แม่ค้าร่ำไห้ตลาดโดนปิดหลังเจอพิษป้าทุบรถ สุดแค้นทั้งสาวเจ้าของรถ-ป้าเจ้าของบ้าน ลั่นแค่คนเดียวทำอีกหลายชีวิตเดือดร้อน รายได้หด แฉเคยเห็นกับตา 2 ป้าเอาอุจจาระมาราดไล่ขอทาน
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่สำรวจการค้าขายของตลาดสดสวนหลวง ร.9 ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต และตลาดยิ่งนรา พบว่าค่อนข้างเงียบเหงา มีแม่ค้ามาขายของลดลงกว่าครึ่ง ด้านเจ้าหน้าที่เทศกิจก็เข้ามาดูแลบริเวณพื้นที่ตลาดทั้ง 5 แห่ง หลังได้รับคำสั่งกรณีอาจมีแม่ค้าเข้ามาใช้พื้นที่สาธารณะ ซึ่งหากเจอก็จะเข้าไปตักเตือนให้เก็บของออกไป ส่วนในเรื่องของการขายของในตลาด เจ้าหน้าที่แจ้งว่ายังไม่มีการเข้าไปดำเนินการ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงปรับปรุงตลาดในระยะ 7 วัน หลังจากนี้ต้องรอคำสั่งอีกครั้ง
ขณะที่ คุณแอน แม่ค้าขายผลไม้ ตลาดสวนหลวง ร.9 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า ตนขายที่นี่มามากกว่า 10 ปี ตั้งแต่ยังไม่เป็นตลาดขึ้นมา จนมีการฟ้องเกิดขึ้น ตนยืนยันว่า ไม่ได้ทำอะไรสกปรก ขายเสร็จก็จะเก็บให้เรียบร้อย แถมยังช่วยดูแลความสะอาดรอบ ๆ บ้านอีก ส่วนกรณีที่ป้าบุญศรี กล่าวหาว่าทางแม่ค้าไปขโมยต่อไฟฟ้ามาใช้นั้น ตนยืนยันว่าไม่มีแน่นอน เพราะใครจะทำได้ กำแพงบ้านก็สูง อีกทั้งเรื่องกลิ่นเหม็นจะเข้าไปได้อย่างไร กำแพงบ้านสูงขนาดนั้น รวมทั้งแม่ค้าก็ไม่เคยไปทำความเดือดร้อนอะไรให้เขา
คุณแอน ยืนยันอีกว่า เรื่องที่มีคนตายในบ้านของป้าบุญศรี เพราะมีรถขวางหน้าบ้านจนออกไม่ได้นั้น ไม่เคยได้ยินข่าวนี้ แต่เคยได้ยินว่าเป็นบ้านอีกหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากตลาดอีกไกล และเรื่องเกิดคนละเวลากับที่ตลาดเปิด นอกจากนี้ ตนยังเห็นกับตาว่า บ้านของป้าบุญศรีเคยใช้สายยางฉีดน้ำ เพื่อไล่ขี้หมาออกมาจากบ้าน จนเกลื่อนบริเวณหน้าบ้านเต็มไปหมด เพราะเมื่อก่อนมีแม่ค้ามาจอดขายของบริเวณหน้าบ้าน และบางครั้งเมื่อมีขอทานมานั่ง เขาก็จะเอาอุจจาระมาราด มันคงไม่ใช่ปุ๋ยคอกแน่ เพราะมันเหลืองขนาดนั้น กลิ่นแรงมาก เรื่องไม่ดีของเขาก็มีเหมือนกัน แต่เราไม่มีหลักฐาน
สำหรับเรื่องทุบรถที่หลายคนสงสัยว่าเป็นการสร้างสถานการณ์นั้น ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่แม่ค้าพูดกันว่าเหมือนสร้างภาพ โดยเฉพาะหลังเกิดเรื่องคนที่โดนทุบรถยังมีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสไม่เถียงอะไร เรื่องคดีทุบรถก็ไม่มีข่าวแถลง มีแต่เรื่องประเด็นตลาดมากกว่า อีกทั้งก็เคยมีผู้หญิงคนหนึ่งถูกพลั่วฟาดรถ แต่ผู้หญิงคนนั้นรีบขอโทษ แล้วขับรถออกไป แต่เหตุการณ์ครั้งนี้รุนแรงมากจนกลายเป็นข่าวขึ้นมา
ด้าน นายอภัย ใหญ่กระโทก ผู้ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ที่อยู่บริเวณตลาดทั้ง 5 แห่ง ใกล้กับบ้านของป้าบุญศรี เปิดเผยว่า ตนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างมาหลายปีแล้ว โดยจะรับ-ส่ง ผู้ที่มาออกกำลังกายที่สวนหลวง ร.9 และผู้ที่มาเดินตลาดบริเวณนี้ หากต้องปิดตลาด ตนมีผลกระทบแน่นอน เพราะต้องผ่อนบ้านและส่งลูกเรียน บางครั้งเงินยังไม่พอใช้จ่าย หากมีการปิดตลาดจริง รายได้คงเหลือไม่ถึง 300 บาท ก็ต้องไปหารายได้เสริมทำ แต่ก็ยังไม่ได้คิดไว้ว่าจะไปทำอะไร ส่วนตัวตนก็ยังอยากให้มีตลาดอยู่ แต่อยากให้จัดระเบียบให้เรียบร้อยมากขึ้น พร้อมยอมรับว่าเห็นใจคุณป้าบุญศรี เพราะเสาร์-อาทิตย์ มีรถเป็นจำนวนมาก คนเข้า-ออกลำบาก
ส่วน นางบังอร สุขมงคล แม่ค้าขายส้มตำ เปิดเผยว่า หลายคนในตลาดต่างก็ตั้งข้อสังเกตกันว่า เหตุการณ์ทุบรถนั้นเป็นการจัดฉากสร้างสถานการณ์หรือไม่ ตนก็ยอมรับว่า คิดไม่ต่างกันนัก เพราะขณะเกิดเหตุ ตนเห็นว่าเจ้าของรถที่โดนทุบไม่ได้มีท่าทีตกใจ กลับยืนนิ่งเฉย ปล่อยให้เขาชี้หน้าด่าหยาบคาย ผิดวิสัยคนที่โดนทุบรถไปต่อหน้า อีกทั้งเจ้าของรถบ้านอยู่มหาชัย จ.สมุทรสาคร เดินทางตั้งไกลมาซื้อของที่นี่เป็นครั้งแรก แล้วก็มาจอดหน้าบ้านเขาจนกลายเป็นเรื่องขึ้นมาทันที
นางบังอร ยอมรับด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า โกรธทั้งป้าเจ้าของบ้านและเจ้าของรถ เพราะไม่ใช่แค่ตนที่เดือดร้อน แต่เป็นพ่อค้าแม่ค้าทั้งตลาด เพราะทุกคนต่างมีภาระ ตอนนี้รู้สึกน้อยใจชะตา เพราะตลาดปิดกะทันหัน หากมีเวลาให้ตั้งตัวสัก 1 เดือน คงจะดีกว่านี้ ตลอดทั้งวันนี้ตนต้องเก็บของและย้ายของยังไม่มีเวลากินข้าว แค่คนคนเดียวทำให้ตนขาดรายได้ เพราะต้องเลี้ยงแม่ป่วยเบาหวาน สามีก็เสียชีวิตไปแล้ว ตอนนี้ลำบากสุด ๆ ตั้งแต่เกิดเรื่องมาแค้นจนไม่ได้กินข้าวกินน้ำ แค้นใจทั้งเจ้าของบ้านกับเจ้าของรถ จากที่เคยหาเงินได้ ต้องมาเจอสภาพแบบนี้ ยังรับไม่ได้ หลังจากนี้ตนคิดว่าจะไปจองแผงค้าในตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต แต่ไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ หากขายของไม่ได้จริง ๆ ก็คงต้องเข็นรถขายเรื่อยไป
ภาพและข้อมูลจาก ทุบโต๊ะข่าว อมรินทร์ทีวี