x close

น้ำมนต์ 2 ยันไม่เคยหลอกใคร ที่เลิกเพราะไปไม่รอด - เครียดหนักลูกถูกเพื่อนล้อ

หลอกแต่งงาน

          เปิดปากน้ำมนต์ 2 ยอมรับคบผู้ชายมาหลายคน แต่ยันคบทีละคน และไม่ได้หลอกลวง ที่เลิกก็เพราะไปกันไม่ได้ ขอสังคมอย่าเอาลูกเข้ามาเกี่ยวข้อง ยอมรับว่าเครียดมาก หลังถูกแฉต่อหน้าลูก จนเพื่อนที่โรงเรียนล้อ..

          คืบหน้ากรณีสาววัย 16 ถูกแฉเป็นน้ำมนต์ 2 ที่หลอกลวงผู้ชายให้รักและแต่งงานด้วยก่อนจะชิ่งเอาเงินสินสอดหนีหายไป ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : น้ำมนต์ 2 ปิดบ้านเงียบ...ผู้ใหญ่บ้านคอนเฟิร์ม ชอบล่าเหยื่อมาแต่งงานจริง !)

หลอกแต่งงาน

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ (21 มีนาคม 2561) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ นางสาวเจี๊ยบ (นามสมมติ) สาวที่ถูกกล่าวหา เผยยอมรับว่า ตนเคยคบกับผู้ชายมาหลายคนจริง แต่เป็นการคบทีละคน คบด้วยความรัก ไม่ได้คบเพื่อหวังเงินทองแต่อย่างใด ตามที่เพจดังกล่าวหา

หลอกแต่งงาน
          นางสาวเจี๊ยบ เผยต่อว่า ในกรณีของ โจ๊ก ที่ออกมาแฉว่าถูกหลอกนั้น ตนยอมรับว่ามีการจัดงานแต่งงานจริง แต่เป็นเพียงพิธีเอาฤกษ์เอายามตามความเชื่อเท่านั้น ไม่ได้แต่งจริงและไม่ได้เก็บซอง ซึ่งตนยอมรับว่าเป็นฝ่ายบอกยกเลิกงานแต่งเอง เพราะเท่าที่ทบทวนดูแล้ว คิดว่าหากแต่งไปก็ไม่มีความสุข ตนไม่ได้รักแล้ว เราเข้ากันไม่ได้ และตลอดเวลาที่คบกันโจ๊กก็รู้จักนิสัยตนดี ว่าเป็นคนใจร้อน

หลอกแต่งงาน

          ส่วนกรณีที่ตนเคยพูดจาไม่ดีไป เช่น คำว่า เลว นั้น ตนก็พูดเล่นปกติ เหมือนพูดกับเพื่อน ๆ ตนไม่คิดว่าโจ๊กจะเก็บไปคิด ตอนบอกยกเลิก ตนก็ยินยอมจะชดใช้เงินให้ 100,000 บาท ตามที่ตกลงกัน ตนคิดว่าเรื่องน่าจะจบ แต่ก็ไม่ โจ๊กได้ไปหาคนมาเข้าพิธีแต่งงานแทนตน มีการเก็บซองในงานแต่ง โดยเปลี่ยนชื่อบนเวที ไม่ใช่ชื่อตน แต่ที่หน้าซองกลับยังเป็นชื่อของตนอยู่

หลอกแต่งงาน

          ในกรณี ตั๊ก ตนก็ยอมรับว่ารักมาก จนยอมถ่ายพรีเวดดิ้ง ในเรื่องของบัตรเอทีเอ็ม เป็นเงินที่เก็บมาด้วยกัน ตนนำบัตรไปกดเงินออกมาใช้จ่ายภายในครอบครัว เพราะค่าใช้จ่ายในครอบครัวก็เยอะ แต่ก็ยอมรับว่าเงินที่นำมาใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นเงินของเขา และในเรื่องของโรคมะเร็ง ตนไม่ได้หลอก เพราะตอนนั้นตนได้เข้าผ่าตัดใหญ่ ในช่วงที่รอฟังผล ซึ่งแพทย์เผยว่าอาจจะเป็นมะเร็ง ตนจึงบอกไปอย่างนั้น แต่ยืนยันว่าตั๊กไม่ได้ให้เงินตนมารักษาตัวตามที่อ้างแต่อย่างใด และเรื่องที่ตนไม่ได้บอกสถานะที่แท้จริงทางครอบครัวนั้น เป็นเพราะตนกำลังอยู่ในช่วงปรึกษากับทางครอบครัวเรื่องแฟนเก่า ตนยืนยันว่าไม่ได้ต้องการจะปิดบังเรื่องครอบครัว เพียงแค่ตอนนั้นยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผย ตนยอมรับว่ารักและอยากแต่งงานด้วยมาก แต่ตั๊กกลับเป็นฝ่ายมาบอกเลิกตนไป

