แม่เสี่ยกำมะลอสุดอาย ชี้ก่อเรื่องตั้งแต่วัยรุ่น จนตอนนี้ยังไม่รับสาย คาดกลัวถูกด่า

 

              แม่เสี่ยกำมะลอสุดอับอาย ชี้ก่อวีรกรรมตั้งแต่วัยรุ่น ขโมยเครื่องเพชรแม่ไปขาย ทำให้โกรธถึงขั้นใช้ปืนจ่อ รับตอนนี้ยังติดต่อ เสี่ยท๊อป ไม่ได้ ไม่ยอมรับสาย คาดกลัวถูกแม่ด่า


               จากกรณีที่โลกออนไลน์ตีแผ่พฤติกรรมของ ท็อป เสี่ยกำมะลอ หลอกผู้หญิงแต่งงาน แต่กลับทิ้งให้ใช้หนี 3.5 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่าเคยไปก่อเหตุลวงโลกจำนวนมาก สร้างภาพว่าเป็นไฮโซ นักธุรกิจ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือนั้น

               ล่าสุด (5 ตุลาคม 2562) นางญาณี รักติปกรณ์ อายุ 72 ปี แม่ของเสี่ยท็อป ก็ได้ออกมาเปิดใจผ่านเดลินิวส์ออนไลน์ยอมรับว่ารู้สึกอับอายเพื่อนฝูง กลัวสังคมจะเข้าใจว่าเลี้ยงดูไม่ดี และเสียใจเมื่อได้ทราบข่าวจากสื่อ โดยตนจะขอพูดความจริงโดยไม่ปรักปรำลูกชาย และจะไม่ไปออกสื่อใด ๆ อีกเพราะอาย

               นางญาณี เผยว่า ท็อป เรียนจบระดับอุดมศึกษาชื่อดังย่านคลองประปา ก่อนหน้านี้ใช้นามสกุลเดียวกัน แต่ต่อมาเขาไปสร้างเรื่องไม่ดีไว้มากจึงห้ามไม่ให้ใช้นามสกุลเดียวกัน ท๊อปจึงเปลี่ยนไปตั้งชื่อและนามสกุลใหม่

เสี่ยกำมะลอหลอกสาวแต่งงาน
               สำหรับวีรกรรมของท๊อป พบว่าก่อเรื่องไว้หลายอย่างตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ถึงขั้นเคยแอบนำเครื่องเพชรส่วนตัวของแม่ มูลค่ากว่า 4 แสนบาท ไปจำนำ เพื่อพาสาวไปเที่ยวญี่ปุ่น เดือดร้อนตนต้องไปไถ่ถอนคืน ทำให้ตนโกรธจัดถึงขั้นใช้อาวุธปืนจ่อใส่ แถมท๊อปยังเคยก่อคดีอีกหลายครั้ง จนแม่ต้องนำโฉนดที่ดินไปประกันตัว

               เมื่อสอบถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ แม่อายเขานะลูก แต่ท๊อปก็ไม่ฟัง ระยะหลัง ๆ ได้แยกตัวไปอยู่กับครอบครัว แต่งงานมาแล้ว 2 ครั้ง มีลูกกับภรรยาคนแรก 2 คน ส่วนการแต่งงานที่ตกเป็นข่าวล่าสุด เป็นการแต่งงานครั้งที่ 3

               ส่วนที่มีรายงานว่าท๊อปทำอาชีพขายเห็ดนั้น แท้จริงแล้วเป็นแค่การช่วยภรรยาขายเห็ดชุบแป้งทอด ที่ตลาดใน จ.ปทุมธานี ทั้งนี้ หลังมีข่าวฉาวก็ได้มีคนโทรศัพท์มาสอบถามเรื่องราวกันมาก แต่เมื่อตนโทรศัพท์ไปถามท๊อป เขาก็ไม่ยอมรับสาย

               นางญาณี ยอมรับว่าหลังจากมีข่าว หัวอกผู้หญิงก็รู้สึกเห็นใจเจ้าสาวที่เป็นผู้เสียหายเช่นกัน แต่จนตอนนี้ตนก็ยังไม่สามารถติดต่อลูกชายได้ คาดว่าเขาคงกลัวถูกแม่ด่าว่า

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

 


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แม่เสี่ยกำมะลอสุดอาย ชี้ก่อเรื่องตั้งแต่วัยรุ่น จนตอนนี้ยังไม่รับสาย คาดกลัวถูกด่า โพสต์เมื่อ 5 ตุลาคม 2562 เวลา 14:35:34 25,623 อ่าน
TOP
x close