หัวหน้าพรรค "ประชัย" แจงคดีที่ศาลตัดสินไม่ใช่ความผิดฐานปั่นหุ้น ยืนยันรับตำแหน่ง ส.ส.ได้ โค้งสุดท้ายพร้อมเดินหน้าสู้ศึกเต็มที่ ผู้สมัครอย่าหวั่นไหวข่าวลือ-ข่าวลวง เดินหน้าหาเสียงต่อไป
วันนี้ (17 ธ.ค.) นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย เปิดแถลงข่าวชี้แจงดคีหุ้นบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ที่สำนักงานพรรคมัชฌิมาธิปไตย อาคารทีพีไอ โดยมีนายอัมรินทร์ คอมันตร์ รองหัวหน้าพรรค และนายณรงค์ พิริยะเอนก โฆษกพรรค ร่วมในการแถลงข่าวด้วย
นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย แถลงว่าคดีที่ศาลอาญาพิพากษา วันที่ 3 ที่ผ่านมา ไม่ใช่ความผิดฐานปั่นหุ้นในความหมายที่เข้าใจ ส่วนกรณีที่วิจารณ์ว่าไม่สามารถรับตำแหน่ง ส.ส. ได้นั้นทางพรรคได้รับคำยืนยันจาก น.ต. ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตประธาน สสร. ว่าสามารถเข้ารับตำแหน่งได้ ขณะที่โค้งสุดท้ายพร้อมเดินหน้าหาเสียงเต็มที่
นายประชัย กล่าวว่า กรณีปั่นหุ้น ตนไม่ได้เข้าไปซื้อหรือขายหุ้น ทีพีไอ โพลีน เพื่อทำให้ราคาสูงขึ้น กรณีนี้เป็นเรื่องที่ทีพีไอ โพลีน ต้องเพิ่มทุนเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ และเงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้น ทีพีไอ โพลีน ได้นำไปชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในแผนทั้งหมด โดยไม่มีผู้ใดได้รับผลประโยชน์ ในขณะที่สามารถรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือ ส.ส.ได้เพราะไม่ใช่กรณีที่รัฐมนตรีถูกพิพากษาอาญามาตรา 18 (3) ซึ่งต้องหลุดพ้นจากตำแหน่งทันที
สำหรับโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งขอให้ประชาชน เลือกพรรคมัชฌิมาธิปไตย ถึงแม้ว่าพรรคมัชฌิมาธิปไตยจะเป็นพรรคใหม่แต่ตนก็มีประสบการณ์มานานถึง 40 ปี ซึ่งสามารถแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจที่สร้างโดยรัฐบาลชุดเก่าได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาคอรัปชั่นในการบริหารราชการแผ่นดินจนทำให้ประชากรยากจน ตกงาน เกิดปัญหาอาชญากรรม และการทำมาหากินของคนไทยถูกยึดครองจากคนต่างชาติ
พรรคมัชฌิมาธิปไตยจะแก้ปัญหาความยากจนของประชาชนโดยสร้างรัฐสวัสดิการ จากนโยบาย 42 ข้อ เช่น ให้เรียนฟรี ,เพิ่มเงินเดือนข้าราชการครู 5,000 บาท, สร้างรถไฟฟ้า 10 สาย ค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย, รักษาพยาบาลฟรี,ให้เงินดูแลผู้สูงอายุ เดือนละ 1,500 และ พักหนี้ 10 ปี ลดภาษี 20 % เป็นต้น พรรคมัชฌิมาธิปไตยเป็นพรรคเดียวที่จะแก้กฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ปัญหาโชว์ห่วย จนกระทั้งจะไม่แปรรูปรัฐวิสาหกิจ จัดตั้งธนาคารเสรี เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ไม่เอามหาวิทยาลัยออกนอกระบบ เป็นต้น