หลอกแต่งงาน

          ส่วนเรื่องของ ปั่น มีการคบหากันหลังจากที่เลิกกับตั๊กแล้ว ตนยอมรับว่ามีเพื่อนผู้ชายเยอะ แต่เป็นเพื่อน ไม่ได้คบผู้ชายซ้อนหลายคน ตนไม่เคยโกหกเรื่องครอบครัวว่ารับราชการ เพราะปั่นก็เคยไปที่บ้านและได้เจอพ่อกับแม่ตนแล้ว ส่วนเรื่องรถยนต์นั้น ก็เป็นการตัดสินใจซื้อของทั้งคู่ เพราะต้องการนำมาใช้ในครอบครัว แต่ที่ตนนำไปใช้คนเดียวเพราะปั่นขับไม่เป็น และเรื่องสร้อยทองนั้น ตนก็เอาไปจำนำไว้ ยังไม่ได้ไถ่ออกมา และที่เอาไปจำนำก็เพราะต้องการเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว รวมถึงใช้เป็นค่าดาวน์รถด้วย ซึ่งการเอาไปจำนำก็เป็นการยิมยอมและเต็มใจของปั่น

          นางสาวเจี๊ยบ ทิ้งท้ายว่า ที่ตนต้องออกมาพูด ยืนยันว่าไม่โกรธหรือเกลียดคู่กรณี แต่เรื่องราวที่ถูกเปิดเผยออกมาถูกบิดเบือนจากความจริง คนทุกคนเคยมีประวัติไม่ดี และที่สำคัญ หลังเพจดังมีการเผยแพร่ภาพของลูกตนวัย 10 ขวบ ลูกตนก็ถูกเพื่อนล้อเลียน ตนเครียด เพราะไม่รู้จะตอบลูกว่าอย่างไร จึงอยากขอว่าอย่าเอาลูกของตนไปเกี่ยวข้องด้วยเลย

หลอกแต่งงาน

          ขณะที่ นายพิทยา ทนายความของเจี๊ยบ เปิดเผยว่า จากการที่เพจดังมีการนำข้อความรวมถึงภาพเจี๊ยบและลูกโพสต์ลงเฟซบุ๊กโดยไม่มีการเซ็นเซอร์นั้น เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ไม่ควรนำเด็กมาเกี่ยวข้องด้วย ส่วนในเรื่องของงานแต่งงานกับโจ๊กนั้น ทางคุณเจี๊ยบได้มาปรึกษาว่าจะยังต้องจ่ายเงินชดใช้ตามที่ตกลงกันไว้หรือไม่ เพราะทางโจ๊กเองก็ได้จัดงานแต่งไปแล้ว ไม่ได้ล้มเลิก และมีการเก็บซอง ซึ่งจากการที่ตนได้ปรึกษาในกลุ่มเพื่อนทนาย จึงมีความคิดเห็นตั้งข้อสังเกตว่า ในเมื่อมีการจัดงานแต่ง ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ถึง 100,000 บาท ตามที่เคยทำสัญญารับสภาพหนี้ไปก่อนหน้านี้

หลอกแต่งงาน

          ด้าน นางลีน่าจัง ทนายฝ่ายคุณโจ๊ก กล่าวว่า ทางฝ่ายตนจะมีการดำเนินคดีกับคุณเจี๊ยบในข้อหายักยอกทรัพย์ เนื่องจากคุณโจ๊กเคยให้เงินคุณเจี๊ยบไป 5,000 บาท เพื่อเช่ารถยนต์แห่ขันหมาก แต่คุณเจี๊ยบเอาไปจ่ายเพียง 3,000 บาท ยักยอกไป 2,000 บาท เป็นการก่อเหตุก่อนทำสัญญายอมรับสภาพหนี้ 100,000 บาท ตามที่ตกลงกันไว้ว่าได้กระทำการละเมิดต่อคุณโจ๊ก ทำให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากบอกล้มเลิกงานแต่ง ซึ่งเป็นคดีที่ยอมความกันได้ และทางฝ่ายตนยินดีลดให้ 10,000 บาท เหลือต้องจ่าย 90,000 บาท ตามที่ตกลงไว้ ก็จะเข้าถอนแจ้งความทันที



ภาพและข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
น้ำมนต์ 2 ยันไม่เคยหลอกใคร ที่เลิกเพราะไปไม่รอด - เครียดหนักลูกถูกเพื่อนล้อ อัปเดตล่าสุด 22 มีนาคม 2561 เวลา 11:51:02 67,739 อ่าน
TOP