกษาว่าสามารถดำเนินการได้อย่างไรบ้างนั้น [อ่านข่าว : นศ. ฝึกงาน ถูกเตาในโรงงานมาบตาพุด ระเบิดใส่หน้า - เสียโฉมหนัก แถมปกปิดความจริง คลิก]

          ล่าสุด วันที่ 22 มกราคม 2561 นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้สั่งการให้ น.ส.กฤตยาพร ทัพภะทัต รองผู้ว่าการ กนอ. เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ซึ่งพบว่าทางโรงงานไม่รายงานอุบัติเหตุตาม พ.ร.บ.โรงงาน ทั้งนี้ทราบชื่อนักศึกษารายดังกล่าวคือ น.ส.พนิตา ใจดี อายุ 23 ปี นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคระยอง สาขาวิชาเคมีอุตสาหกรรม ได้เข้าฝึกงานในบริษัท อิวอนิก ยูไนเต็ด ซิลิก้า (สยาม) จำกัด ถนนไอ 3 นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง



เตาโรงงานระเบิดใส่ นศ.

          ด้านนายณัฐวุฒิ ใจดี อายุ 26 ปี พี่ชาย น.ส.พนิตา กล่าวว่า ครอบครัวต้องการความมั่นใจจากบริษัท เพราะการกระทำของเจ้าหน้าที่บริษัททำให้ครอบครัวจำเป็นต้องออกมาปกป้อง ไม่ว่าจะเป็นการให้น้องสาวของตนออกจากโรงพยาบาลกะทันหัน ทั้ง ๆ ที่แม่พยายามวิงวอนบอกว่าลูกยังไม่หายดี ขออยู่ต่อได้ไหม แต่ทางบริษัทไม่สน และยืนกรานขอให้ออกไป จึงจำใจต้องออกจากโรงพยาบาล สร้างความไม่มั่นใจในความจริงใจของบริษัท

          นางกาญจนา งามเลิศ แม่ของ น.ส.พนิตา เผยว่า หลังจากเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ของบริษัทก็เข้ามาเจรจาเสนอเงินให้ 2 หมื่นบาท แล้วไปรักษาเอง ตนถึงกับจุกแทบพูดไม่ออก เพราะสภาพของลูกนั้นถูกสารเคมีลวกที่ใบหน้าจนจำแทบไม่ได้ ตีค่าแค่ 2 หมื่นบาท เมื่อเห็นตนเงียบ ก็เสนอเพิ่มเป็น 5 หมื่นบาท จึงตอบไปด้วยความอัดอั้นว่า ไม่ต้องการเงิน ต้องการเพียงบุตรสาวกลับมาเป็นปกติเท่านั้น ขอให้ดูแลค่ารักษาและไม่ต้องมาเสนออะไรอีก จนทางบริษัทให้อยู่รักษาที่โรงพยาบาล โดยช่วงรักษาได้มีการนำเอกสารมาให้เซ็น ตนกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงไม่ยอมเซ็น และที่ออกมาร้องเรียนก็ต้องการเพียงการรักษาให้บุตรสาวหายเป็นปกติเท่านั้น

          ต่อมานายชุติสิทธิ์ เดชมูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด พร้อมเจ้าหน้าที่สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง และเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบภายในบริษัท อิวอนิกฯ โดยมี Dr.Uwe Kuehner กรรมการผู้จัดการใหญ่ นายสัญญา ภวัครานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยหลังรับฟังคำชี้แจง นายชุติสิทธิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบทางบริษัทมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงาน มาตรา 7 มีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท เกี่ยวกับการที่ไม่ได้รายงานอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหลังเกิดเหตุ ในการนี้ทางบริษัทอ้างว่า หลังเกิดเหตุทุกฝ่ายต่างดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ จนลืมเรื่องการรายงานไป



          ขณะที่ ทางบริษัท อิวอนิกฯ ยืนยันว่าจะรับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาของ น.ส.พนิตา โดยจะออกค่าใช้จ่ายในการรักษาจนกว่าจะหายเป็นปกติ ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นอาจเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะบริษัทช่วยเหลือค่ารักษาแต่แรก ส่วนเรื่องกรณีไม่ได้แจ้งการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ทางบริษัทยังไม่ขอตอบ ซึ่งจะแถลงให้ทราบภายหลัง

ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Red Skull Infinity, หนังสือพิมพ์ข่าวระยอง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นักศึกษาฝึกงานโดนสารเคมีลวกหน้าเสียโฉม แม่สุดช้ำบริษัทยื่น 2 หมื่น จบเรื่อง อัปเดตล่าสุด 23 มกราคม 2561 เวลา 10:36:15 30,723 อ่าน
TOP