คืบหน้ากรณีสาววัย 16 ถูกแฉเป็นน้ำมนต์ 2 ที่หลอกลวงผู้ชายให้รักและแต่งงานด้วยก่อนจะชิ่งเอาเงินสินสอดหนีหายไป ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : น้ำมนต์ 2 ปิดบ้านเงียบ...ผู้ใหญ่บ้านคอนเฟิร์ม ชอบล่าเหยื่อมาแต่งงานจริง !)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (21 มีนาคม 2561) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ นางสาวเจี๊ยบ (นามสมมติ) สาวที่ถูกกล่าวหา เผยยอมรับว่า ตนเคยคบกับผู้ชายมาหลายคนจริง แต่เป็นการคบทีละคน คบด้วยความรัก ไม่ได้คบเพื่อหวังเงินทองแต่อย่างใด ตามที่เพจดังกล่าวหา
ส่วนกรณีที่ตนเคยพูดจาไม่ดีไป เช่น คำว่า เลว นั้น ตนก็พูดเล่นปกติ เหมือนพูดกับเพื่อน ๆ ตนไม่คิดว่าโจ๊กจะเก็บไปคิด ตอนบอกยกเลิก ตนก็ยินยอมจะชดใช้เงินให้ 100,000 บาท ตามที่ตกลงกัน ตนคิดว่าเรื่องน่าจะจบ แต่ก็ไม่ โจ๊กได้ไปหาคนมาเข้าพิธีแต่งงานแทนตน มีการเก็บซองในงานแต่ง โดยเปลี่ยนชื่อบนเวที ไม่ใช่ชื่อตน แต่ที่หน้าซองกลับยังเป็นชื่อของตนอยู่
ในกรณี ตั๊ก ตนก็ยอมรับว่ารักมาก จนยอมถ่ายพรีเวดดิ้ง ในเรื่องของบัตรเอทีเอ็ม เป็นเงินที่เก็บมาด้วยกัน ตนนำบัตรไปกดเงินออกมาใช้จ่ายภายในครอบครัว เพราะค่าใช้จ่ายในครอบครัวก็เยอะ แต่ก็ยอมรับว่าเงินที่นำมาใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นเงินของเขา และในเรื่องของโรคมะเร็ง ตนไม่ได้หลอก เพราะตอนนั้นตนได้เข้าผ่าตัดใหญ่ ในช่วงที่รอฟังผล ซึ่งแพทย์เผยว่าอาจจะเป็นมะเร็ง ตนจึงบอกไปอย่างนั้น แต่ยืนยันว่าตั๊กไม่ได้ให้เงินตนมารักษาตัวตามที่อ้างแต่อย่างใด และเรื่องที่ตนไม่ได้บอกสถานะที่แท้จริงทางครอบครัวนั้น เป็นเพราะตนกำลังอยู่ในช่วงปรึกษากับทางครอบครัวเรื่องแฟนเก่า ตนยืนยันว่าไม่ได้ต้องการจะปิดบังเรื่องครอบครัว เพียงแค่ตอนนั้นยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผย ตนยอมรับว่ารักและอยากแต่งงานด้วยมาก แต่ตั๊กกลับเป็นฝ่ายมาบอกเลิกตนไป
ส่วนเรื่องของ ปั่น มีการคบหากันหลังจากที่เลิกกับตั๊กแล้ว ตนยอมรับว่ามีเพื่อนผู้ชายเยอะ แต่เป็นเพื่อน ไม่ได้คบผู้ชายซ้อนหลายคน ตนไม่เคยโกหกเรื่องครอบครัวว่ารับราชการ เพราะปั่นก็เคยไปที่บ้านและได้เจอพ่อกับแม่ตนแล้ว ส่วนเรื่องรถยนต์นั้น ก็เป็นการตัดสินใจซื้อของทั้งคู่ เพราะต้องการนำมาใช้ในครอบครัว แต่ที่ตนนำไปใช้คนเดียวเพราะปั่นขับไม่เป็น และเรื่องสร้อยทองนั้น ตนก็เอาไปจำนำไว้ ยังไม่ได้ไถ่ออกมา และที่เอาไปจำนำก็เพราะต้องการเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว รวมถึงใช้เป็นค่าดาวน์รถด้วย ซึ่งการเอาไปจำนำก็เป็นการยิมยอมและเต็มใจของปั่น
ขณะที่ นายพิทยา ทนายความของเจี๊ยบ เปิดเผยว่า จากการที่เพจดังมีการนำข้อความรวมถึงภาพเจี๊ยบและลูกโพสต์ลงเฟซบุ๊กโดยไม่มีการเซ็นเซอร์นั้น เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ไม่ควรนำเด็กมาเกี่ยวข้องด้วย ส่วนในเรื่องของงานแต่งงานกับโจ๊กนั้น ทางคุณเจี๊ยบได้มาปรึกษาว่าจะยังต้องจ่ายเงินชดใช้ตามที่ตกลงกันไว้หรือไม่ เพราะทางโจ๊กเองก็ได้จัดงานแต่งไปแล้ว ไม่ได้ล้มเลิก และมีการเก็บซอง ซึ่งจากการที่ตนได้ปรึกษาในกลุ่มเพื่อนทนาย จึงมีความคิดเห็นตั้งข้อสังเกตว่า ในเมื่อมีการจัดงานแต่ง ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ถึง 100,000 บาท ตามที่เคยทำสัญญารับสภาพหนี้ไปก่อนหน้านี้
ด้าน นางลีน่าจัง ทนายฝ่ายคุณโจ๊ก กล่าวว่า ทางฝ่ายตนจะมีการดำเนินคดีกับคุณเจี๊ยบในข้อหายักยอกทรัพย์ เนื่องจากคุณโจ๊กเคยให้เงินคุณเจี๊ยบไป 5,000 บาท เพื่อเช่ารถยนต์แห่ขันหมาก แต่คุณเจี๊ยบเอาไปจ่ายเพียง 3,000 บาท ยักยอกไป 2,000 บาท เป็นการก่อเหตุก่อนทำสัญญายอมรับสภาพหนี้ 100,000 บาท ตามที่ตกลงกันไว้ว่าได้กระทำการละเมิดต่อคุณโจ๊ก ทำให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากบอกล้มเลิกงานแต่ง ซึ่งเป็นคดีที่ยอมความกันได้ และทางฝ่ายตนยินดีลดให้ 10,000 บาท เหลือต้องจ่าย 90,000 บาท ตามที่ตกลงไว้ ก็จะเข้าถอนแจ้งความทันที
ภาพและข้อมูลจาก