ฆ่าตัวตาย ด้วยการฉีดยา พยาบาลสาวประชดแฟนหนุ่ม ป่อเต็กตึ๊ง ขี้หึง ข่าว อาชญากรรม เผยหนุ่ม ป่อเต็กตึ๊ง หึงแฟนพยาบาล รพ.บางปะกอก โกรธที่คนรักเก่าโทรศัพท์มาหา จากนั้นทะเลาะกันอย่างรุนแรง ถึงขั้นตบตี สาวใจเด็ดประชดฉีดยา ฆ่าตัวตาย คาห้องน้ำ
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ร.ต.อ.ยุทธนา นังคลา ร้อยเวร สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุ มีผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายที่โรงพยาบาลบางปะกอก 1 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปยังที่เกิดเหตุโรงพยาบาลตำรวจ พบศพ น.ส.นุสรี เนตรนุช อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 หมู่ 1 ต.ปลาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม พยาบาลโรงพยาบาลบางปะกอก 1 สภาพศพสวมเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงขาสั้น ตามร่างกายมีร่องรอยฟกช้ำตามใบหน้าและลำตัว และที่หลังมือซ้ายมีร่องรอยถูกเข็มฉีดยาฉีดเข้าไป
จากการสอบสวนนายสุวิทย์ ศรีน้อยเมือง อายุ 28 ปี อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แฟนของผู้ตายให้การว่า ตนกับผู้ตายพักอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ไม่ทราบชื่อในซอยประชาอุทิศ 33 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ได้มีปากเสียงกับผู้ตายเนื่องจากแฟนเก่าของผู้ตายโทรศัพท์มาหา ทำให้ตนเกิดความหึงหวงและมีปากเสียงกันรุนแรงยิ่งขึ้น จากนั้นตนพยายามเดินออกไปนอกห้อง แต่ผู้ตายเข้ามาขวางไม่ให้ออก และมีปากเสียงกันเรื่อยมาถึงเวลาประมาณ 23.00 น. ตนจึงลงมือตบตีผู้ตาย จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 03.00 น.ตนก็หลับไป
นายสุวิทย์ ให้การต่อว่า หลังจากตื่นขึ้นมาในเวลาประมาณ 10.00 น. ได้ลุกไปเข้าห้องน้ำ ปรากฏว่า พบผู้ตายนอนสลบอยู่ในห้องน้ำแล้ว โดยบริเวณใกล้กันพบเข็มฉีดยาวางอยู่ 2 เข็ม เข็มหนึ่งถูกใช้ไปแล้ว อีกเข็มมีตัวยาอยู่ภายในหลอดประมาณ 5 ซีซี จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลบางปะกอก 1 แต่แฟนสาวก็ต้องมาเสียชีวิตในที่สุด
จากการตรวจสอบของแพทย์ พบรอยเข็มที่บริเวณข้อพับมือซ้าย ซึ่งคาดว่า ผู้ตายพยายามจะใช้เข็มฉีดยาฉีดยาเข้าไปแต่ฉีดไม่เข้า และร่องรอยเข็มที่บริเวณหลังมือซ้าย เป็นรอยเข็มฉีดยาที่ถูกฉีดเข้าไปแล้ว และจากการตรวจสอบยาที่ฉีดเข้าไปพบว่า ผู้ตายใช้สารโพแทสเซียมฉีดเข้าไปในร่างกายจำนวน 14.3 NEQ/L ซึ่งสารตัวดังกล่าวในร่างกายของมนุษย์จะมีประมาณ 3.5-5.5 NEQ/L แต่หากมีปริมาณที่มากกว่าจำนวนดังกล่าวจะทำให้ร่างกายช็อกและทำให้เสียชีวิตได้
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะฆ่าตัวตายเองโดยใช้เข็มฉีดยาฉีดสารโพแทสเซียมเข้าร่างกายจนเสีย ชีวิต ส่วนประเด็นการฆาตกรรมยังไม่ตัดทิ้ง แต่จากการตรวจสอบภายในห้อง ตำรวจพบอาวุธมีดวางอยู่ที่บริเวณหัวเตียงนอน และหลังตู้เย็น ทำให้สันนิษฐานได้ว่าไม่น่าจะเป็นการฆาตกรรม แต่น่าจะเป็นการฆ่าตัวตายเองมากกว่า เพราะน่าเชื่อว่าผู้ตายนำมีดมาไว้ที่บริเวณที่พบเพื่อจุดประสงค์ฆ่าตัวตาย ดังกล่าวก็อาจเป็นได้
