ฉาว คลิปนักข่าวสาวสื่อดังสติหลุด ตบหน้าอาสาสมัครกลางงานประชุม

             นักข่าวสาว CCTV สื่อดังของจีน โมโหหนัก หลังเกิดปมขัดแย้งทางความคิดเห็น ตบหน้าอาสาสมัครกลางงานประชุม ก่อนคลิปถูกนำไปแชร์จนเป็นที่วิจารณ์หนัก

            คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ในโลกโซเชียลมีเดีย ทำให้กลายประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมออนไลน์ในขณะนี้ โดยรายงานเผยว่า นักข่าวสาวรายดังกล่าวชื่อว่า กง หลินหลิน เธออยู่ในอาการไม่พอใจอย่างรุนแรง ในขณะที่มีผู้เข้าร่วมประชุมรายอื่นพยายามจับตัวเธอไว้ ให้สงบสติอารมณ์ลง

            กระทั่งจังหวะหนึ่ง หลินหลินได้ตบเข้าที่ใบหน้าของ อีนอช ลียู ชาวฮ่องกงผู้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยคีล ในอังกฤษ และมาเป็นอาสาสมัครในงานประชุมดังกล่าว โดย ลียู ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น ระบุว่า หลินหลิน ได้ยืนขึ้นแล้วตะโกนออกมาว่า "คุณมันหลอกลวง คุณนั่นแหละเป็นพวกต่อต้านจีน พยายามที่จะแบ่งแยกจีน พวกคุณทั้งหมดเป็นหุ่นเชิดของชาติตะวันตก" ท่ามกลางความแตกตื่นและตกใจของผู้ที่ไปเข้าร่วมงามประชุม

             เมื่อลียู เข้าไปพยายามควบคุมสถานการณ์และบอกให้หลินหลิน ออกไปจากงาน เธอเลยไม่พอใจตบหน้าของเขา 2 ครั้ง ก่อนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเวสต์ มิดแลนด์ส จะเข้ามาควบคุมตัวเธอออกไปจากงานในที่สุด พร้อมทั้งตั้งข้อกล่าวหาก่อความวุ่นวายและทำร้ายร่างกาย ซึ่งรายงานเผยว่า เธอได้รับการปล่อยตัวในวันถัดมา

            อย่างไรก็ดี ทางด้านสำนักข่าว CCTV ได้ออกมาปกป้องพนักงานของตน ระบุว่า หลินหลิน ถูกปิดกั้นและโจมตี ในขณะที่เธอกำลังแสดงความคิดเห็น โดยโฆษกของทาง CCTV กล่าวว่า "ทางผู้จัดงานจะต้องมาขอโทษนักข่าวของเรา และตำรวจสหราชอาณาจักร ก็ควรที่จะปกป้องเธอตามสิทธิความชอบธรรมทางกฎหมาย" เช่นเดียวกับทางสถานทูตจีนประจำกรุงลอนดอน ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นไม่พอใจเช่นเดียวกัน เผยว่าเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ พร้อมเรียกร้องให้มีการออกมาขอโทษ 

            โดยในแถลงการณ์ระบุว่า "ในประเทศที่อวดอ้างว่ามีอิสรเสรีในการพูดแสดงความคิดเห็น มันน่าแปลกใจจริง ๆ ที่นักข่าวจีนถูกกระทำเช่นนี้ เธอถูกโจมตีในงานประชุม ทั้ง ๆ ที่เธอแค่ยกประเด็นคำถามง่าย ๆ ขึ้นมาพร้อมทั้งแสดงความคิดเห็น มันเป็นอะไรที่รับไม่ได้อย่างยิ่ง ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของพรรคอนุรักษนิยมแห่งสหราชอาณาจักร ควรที่จะหยุดการแทรกแซงเรื่องปัญหาภายในของจีน และหยุดก้าวก่ายปมปัญหาขัดแย้งเกี่ยวกับฮ่องกงเสียที และทางผู้จัดงานควรจะต้องออกมาขอโทษนักข่าวจีนคนนี้ด้วย"