เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2561 สำนักข่าวรอยเตอร์ส เผยรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันประสาทวิทยาแห่งประเทศจีน ในกรุงเซี่ยงไฮ้ ประสบความสำเร็จในการโคลนนิ่งลิงได้เป็นคู่แรกของโลก โดยใช้กระบวนการที่เรียกว่า การถ่ายโอนโซมาติกเซลล์ (Somatic Cell Nuclear Transfer หรือ SCNT) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนนิวเคลียสของเซลล์ และนำนิวเคลียสที่มีดีเอ็นเอ ใส่ลงไปในไข่ที่ถูกดึงนิวเคลียสออก ซึ่งเป็นเทคนิคเดียวกับแกะดอลลี่ แกะโคลนนิ่งตัวแรกของโลกที่สร้างความฮือฮาต่อวงการวิทยาศาสตร์โลกเมื่อ 22 ปีก่อน (พ.ศ. 2539)
งานวิจัยชิ้นล่าสุดนี้ ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Cell ในวันที่ 24 มกราคม 2561 โดยทีมนักวิจัยได้ตั้งชื่อให้กับลิงโคลนนิ่งคู่แรกนี้ว่า จงจง (Zhong Zhong) และ ฮวาฮวา (Hua Hua) โดยทั้งคู่เป็นผลสำเร็จจากความพยายามทั้งสิ้น 79 ครั้ง โดยก่อนหน้านี้มีลิงคู่หนึ่งประสบความสำเร็จในการโคลนนิ่งจากเซลล์ชนิดอื่น แต่ไม่สามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้ ทางทีมวิจัยจึงทดลองหลายวิธี กระทั่งพบว่ามีวิธีการเดียวนี้ที่เป็นผลสำเร็จ โดยเจ้าจงจงและฮวาฮวากำเนิดขึ้นมาเมื่อ 8 และ 6 สัปดาห์ก่อน ตามลำดับ และทั้งคู่เติบโตสมบูรณ์ตามเกณฑ์ปกติ
จากความสำเร็จนี้ ทำให้เจ้าจงจงและฮวาฮวา กลายเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกลุ่มไพรเมต (Primate) คู่แรกของโลก ที่ถูกโคลนนิ่งจากเซลล์ที่ไม่ใช่ตัวอ่อน ซึ่งสัตว์กลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีพัฒนาการสูงที่สุด อันได้แก่ ลิง เอป (ลิงไม่มีหาง) และมนุษย์ ทั้งนี้ทั้งนั้น แน่นอนว่าความสำเร็จดังกล่าวนำมาซึ่งความเป็นกังวลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องจริยธรรมและศีลธรรม เนื่องจากเสมือนเป็นการเปิดทางให้โลกเข้าใกล้การโคลนนิ่งสายพันธุ์มนุษย์มากขึ้น
"มนุษย์ก็จัดอยู่ในสัตว์จำพวกไพรเมต ดังนั้นแสดงให้เห็นว่า อุปสรรคทางด้านเทคนิคในการโคลนนิ่งสัตว์จำพวกไพเมต ได้ถูกทลายลงแล้ว แต่ทั้งนี้ เหตุผลที่เราทำลายอุปสรรคนี้ ก็เพื่อผลิตโมเดลสัตว์ที่เป็นประโยชน์ต่อการแพทย์ เพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพของมนุษย์ ไม่ได้ตั้งใจที่จะนำวิธีการโคลนนิ่งนี้มาใช้กับมนุษย์แต่อย่างใด" ตัวแทนทีมวิจัย เผย
สำหรับสัตว์ที่มีลักษณะเหมือนกันทางพันธุกรรมจากการโคลนนิ่งเช่นนี้ เป็นประโยชน์ต่อการวิจัย เนื่องจากความผันแปรทางพันธุกรรมในสัตว์ที่ไม่ได้มาจากโคลนนิ่ง เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความสับสน อาจทำให้การทดลองเป็นเรื่องยากลำบาก ดังนั้นวิธีการนี้จึงสามารถเป็นแนวทางในการทดสอบทางการแพทย์ใหม่ ๆ ก่อนจะพัฒนาไปสู่การใช้งานจริง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก bbc.com