เปิดภาพมุมขวางเผยสภาวะของถ้ำหลวง แม้มีน้ำขังปากถ้ำ แต่ข้างในมีโพรงอากาศคล้ายชักโครก ลึกเข้าไปมีเนินสูง เชื่อเด็ก ๆ ยังมีชีวิตอยู่บนนั้น
ภารกิจการช่วยชีวิตเด็ก ๆ ทีมฟุตบอลและโค้ช ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา เนื่องจากฝนตกหนักจนทำให้ระดับน้ำในถ้ำท่วมสูงจนปิดปากถ้ำ โดยเจ้าหน้าที่หน่วยซีลได้เข้ามาช่วยเหลือในภารกิจดังกล่าว เบื้องต้นพบร่องรอยของเด็ก ๆ แล้ว แต่ยังไม่พบตัว [อ่านข่าว : เปิดเบาะแส เด็ก ๆ เรียงรองเท้าเป็นศรชี้ทาง สัญญาณขอความช่วยเหลือ]
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 25 มิถุนายน 2561 เฟซบุ๊ก Teerayut Ninmon ได้วาดภาพจำลองสภาวะภายในถ้ำ ซึ่งหากมองง่าย ๆ ให้นึกถึงชักโครก ที่มีน้ำขังอยู่ปากถ้ำ แต่ก็มีโพรงอยู่ข้างในเป็นอากาศ และท้ายถ้ำก็มีน้ำขังอยู่ น้ำฝนที่ไหลลงมานั้นไหลลงมาตามรอยแยกของถ้ำ และเด็ก ๆ อาจจะอยู่บนเนินที่สูงซึ่งมีอากาศ ส่วนทีมที่เข้าช่วยเหลือต้องดำน้ำลงไปลอดผ่านพื้นผนังถ้ำที่จมน้ำ แน่นอนว่าต้องมีหินงอก-หินย้อย และสิ่งกีดขวางต่าง ๆ
เจ้าของเรื่องระบุอีกว่า ตนเชื่อว่าเด็ก ๆ มีชีวิตอยู่บนเนินในถ้ำ เพราะคนที่เคยติดอยู่ในเหตุการณ์ตึกถล่มก็สามารถมีชีวิตรอดได้หลายสิบวันภายใต้ความกดดันสูงเช่นนี้ ตนจึงเชื่อว่าเด็ก ๆ ยังรอดชีวิตอยู่ สำหรับวิธีการที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือก็ถูกต้องแล้ว และกำลังหาวิธีระบายน้ำออกจากถ้ำ แต่การสูบน้ำออกจากถ้ำรวดเร็วเกินไปจะมีผลต่อความดันภายในถ้ำด้วย ซึ่งอาจจะส่งผลให้เด็ก ๆ ปรับตัวไม่ทันจนอาจจะช็อกได้
สำหรับข้อความทั้งหมดมีดังนี้
![ถ้ำหลวง]( "ถ้ำหลวง")
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก Teerayut Ninmon
ภารกิจการช่วยชีวิตเด็ก ๆ ทีมฟุตบอลและโค้ช ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา เนื่องจากฝนตกหนักจนทำให้ระดับน้ำในถ้ำท่วมสูงจนปิดปากถ้ำ โดยเจ้าหน้าที่หน่วยซีลได้เข้ามาช่วยเหลือในภารกิจดังกล่าว เบื้องต้นพบร่องรอยของเด็ก ๆ แล้ว แต่ยังไม่พบตัว [อ่านข่าว : เปิดเบาะแส เด็ก ๆ เรียงรองเท้าเป็นศรชี้ทาง สัญญาณขอความช่วยเหลือ]
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 25 มิถุนายน 2561 เฟซบุ๊ก Teerayut Ninmon ได้วาดภาพจำลองสภาวะภายในถ้ำ ซึ่งหากมองง่าย ๆ ให้นึกถึงชักโครก ที่มีน้ำขังอยู่ปากถ้ำ แต่ก็มีโพรงอยู่ข้างในเป็นอากาศ และท้ายถ้ำก็มีน้ำขังอยู่ น้ำฝนที่ไหลลงมานั้นไหลลงมาตามรอยแยกของถ้ำ และเด็ก ๆ อาจจะอยู่บนเนินที่สูงซึ่งมีอากาศ ส่วนทีมที่เข้าช่วยเหลือต้องดำน้ำลงไปลอดผ่านพื้นผนังถ้ำที่จมน้ำ แน่นอนว่าต้องมีหินงอก-หินย้อย และสิ่งกีดขวางต่าง ๆ
เจ้าของเรื่องระบุอีกว่า ตนเชื่อว่าเด็ก ๆ มีชีวิตอยู่บนเนินในถ้ำ เพราะคนที่เคยติดอยู่ในเหตุการณ์ตึกถล่มก็สามารถมีชีวิตรอดได้หลายสิบวันภายใต้ความกดดันสูงเช่นนี้ ตนจึงเชื่อว่าเด็ก ๆ ยังรอดชีวิตอยู่ สำหรับวิธีการที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือก็ถูกต้องแล้ว และกำลังหาวิธีระบายน้ำออกจากถ้ำ แต่การสูบน้ำออกจากถ้ำรวดเร็วเกินไปจะมีผลต่อความดันภายในถ้ำด้วย ซึ่งอาจจะส่งผลให้เด็ก ๆ ปรับตัวไม่ทันจนอาจจะช็อกได้
สำหรับข้อความทั้งหมดมีดังนี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก Teerayut Ninmon
