x close

ต่างพยายามยื้อ ความสัมพันธ์ แพร-อู๋ เริ่มร่อแร่

อู๋ แพร


          ตั้งแต่ปีที่แล้วจนข้ามมาถึงปีนี้ คู่รักคนบันเทิงตบเท้าเลิกราแยกบ้านกันไปก็หลายคู่ ส่วนคู่ที่ยังไม่ฟันธงเป็นทางการ แต่จากท่าทีกิริยาและบทสัมภาษณ์เหมือนบอกเป็นนัยๆ ว่าความรักกำลังมีปัญหา อาจมีสิทธิ์เลิกกันเป็นคู่ต่อไปคือ กับ "บิ๊ก" ศรุต วิจิตรานนท์"หนิง" ภาราดา พัฒนาหิรัญ

          เช่นเดียวกับคู่ของ "แพร" พรรัมภา สุขได้พึ่ง กับ "อู๋" นวพล ภูวดล ที่ผ่านมาก็เคยมีข่าวว่าเลิกรากัน แต่สุดท้ายก็เป็นแค่ข่าวลือ แต่ตอนนี้ข่าวลืออาจเป็นจริงขึ้นมา เมื่อความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มร่อแร่เต็มที่ เพียงแต่ต่างพยายามยื้อเอาไว้ จะเป็นเพราะอาถรรพณ์เลข 7 หรือเกิดจากความไม่เข้าใจกัน หรือพฤติกรรมที่ปฏิบัติต่อกันเปลี่ยนแปลงไป จะด้วยสาเหตุอะไร วันนี้เราขอจับเข่าพูดคุยกับแพรและอู๋อย่างเปิดอก...

          แพร : จริงๆ แล้วที่ผ่านมาเราก็ทะเลาะกันมาตลอด แต่ปีนี้อาจแบบเขาเรียกว่าอะไร คือคุยกันแล้วไม่ค่อยเข้าหูกัน ซึ่งไม่ได้ใหญ่โตแต่เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่แพรมานั่งวิเคราะห์คงเป็นเพราะความอดทนหรือการให้โอกาสมันน้อยลงมั้ง คือที่ผ่านมาเราก็ให้โอกาส แต่พอถึงวันนี้ 7 ปีมันก็นานนะ และเป็นเรื่องเดิมๆ ทำให้ความอดทนของการให้โอกาสมันเลยแบบว่าน้อย เป็นจังหวะที่มันหมดพอดีหรือเปล่า จะว่าเกี่ยวกับอาถรรพณ์เลข 7 มั้ย แพรก็ไม่รู้ แต่เป็นคนไม่เชื่อนะ แต่ไม่รู้เป็นอะไร ปกติเราก็ฟังกันมากขึ้น แต่ตอนนี้ทำไมพูดอะไรไม่ค่อยเข้าหูกันเลย มันคงลงล็อกพอดี ความอดทนเลยหมด ปรี๊ดแตก มีปากเสียงกันเยอะจริงๆ แพรว่าน่ากลัวมากเลย

  เรื่องเดิมๆ ที่ทะเลาะกันเรื่องอะไร

          แพร : เรื่องการเอาใจใส่ การดูแล เรื่องการเข้าใจกัน อย่างที่บอกว่าเราให้โอกาสมาเยอะแล้ว แต่ก็เป็นเหมือนเดิม เราก็เลยรู้สึก เฮ้ย...ทำไมไม่เปลี่ยนสักที ให้โอกาสมาสองสามปีแล้ว หรือเพราะเราคบกันมานานแล้วคงเป็นเพื่อนกันมากเกินไป ก็เลยกล้าพูดกล้าทำมากขึ้น การแคร์ความรู้สึกกันอาจจะเป็นเรื่องหลังๆ รองลงมา ประมาณว่าแคร์คนรอบข้างแคร์เพื่อนมากกว่าไง ทำไมกับเพื่อนเขาได้ แต่กับเราทำไมทำไม่ได้ เหมือนกับว่าการเอาใจใส่น้อยลงเพราะสนิทสนมกันมากขึ้น ก็เลยแคร์กันน้อยลง ไปแคร์เพื่อนมากกว่า เรามาทีหลังก็เลยน้อยใจ ทำไมเรามาทีหลัง มันเรื่องหยุมหยิม

  ที่ผ่านมาตอนคบกันใหม่ๆ อู๋เคยเป็นมาก่อนหรือเปล่า

          แพร : คบกันมาเขาก็เป็น แต่เราให้โอกาสเขาแก้ตัวไง เขาก็ขอโอกาสจะปรับปรุงตัว คือเราก็ไม่ได้เรียกร้องมากเกินไปนะ เราไม่ได้ขอเป็นที่หนึ่ง แต่ขอแค่เขาแคร์เราเท่ากับเพื่อนพอแล้ว อย่างวันปีใหม่เขาส่งเมสเสจให้ทุกคนแต่ไม่ส่งให้เรา ซึ่งนี่มันเป็นเรื่องเล็ก แต่มันมีมากกว่านี้ เราก็ทำไม แล้วเราเป็นคนบ้าความรักมากและคบเขาเป็นแฟนคนแรกด้วยก็เลยอยากให้เต็มที่ ไม่งั้นไม่ทนมา 7 ปีหรอก ไปนานแล้ว แต่นี่คบมา 7 ปี  มันเยอะมากเลยนะ