ด้านเพื่อนร่วมงานของผู้ตายให้การว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ขณะที่กำลังเข้าเวรกับผู้ตายที่โรงพยาบาล มีโทรศัพท์เข้ามายังเครื่องผู้ตาย เมื่อรับสายก็ทราบว่าผู้ตายทะเลาะกับผู้ที่โทรศัพท์เข้ามา
จากการสอบสวนนายสุวิทย์ ศรีน้อยเมือง อายุ 28 ปี อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แฟนของผู้ตายให้การว่า ตนกับผู้ตายพักอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ไม่ทราบชื่อในซอยประชาอุทิศ 33 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ได้มีปากเสียงกับผู้ตายเนื่องจากแฟนเก่าของผู้ตายโทรศัพท์มาหา ทำให้ตนเกิดความหึงหวงและมีปากเสียงกันรุนแรงยิ่งขึ้น จากนั้นตนพยายามเดินออกไปนอกห้อง แต่ผู้ตายเข้ามาขวางไม่ให้ออก และมีปากเสียงกันเรื่อยมาถึงเวลาประมาณ 23.00 น. ตนจึงลงมือตบตีผู้ตาย จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 03.00 น.ตนก็หลับไป
นายสุวิทย์ ให้การต่อว่า หลังจากตื่นขึ้นมาในเวลาประมาณ 10.00 น. ได้ลุกไปเข้าห้องน้ำ ปรากฏว่า พบผู้ตายนอนสลบอยู่ในห้องน้ำแล้ว โดยบริเวณใกล้กันพบเข็มฉีดยาวางอยู่ 2 เข็ม เข็มหนึ่งถูกใช้ไปแล้ว อีกเข็มมีตัวยาอยู่ภายในหลอดประมาณ 5 ซีซี จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลบางปะกอก 1 แต่แฟนสาวก็ต้องมาเสียชีวิตในที่สุด
จากการตรวจสอบของแพทย์ พบรอยเข็มที่บริเวณข้อพับมือซ้าย ซึ่งคาดว่า ผู้ตายพยายามจะใช้เข็มฉีดยาฉีดยาเข้าไปแต่ฉีดไม่เข้า และร่องรอยเข็มที่บริเวณหลังมือซ้าย เป็นรอยเข็มฉีดยาที่ถูกฉีดเข้าไปแล้ว และจากการตรวจสอบยาที่ฉีดเข้าไปพบว่า ผู้ตายใช้สารโพแทสเซียมฉีดเข้าไปในร่างกายจำนวน 14.3 NEQ/L ซึ่งสารตัวดังกล่าวในร่างกายของมนุษย์จะมีประมาณ 3.5-5.5 NEQ/L แต่หากมีปริมาณที่มากกว่าจำนวนดังกล่าวจะทำให้ร่างกายช็อกและทำให้เสียชีวิตได้
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะฆ่าตัวตายเองโดยใช้เข็มฉีดยาฉีดสารโพแทสเซียมเข้าร่างกายจนเสีย ชีวิต ส่วนประเด็นการฆาตกรรมยังไม่ตัดทิ้ง แต่จากการตรวจสอบภายในห้อง ตำรวจพบอาวุธมีดวางอยู่ที่บริเวณหัวเตียงนอน และหลังตู้เย็น ทำให้สันนิษฐานได้ว่าไม่น่าจะเป็นการฆาตกรรม แต่น่าจะเป็นการฆ่าตัวตายเองมากกว่า เพราะน่าเชื่อว่าผู้ตายนำมีดมาไว้ที่บริเวณที่พบเพื่อจุดประสงค์ฆ่าตัวตาย ดังกล่าวก็อาจเป็นได้
ด้านเพื่อนร่วมงานของผู้ตายให้การว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ขณะที่กำลังเข้าเวรกับผู้ตายที่โรงพยาบาล มีโทรศัพท์เข้ามายังเครื่องผู้ตาย เมื่อรับสายก็ทราบว่าผู้ตายทะเลาะกับผู้ที่โทรศัพท์เข้ามา
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
