ข่าว พระราชสำนัก รายงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรรับสนองพระราชโองการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือ ในหลวง ช่วยเด็กยากจนวัย 12 ปี ที่ถวายฎีกาขอความช่วยเหลือจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือ ในหลวง โดยเขียนจดหมายฎีกา ว่าต้องช่วยพ่อทำงานรับจ้างจุนเจือที่บ้าน
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์
จากกรณีที่ เด.ช.ชาตรี นัดดา หรือน้องบุตร อายุ 12 ปีอยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ที่ 5 ตำบลท่าหลวง อำเภอเมืองพิจิตร ได้ทำหนังสือถวายฎีกา ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2550 โดยในหนังสือที่ถวายฏีกานั้นมีเนื้อหาว่า
"ขอพระราชทานความเมตตา กราบแทบเท้าพระพ่อหลวงของแผ่นดิน กระผม ด.ช.ชาตรี นัดดา อาศัยอยู่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ตำบลท่าหลวงอำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ขณะนี้เรียนอยู่ชั้น ป.4 โรงเรียนวัดบึงสีไฟ ม.4 ต.ท่าหลวง มีพี่น้อง 3 คนพี่สาวเรียนอยู่ชั้น ป.6 น้องชายคนเล็กเรียนอยู่ชั้น ป.3
ครอบครัวของกระผมมีความเป็นอยู่ที่ยากจนมาก ประกอบกับคุณแม่สติไม่สมประกอบ คุณพ่อมีอาชีพรับจ้างทั่วไป วันใดโรงเรียนหยุดกระผมก็จะไปรับจ้างชาวบ้านเฝ้าเล้าเป็ด ได้คืนละ 40 บาท ถ้าวันใดเขาไม่จ้างกระผมก็จะไปรับจ้างแบกข้าวเปลือกขึ้นรถที่ชาวบ้านเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกตั้งแต่เวลา 08.00 น -17.00 น จะได้ค่าแรงงาน 50 บาทเพื่อนำไปจุนเจือครอบครัว ถ้าวันใดไม่มีคนจ้างไปทำงาน เวลากลางคืนก็จะออกไปจับกบ จับเขียด และงู มาเป็นอาหาร บางวันที่ไม่สามารถหาอาหารได้ก็จะไปขออาหารจากหลวงพ่อ บุญเลิศ วัดบึงสีไฟ เพื่อนำไปให้พ่อแม่และพี่น้อง รับประทาน
กระผมทำอย่างนี้ทุกวัน ครอบครัวกระผม ยากจนมาก หมดที่พึ่ง กระผมพึ่งบารมีพระพ่อหลวงของแผ่นดิน เป็นที่พึ่งสุดท้ายของชีวิตและครอบครัวทางด้านการศึกษา และที่อยู่อาศัย กระผมและน้องๆอยากเรียนสูงๆ เมื่อจบแล้วก็จะได้มีงานทำเลี้ยงดูทดแทนพระคุณ พ่อ พระคุณแม่ ตั้งแต่ผมเกิดมาเห็นพ่อแม่สุดแสนลำบากกระผมจะขอพึ่งอาศัยพระพ่อหลวงของแผ่นดิน เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรตลอดชีวิตของกระผม กราบเท้าพระพ่อหลวงของแผ่นดิน"
อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่ยื่นฎีกาไป ทางสำนักราชเลขาธิการสำนักพระราชวังในพระบาทสมเด็จพระได้ตอบหนังสือกลับมายังทาง นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พิจิตร ให้เข้าไปช่วยเหลือเบื้องต้นกับครอบครัว ด.ช. ชาตรี พร้อมตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่เพื่อเตรียมพระราชทานความช่วยเหลือตามที่หนูน้อยยื่นฎีกา นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ได้ทรงพระราชทานให้กับครอบครัวของเด็กชายคนหนึ่ง สร้างความปลาบปลื้มให้กับ ด.ช.ชาตรี และครอบครัวเป็นล้นพ้น
โดย ด.ช.ชาตรี กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าสั้นๆ ว่า "กระผมรู้สึกซึ่งในพระมหาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ท่านทรงมีความเมตตาที่ช่วยเหลือครอบครัว"
ด้าน นางลมัย สังคริทร์ อาจารย์ประจำชั้น โรงเรียนบึงสีไฟ เปิดเผยว่า เด็กชายชาตรีหรือน้องบุตรมีความกตัญญูเป็นอย่างมาก เขารักพี่สาว รักน้อง รักพ่อแม่ รักเพื่อนมากกว่าตัวเองตอนนี้ก็เป็นโรคขาดสารอาหาร เมื่อไปรับจ้างมาได้เงินก็จะซื้อขนมให้น้องและพี่กินก่อน หากเหลือจะได้กิน โดยออกหาเงินจากการออกไปรับจ้างทั่ว ทั้งเลี้ยงเป็ด รับจ้างแบกข้าว ส่วนการเรียนนั้นก็อยู่ในระดับที่ใช้ได้ แต่ไม่ดีมากนัก เนื่องจากต้องเป็นห่วงเรื่องหากิน โดยเวลาทางครูให้การบ้านไป เขาก็บอกว่าไม่มีเวลาทำต้องรีบไปรับจ้างเขาแบกข้าว ทำให้การเรียนไม่ดีเพราะต้องทนหากินเลี้ยงครอบครัวโดยเฉพาะน้อง ๆ