เปิดเรื่องราวสุดเหลือเชื่อ อาจารย์มหาวิทยาลัยในสวีเดน จ้างทหารรับจ้างบุกไปช่วยเหลือลูกศิษย์ ที่เป็นนักศึกษาปริญญาเอก และครอบครัว ที่หลบกลุ่มไอเอสอยู่ในอิรัก เผยเป็นภารกิจสุดท้าทาย ที่จบลงด้วยความสำเร็จ
ย้อนกลับไปในปี 2557 ชาร์ลอตตา เทอร์เนอร์ ศาสตราจารย์ประจำสาขาวิชาเคมีวิเคราะห์ มหาวิทยาลัยลุนด์ ในประเทศสวีเดน ได้รับข้อความจาก ฟิราส จูมาห์ ลูกศิษย์ของเธอ ระบุว่าเขาไม่สามารถส่งวิทยานิพนธ์ได้ทันเวลา และคงไม่กลับมาเรียนในเร็ว ๆ นี้ ชาร์ลอตตารู้สึกประหลาดใจมาก และรีบถามเขาไปว่ามันเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่เธอได้รับรู้มันเป็นอะไรที่เธอไม่คาดคิด และแทบจะไม่เชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริง เพราะชีวิตของฟิรัสและครอบครัวที่อิรักกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างมาก อีกทั้งยังอาจถูกกลุ่มรัฐอิสลามหรือกลุ่มไอเอสฆ่าทิ้งได้ทุกเมื่อ เธอจึงตัดสินใจช่วยเหลือเขา และมันเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเธอ
รายงานจากเว็บไซต์สปุตนิกนิวส์ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 ระบุว่า เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ฟิรัสเป็นชาวอิรักเชื้อสายยาซิดี ที่เดินทางไปศึกษาปริญญาเอกอยู่ที่มหาวิทยาลัยลุนด์ และกำลังค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อทำวิทยานิพนธ์ส่งอาจารย์ ในช่วงเวลาที่กำลังเคร่งเครียดอยู่นั้น ภรรยาได้ติดต่อมาจากบ้านเกิด เล่าข่าวที่เลวร้ายมากให้ฟัง โดยกลุ่มรัฐอิสลามหรือกลุ่มไอเอสได้บุกเข้ามายังหมู่บ้าน ฆ่าผู้ชายทุกคนทิ้งและจับตัวผู้หญิงไปเป็นทาส เธอและลูกได้หนีไปหลบซ่อนตัว และไม่รู้ว่าจะแอบอยู่แบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความตกตะลึงแก่ฟิรัสเป็นอย่างยิ่ง เขาโกรธแค้นมากที่โลกใบนี้ต้องพบเจอกับกลุ่มก่อการร้ายเลวร้ายแบบนั้น เขาละทิ้งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องเรียน แล้วรีบเดินทางกลับไปยังอิรักเพื่อช่วยเหลือลูกเมียของเขา ฟิรัสได้ส่งข้อความไปหาอาจารย์ว่าเขาคงไม่ทำวิทยานิพนธ์ส่งเธออีกแล้ว และเล่าว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ศาสตราจารย์ชาร์ลอตตารู้สึกกังวลอย่างยิ่ง และตัดสินใจว่าตัวเองจะต้องทำอะไรสักอย่าง เธอรีบไปปรึกษากับ แพร์ กุสตาฟสัน หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยในขณะนั้น และปฏิบัติการระห่ำข้ามโลกก็เริ่มต้นขึ้น
แพร์ได้เป็นธุระจัดการว่าจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยให้เข้าไปช่วยเหลือฟิรัสและครอบครัวในอิรัก ไม่กี่วันหลังจากนั้น รถบรรทุกทหารรับจ้างผู้เชี่ยวชาญ 4 คน พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ครบมือ ได้บุกเข้าไปในอิรัก และมุ่งตรงไปยังโรงงานซักฟอกร้างแห่งหนึ่งที่ฟิรัส ภรรยา และลูกเล็ก 2 คน หลบซ่อนอยู่ พวกเขารีบเข้ามาขึ้นรถ และเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติเอร์บิล ในภูมิภาคเคอร์ดิสถาน ทางตอนเหนือของอิรัก โดยมีกลุ่มทหารคอยอารักขาความปลอดภัยให้
ภารกิจระทึกในครั้งนั้นจบลงด้วยความสำเร็จ ฟิรัส ภรรยา และลูก ๆ ทั้งสอง รอดปลอดภัยจากเงื้อมมือของกลุ่มไอเอส คนรู้จักของฟิรัสต่างก็คิดว่าเขาคงเป็นเอเจนต์ลับ หรือไม่ก็อะไรทำนองนั้น เพราะการที่ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยในสวีเดนยอมเสี่ยงส่งกองทหารมาช่วยนักศึกษาปริญญาเอกธรรมดา ๆ คนหนึ่ง มันเป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อได้ลง
แต่มันก็เป็นเรื่องจริง และฟิรัสก็ไม่ใช่คนสำคัญของรัฐบาล หรือเจ้าหน้าที่สายลับอะไรมาจากไหน ทั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในภารกิจครั้งนั้น และทุกวันนี้ ฟิรัสก็สามารถใช้หนี้กลับคืนได้หมดแล้ว
ปัจจุบันฟิรัสและครอบครัวอาศัยอยู่ที่เมืองมัลเมอ หรือมัลโม ทางตอนใต้ของสวีเดน และใช้ชีวิตอย่างปกติสุข ไม่ต้องหวาดกลัวอะไรอีก เชื่อว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น จะเป็นประสบการณ์สำคัญที่สุดในชีวิต ที่ทุกคนคงไม่มีวันลืม และคงจะเล่าให้ลูกหลานได้ฟังต่อไปได้อีกนาน
ภาพจาก Owen_Holdaway / Shutterstock.com