วันที่ 14 มีนาคม 2561 นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) แถลงข่าวความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและคนไร้ที่พึ่ง ว่า จากการที่ พส. ได้จัดทีมลงพื้นที่ตรวจสอบการทุจริตเงินสงเคราะห์ ของหน่วยงานในสังกัด พส. 56 แห่ง พบผลการตรวจสอบแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย
2. กลุ่มที่อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ 31 แห่ง
3. กลุ่มที่ตรวจสอบพบมูลความผิด 21 แห่ง
ในจำนวนนี้ได้มีการสั่งย้ายหัวหน้าหน่วยงานออกจากพื้นที่มายังส่วนกลางแล้ว 16 แห่ง อาทิ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.บึงกาฬ, สุราษฎร์ธานี, พัทลุง และยะลา รวมถึงมีหัวหน้าหน่วยงานนิคมสร้างตนเองควนขนุน จ.พัทลุง, นิคมฯ เทพา จ.สงขลา, นิคมฯ ธารโต จ.ยะลา ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง จ.เชียงใหม่ ซึ่งคาดว่าจะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงได้ภายในสัปดาห์นี้ หรืออย่างช้าต้นสัปดาห์หน้า
ส่วนจังหวัดที่ชัดเจนและได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแล้ว คือ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น และ จ.เชียงใหม่ ในส่วนศูนย์ จ.ขอนแก่น อยู่ระหว่างขยายเวลาให้ผู้ถูกกล่าวหานำข้อมูลหลักฐานมาหักล้าง คาดว่าภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ จะทราบผลการพิจารณาฐานความผิด ส่วนที่ศูนย์ จ.เชียงใหม่ ยังอยู่ระหว่างให้ผู้ถูกกล่าวหาส่งข้อมูลหลักฐานมาหักล้าง
ขณะที่ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี และพัทลุง หัวหน้าหน่วยได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว และโครงการศูนย์หมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง จ.เชียงใหม่ หัวหน้าหน่วยงานได้ลาออกไปแล้ว แต่ตามระเบียบราชการยังสามารถให้ต้นสังกัดดำเนินการสอบวินัยได้ภายในระยะเวลา 180 วัน ซึ่งขณะนี้ พส. ได้ทำหนังสือแจ้งให้เจ้าตัวทราบแล้วว่าจะต้องถูกสอบวินัย
ส่วนประเด็นที่ พส. ระบุว่า ตรวจสอบไม่พบมูลความผิดของศูนย์ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.อ่างทอง ขัดแย้งกับที่ ป.ป.ท. ตรวจพบนั้น อาจเป็นเพราะการสุ่มตรวจกันคนละพื้นที่ แต่เมื่อ ป.ป.ท. ตรวจสอบพบ พส. ก็จะส่งทีมลงไปตรวจสอบซ้ำต่อไป
ภาพจาก เฟซบุ๊ก กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก