เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 พล.ต.ต. ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) เปิดเผยถึงการตรวจสอบอาวุธปืน ลูกกระสุนปืนหลายรายการ ที่มีการตรวจค้นได้ที่บ้านของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ว่ามีการนำไปก่อเหตุในพื้นที่ไหนมาก่อนหรือไม่ โดยกองพิสูจน์หลักฐาน 7 ได้ประสานขอลูกกระสุนปืนไรเฟิลที่ตรวจยึดได้ไปตรวจเทียบเคียงกับหัวกระสุนปืนไรเฟิลที่พบในซากช้างป่า ที่ถูกยิงบริเวณอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อประมาณ 3-4 ปีก่อน ว่าเป็นกระบอกเดียวกันหรือไม่
โดยคาดว่าจะทราบผลภายใน 3 วัน ซึ่งเรื่องนี้สามารถตรวจสอบได้ เพราะมีการเก็บหลักฐานไว้ ถึงแม้ว่าซากช้างจะไม่อยู่แล้ว แต่ทุกครั้งที่ช้างถูกยิง เจ้าหน้าที่จะเก็บลูกกระสุนไว้เป็นหลักฐาน ในกรณีนี้ตำรวจเพียงสงสัย ยังไม่มีข้อมูลว่านายเปรมชัยเดินทางไปในห้วงเวลาที่ช้างถูกยิงหรือไม่ เป็นการเปรียบเทียบเชื่อมโยง จึงต้องพิสูจน์ทราบ
ขณะที่ พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในส่วนประเด็นที่นายเปรมชัยเป็นคนยิงเสือดำหรือไม่นั้น ตนเห็นว่าไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ เนื่องจากในทางกฎหมายเพียงแค่ลักลอบนำอาวุธปืนขึ้นไปบนอุทยานฯ ก็ถือว่ามีความผิดแล้ว ยืนยันผู้ต้องหาทั้ง 4 คน มีความผิดร่วมกันชัดเจน และมีอัตราโทษเท่ากัน ไม่ว่าบุคคลใดจะเป็นคนยิงก็ตาม โดยคดีนี้มั่นใจว่าอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแน่นอน
ส่วนกรณีที่ศาลนัดให้นายเปรมชัย รายงานตัวในวันที่ 26 มีนาคม 2561 ไม่ใช่การขอเลื่อนรายงานตัว แต่ศาลเห็นว่าศาลจังหวัดทองผาภูมิอยู่ไกล เดินทางลำบาก จึงนัดให้นายเปรมชัยกับพวก รายงานตัวผัดฟ้องครั้งที่ 4 คือ วันที่ 26 มีนาคม 2561 หากไม่เดินทางมาตามนัดก็จะริบเงินประกัน และออกหมายจับ ส่วนนายเปรมชัยจะเดินทางมาหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ แต่จากการตรวจสอบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยังไม่พบรายชื่อนายเปรมชัย เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศ