บทความ เกร็ดความรู้ วันนี้มีเรื่องดีๆ มาฝากกันอีกแล้ว เพื่อนๆ ว่ามั้ย ผู้ชายมักแต่งงานช้ากว่าผู้หญิง โดยเขาจะมีเหตุผลเฉพาะตัวต่างๆ นาๆ ที่ไม่ยอม แต่งงาน wedding เอ... แล้วพวกหนุ่มๆ ที่แต่งงานแล้วล่ะ เขามีเหตุผลอะไรถึงตัดสินใจ แต่งงาน wedding เอาล่ะ ถ้าขี้เกียจคิดเราไปอ่าน เกร็ดความรู้ บทความ นี้พร้อมๆ กันดีกว่า
ผู้ชายมักแต่งงานช้ากว่าผู้หญิง เล่นตัวท่านู้นท่านี้ว่างั้นเถอะ แถมยังเปรียบชีวิตแต่งงานเหมือนอยู่ในคุก ชอบเล่าตลกผัวเมียตีกัน ซึ่งผู้หญิงเกลียดนักเชียว
ยังไม่มีใครรู้แน่ว่า อะไรที่ทำให้ผู้ชายตัดสินใจแต่งงาน จากการวิจัยพบว่า เกิดจากแรงจูงใจมากมายหลากหลาย ทั้งมีเหตุผลและไม่มีเหตุผล บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับวัยที่เปลี่ยนไปของชีวิต สรุปว่าสาเหตุทั้งหลายขึ้นอยู่กับตัวเขา นั่นแหละ
หนุ่มละอ่อน
โดยเฉลี่ยผู้ชายจะแต่งงานเมื่ออายุ 25 แต่ก็ยังมีผู้ชายวัย 22 ที่เพิ่งก้าวพ้นรั้วมหาวิทยาลัย และต้องการใครสักคนยืนเคียงข้างเมื่อต้องออกมาเผชิญโลกกว้าง ปัญหาคือผู้ชายวัยนี้มีอารมณ์ความคิดเป็นผู้ใหญ่เพียงพอสำหรับชีวิตแต่งงานหรือไม่ หรือตัดสินใจแต่งงานด้วยความหุนหันเลือดร้อนตามวัยหนุ่ม ถ้าเป็นแบบนี้ชักไม่น่าไว้ใจแล้วละ
หนุ่มน้อยจะรักผู้หญิงที่ยืนเคียงข้าง สนับสนุนให้กำลังใจและแบ่งปันความฝันร่วมกัน เธอคือคนพิเศษที่นำพาเขาให้หลุดพ้นจากคำว่า "มือใหม่" เข้าสู่โลกของคนที่โตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว โชคร้ายที่ผู้หญิงพิเศษคนนี้เข้ามาในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตพอดี เขาจึงไม่เคยปฏิบัติกับเธออย่างเท่าเทียมกันเลย พูดง่ายๆ ก็คือ หนุ่มประเภทนี้จะวางสุดที่รักไว้บนหิ้งบูชาพร้อมกับให้เธอเป็นคนเอนเตอร์เทนเขาไปด้วยในขณะเดียวกัน สรุปว่าเป็นทั้งเมียเป็นทั้งแม่เป็นทั้งคนใช้ ว่างั้นเถอะ กว่าเขาจะเข้มแข็งยืนหยัดตอบแทนฝ่ายหญิงได้บ้าง ชีวิตแต่งงานก็อัปปางเรียบร้อยแล้ว
แรงจูงใจที่ไม่น่าชื่นชมอีกประการของหนุ่มวัยนี้ที่มักเป็นกันคือ แต่งงานทั้งๆ ที่ยังไม่พร้อม (แล้วแต่งทำไมเนี่ย) อาจเป็นด้วยเหตุผลอย่างเช่น เป็นหนุ่มขี้เหงา ไม่นับถือตัวเอง ขี้หึง รู้สึกผิดต่อทั้งตัวเองและผู้อื่น ล้วนแล้วแต่มีส่วนผลักดันให้สละโสดตั้งแต่อายุยังน้อยทั้งสิ้น
ลูกแหง่ของแม่
แรงผลักดันอีกประการที่เกิดเฉพาะในผู้ชายวัยหนุ่มคือ ความต้องการแหกปราการความเป็นเด็ก ขอเป็นไทแก่ตัวไม่ขึ้นกับพ่อแม่อีกต่อไป เขาจะใช้ภรรยาเป็นเครื่องตัดตัวเองออกจากพันธนาการที่เหนี่ยวรั้งอย่างเหนียวแน่นมานาน นักจิตวิทยายืนยันนั่งยันว่า ผู้ชายในวัยต้นยี่สิบยังไม่พร้อมที่จะผูกมัดหรือมีครอบครัว จากสถิติพบว่า คู่แต่งงานที่อายุน้อยส่วนใหญ่มักจบลงด้วยการหย่า
ชีวิตสมบูรณ์พร้อม
ส่วนใหญ่ผู้ชายวัยสามสิบต้นๆ จะมีเวลาเรียนรู้ตัวเอง เสริมสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เขารู้จักเลือกและตระหนักได้ว่าผู้หญิงแบบไหนที่อยากได้มาเป็นแม่ของลูก สมัยหนุ่มๆ อาจมีรสนิยมชอบสาวเปรี้ยวซ่าท้าทาย ครั้นเติบใหญ่มีหน้าที่การงานสูง กลับลงเอยกับสาวหวานนุ่มสวยแบบธรรมชาติแต่ฉลาดเป็นกรด
ผู้ชายวัยนี้ค้นพบแล้วว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนคือ อยู่ในฐานะที่ไม่เดือดร้อน อยู่คนเดียวก็ได้สบายดี เขาจะมองผู้หญิงอย่างลึกซึ้งไม่ผลีผลาม บางรายอาจเจ็บมาแล้วหลายครั้งจนกลายเป็นหวาดกลัวการมีความสัมพันธ์กับใครอีก หลายคนยังต้องการแต่งงานมีลูกสร้างครอบครัวแต่ยังแหยงกลัวๆกล้าๆ ยังไงชอบกล แต่แล้วก็แพ้ใจตัวเอง เพราะผู้ชายยิ่งแก่ตัวก็ยิ่งโหยหาชีวิตครอบครัวมากขึ้น
คนนี้ใช่เลย
แน่นอนว่ายังมีผู้ชายจำนวนหนึ่งที่ไม่เคยวางมือจากการเลือกเฟ้นหาผู้หญิงสุดยอดเพอร์เฟ็คท์ ผู้ชายประเภทนี้มักประสาทหลอนคิดว่า ตัวเองยังไม่เจอผู้หญิงที่มี อ.ย. หรือถูกต้องตรงตามมาตรฐานที่วางเอาไว้เสียที นักจิตวิทยาแจงว่า พวกจิตตกแบบนี้คือ อาการของโรคกลัวการผูกมัดนั่นเอง ไม่มีใครที่เราถูกใจหมดทุกอย่างหรอก ท้ายสุดก็ไม่เหลืออะไรให้เลือก จากที่เป็นฝ่ายส่ายหน้า ก็ต้องพูดว่า มีอะไรมาก็เอาแล้วละ ส่วนอีกพวกดีกว่าหน่อยตรงที่ ถ้าบอกว่าผู้หญิงคนนี้ "ใช่เลย" ก็ใช่จริงๆ ได้ร่วมหอลงโรงเป็นที่เรียบร้อยหวานชื่นทั้งสองฝ่าย
ขอแก้ตัวเป็นครั้งที่สอง
นี่คือผู้ชายที่ล้มเหลวจากการแต่งงานครั้งแรก ครั้งที่สองเขาจึงไม่ตั้งมาตรฐานไว้สูงส่งเกินมนุษย์มากนัก พิจารณาเอาแต่ที่เป็นไปได้อย่างที่มนุษย์มนาเขาเป็นกัน บางรายว่างเว้นจากการแต่งงานอย่างไม่มีกำหนด บางรายก็อาศัยเวลาศึกษาฝ่ายหญิงจนรู้แน่ว่า ชีวิตคู่คงไม่ล้มเหลวเป็นครั้งที่สอง การแต่งงานจึงเกิดขึ้น ผู้ชายที่อายุมากขึ้นจะต้องการความสัมพันธ์ที่ลงตัวและเข้ากันได้มากกว่าความรักโรแมนติค ซึ่งหวานแหววกันได้อย่างมากไม่เกินช่วงสามปีแรก
สิ่งสำคัญคือความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาซึ่งทั้งสองต้องมีทัศนคติและความสนใจในสิ่งต่างๆ คล้ายคลึงกัน ไม่ใช่ความสัมพันธ์ในแบบรักใคร่ หลงใหลหัวปักหัวปำ หน้ามืดอย่างเดียว ความจริงความพร้อมของผู้ชายก็ขึ้นอยู่กับผู้หญิงเหมือนกัน ถ้าฝ่ายหญิงเข้ามาถูกจังหวะ สามารถให้ในสิ่งที่เขาต้องการ เมื่อนั้นชีวิตแต่งงานจะเป็นสิ่งแรกที่เขานึกถึงค่ะ
ยังไม่มีใครรู้แน่ว่า อะไรที่ทำให้ผู้ชายตัดสินใจแต่งงาน จากการวิจัยพบว่า เกิดจากแรงจูงใจมากมายหลากหลาย ทั้งมีเหตุผลและไม่มีเหตุผล บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับวัยที่เปลี่ยนไปของชีวิต สรุปว่าสาเหตุทั้งหลายขึ้นอยู่กับตัวเขา นั่นแหละ
หนุ่มละอ่อน โดยเฉลี่ยผู้ชายจะแต่งงานเมื่ออายุ 25 แต่ก็ยังมีผู้ชายวัย 22 ที่เพิ่งก้าวพ้นรั้วมหาวิทยาลัย และต้องการใครสักคนยืนเคียงข้างเมื่อต้องออกมาเผชิญโลกกว้าง ปัญหาคือผู้ชายวัยนี้มีอารมณ์ความคิดเป็นผู้ใหญ่เพียงพอสำหรับชีวิตแต่งงานหรือไม่ หรือตัดสินใจแต่งงานด้วยความหุนหันเลือดร้อนตามวัยหนุ่ม ถ้าเป็นแบบนี้ชักไม่น่าไว้ใจแล้วละ
หนุ่มน้อยจะรักผู้หญิงที่ยืนเคียงข้าง สนับสนุนให้กำลังใจและแบ่งปันความฝันร่วมกัน เธอคือคนพิเศษที่นำพาเขาให้หลุดพ้นจากคำว่า "มือใหม่" เข้าสู่โลกของคนที่โตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว โชคร้ายที่ผู้หญิงพิเศษคนนี้เข้ามาในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตพอดี เขาจึงไม่เคยปฏิบัติกับเธออย่างเท่าเทียมกันเลย พูดง่ายๆ ก็คือ หนุ่มประเภทนี้จะวางสุดที่รักไว้บนหิ้งบูชาพร้อมกับให้เธอเป็นคนเอนเตอร์เทนเขาไปด้วยในขณะเดียวกัน สรุปว่าเป็นทั้งเมียเป็นทั้งแม่เป็นทั้งคนใช้ ว่างั้นเถอะ กว่าเขาจะเข้มแข็งยืนหยัดตอบแทนฝ่ายหญิงได้บ้าง ชีวิตแต่งงานก็อัปปางเรียบร้อยแล้ว
แรงจูงใจที่ไม่น่าชื่นชมอีกประการของหนุ่มวัยนี้ที่มักเป็นกันคือ แต่งงานทั้งๆ ที่ยังไม่พร้อม (แล้วแต่งทำไมเนี่ย) อาจเป็นด้วยเหตุผลอย่างเช่น เป็นหนุ่มขี้เหงา ไม่นับถือตัวเอง ขี้หึง รู้สึกผิดต่อทั้งตัวเองและผู้อื่น ล้วนแล้วแต่มีส่วนผลักดันให้สละโสดตั้งแต่อายุยังน้อยทั้งสิ้น
ลูกแหง่ของแม่ แรงผลักดันอีกประการที่เกิดเฉพาะในผู้ชายวัยหนุ่มคือ ความต้องการแหกปราการความเป็นเด็ก ขอเป็นไทแก่ตัวไม่ขึ้นกับพ่อแม่อีกต่อไป เขาจะใช้ภรรยาเป็นเครื่องตัดตัวเองออกจากพันธนาการที่เหนี่ยวรั้งอย่างเหนียวแน่นมานาน นักจิตวิทยายืนยันนั่งยันว่า ผู้ชายในวัยต้นยี่สิบยังไม่พร้อมที่จะผูกมัดหรือมีครอบครัว จากสถิติพบว่า คู่แต่งงานที่อายุน้อยส่วนใหญ่มักจบลงด้วยการหย่า
ชีวิตสมบูรณ์พร้อม ส่วนใหญ่ผู้ชายวัยสามสิบต้นๆ จะมีเวลาเรียนรู้ตัวเอง เสริมสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เขารู้จักเลือกและตระหนักได้ว่าผู้หญิงแบบไหนที่อยากได้มาเป็นแม่ของลูก สมัยหนุ่มๆ อาจมีรสนิยมชอบสาวเปรี้ยวซ่าท้าทาย ครั้นเติบใหญ่มีหน้าที่การงานสูง กลับลงเอยกับสาวหวานนุ่มสวยแบบธรรมชาติแต่ฉลาดเป็นกรด
ผู้ชายวัยนี้ค้นพบแล้วว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนคือ อยู่ในฐานะที่ไม่เดือดร้อน อยู่คนเดียวก็ได้สบายดี เขาจะมองผู้หญิงอย่างลึกซึ้งไม่ผลีผลาม บางรายอาจเจ็บมาแล้วหลายครั้งจนกลายเป็นหวาดกลัวการมีความสัมพันธ์กับใครอีก หลายคนยังต้องการแต่งงานมีลูกสร้างครอบครัวแต่ยังแหยงกลัวๆกล้าๆ ยังไงชอบกล แต่แล้วก็แพ้ใจตัวเอง เพราะผู้ชายยิ่งแก่ตัวก็ยิ่งโหยหาชีวิตครอบครัวมากขึ้น
คนนี้ใช่เลย แน่นอนว่ายังมีผู้ชายจำนวนหนึ่งที่ไม่เคยวางมือจากการเลือกเฟ้นหาผู้หญิงสุดยอดเพอร์เฟ็คท์ ผู้ชายประเภทนี้มักประสาทหลอนคิดว่า ตัวเองยังไม่เจอผู้หญิงที่มี อ.ย. หรือถูกต้องตรงตามมาตรฐานที่วางเอาไว้เสียที นักจิตวิทยาแจงว่า พวกจิตตกแบบนี้คือ อาการของโรคกลัวการผูกมัดนั่นเอง ไม่มีใครที่เราถูกใจหมดทุกอย่างหรอก ท้ายสุดก็ไม่เหลืออะไรให้เลือก จากที่เป็นฝ่ายส่ายหน้า ก็ต้องพูดว่า มีอะไรมาก็เอาแล้วละ ส่วนอีกพวกดีกว่าหน่อยตรงที่ ถ้าบอกว่าผู้หญิงคนนี้ "ใช่เลย" ก็ใช่จริงๆ ได้ร่วมหอลงโรงเป็นที่เรียบร้อยหวานชื่นทั้งสองฝ่าย
ขอแก้ตัวเป็นครั้งที่สอง นี่คือผู้ชายที่ล้มเหลวจากการแต่งงานครั้งแรก ครั้งที่สองเขาจึงไม่ตั้งมาตรฐานไว้สูงส่งเกินมนุษย์มากนัก พิจารณาเอาแต่ที่เป็นไปได้อย่างที่มนุษย์มนาเขาเป็นกัน บางรายว่างเว้นจากการแต่งงานอย่างไม่มีกำหนด บางรายก็อาศัยเวลาศึกษาฝ่ายหญิงจนรู้แน่ว่า ชีวิตคู่คงไม่ล้มเหลวเป็นครั้งที่สอง การแต่งงานจึงเกิดขึ้น ผู้ชายที่อายุมากขึ้นจะต้องการความสัมพันธ์ที่ลงตัวและเข้ากันได้มากกว่าความรักโรแมนติค ซึ่งหวานแหววกันได้อย่างมากไม่เกินช่วงสามปีแรก
สิ่งสำคัญคือความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาซึ่งทั้งสองต้องมีทัศนคติและความสนใจในสิ่งต่างๆ คล้ายคลึงกัน ไม่ใช่ความสัมพันธ์ในแบบรักใคร่ หลงใหลหัวปักหัวปำ หน้ามืดอย่างเดียว ความจริงความพร้อมของผู้ชายก็ขึ้นอยู่กับผู้หญิงเหมือนกัน ถ้าฝ่ายหญิงเข้ามาถูกจังหวะ สามารถให้ในสิ่งที่เขาต้องการ เมื่อนั้นชีวิตแต่งงานจะเป็นสิ่งแรกที่เขานึกถึงค่ะ