  แพรเคยคุยกับพี่อู๋บ้างไหม

          แพร : คุยกับพี่อู๋แล้ว ซึ่งเขารู้ตัวหมด เขาน่ารักตรงที่เขายอมรับไง เขาอาจจะเปลี่ยนได้นะ แต่เปลี่ยนช้าหน่อย แล้วแพรเป็นคนหายโกรธเร็วมาก ทำตลกใส่ก็หายแล้ว ซึ่งเป็นวิธีแก้ที่ผิด เพราะมันไม่เคลียร์เลย เหมือนสะสม ตอนนี้เลยปรี๊ดเลย ก็พยายามหาทางออกยังไงดี และให้เพื่อนช่วย เพราะเพื่อนในกลุ่มก็ไม่อยากให้เลิกกันหรอกนะ เพื่อนก็นัดมาประชุมกัน คุยกัน หาวิธีที่ดีที่สุดแก้ปัญหาให้ คือเราทะเลาะกันก็ต้องแก้กันเองใช่ไหม เพื่อนก็เรียกพี่เขามาเตือนว่า ทำแบบนี้ไม่ถูกนะ พี่เขาก็โอเค. และมีการเข้าประชุมด้วยนะ สองอาทิตย์ทีเรียกมาคุยกัน ทำการประเมินผลเลยนะว่าสองอาทิตย์ผ่านไปพี่เขามีอะไรดีขึ้นไหม ซึ่งบางทีคนอาจมองเป็นเรื่องตลก แต่เรามองเป็นเรื่องซีเรียส ต้องขนาดนี้เลยหรือ

          คือเราพยายามหาทางออกให้ดีที่สุด เพราะไม่อยากให้มันจบลงไม่ดี แต่เราก็ให้โอกาสมาสองสามปีแล้ว ก็ให้มาเรื่อยๆ แต่พอมันเยอะมากเราเหมือนท้อ นึกออกไหม แพรเป็นคนที่มองอะไรเป็นกลาง และเข้าใจมุมมองของผู้ชายมากๆ และบางเรื่องเราก็ไม่เอาอารมณ์ตัวเองมาตัดสินด้วยแต่ให้เพื่อนช่วยตัดสิน ซึ่งบางทีเราไม่ได้มองว่าเราถูก แต่แพรก็เคยมานั่งวิเคราะห์เหมือนกันนะ  หรือว่าเราทำเยอะเกินไปหรือเปล่า เราเป็นคนที่ชอบดูแลคนมาก และใส่ใจคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือแฟน ซึ่งเป็นเพราะเราหรือเปล่าที่เอาใจดูแลเขามากไปก็เลยได้ใจ แต่จะให้เราเปลี่ยนมาใส่ใจทำให้เขาน้อยลงก็ไม่ได้

          แล้วตอนนี้เราโตขึ้น ก็มองอะไรไกลขึ้น มองระยะยาว จะคบใครถึงขั้นอยู่ด้วยกันต้องมองหลายอย่าง เพราะคบแล้วต้องมีความสุข ต้องเข้าใจกันนะ เรามองไปไกลขนาดนั้น แต่พอเรายิ่งมองไกลขึ้น อะไรหลายอย่างก็มากขึ้น

  แบบนี้ต่อไปอาจมีโอกาสเลิกกันได้สินะ

          แพร : ตอนนี้ยังนะ แต่ในระยะยาวไม่รู้ ถ้ายังหาตรงกลางให้กันและกันไม่เจอ ก็เป็นเพื่อนกัน แต่ตอนนี้แพรยังตอบอะไรไม่ได้ ตอนนี้เราก็สู้อยู่และให้โอกาสเขาด้วย พยายามช่วยกันและไม่โกรธ พอเขาทำผิดมาก็พยายามเคลียร์

  เหมือนต่างคนต่างพยายามยื้อ

          แพร : ใช่ค่ะ เพราะจุดประสงค์เราไม่อยากเลิกกัน  เลยหาทางออกที่ดีสุด ซึ่งพี่เขาก็รู้ตัวและยอมรับว่าเป็นยังไงก็พยายาม แต่การปรับตัวมันยากมากเพราะการเลี้ยงดูที่ไม่เหมือนกัน

  แต่ยิ่งยื้อจะทำให้ยิ่งเหนื่อยนะ

          แพร : ยอมเหนื่อยเพราะเราไม่อยากเลิก แต่ถ้ายื้อต่อไปแล้วมันไม่ได้ เราก็เป็นเพื่อนกันได้ และไม่เกลียดกัน เพราะรู้จักกัมานาน

  แพรเคยคิดเผื่อใจไว้ผิดหวังบ้างไหม  ถ้าเกิดยื้อต่อไปไม่ไหวต้องเลิกกันจริงๆ

          แพร : ก็ต้องเสียดายเวลาเป็นธรรมดา เพราะคบกันมา 7 ปี แล้วแพรคงทำใจไม่ได้ เพราะเขาเป็นแฟนคนแรก เป็นรักครั้งแรกด้วย แต่ถามว่าแพรเผื่อใจไหม ไม่เลย  ทำไม่ได้ แพรขอแค่เอาใจดูแลเราก็พอ และไม่ต้องมากมายเท่าเพื่อนเขาก็พอ ที่ผ่านมาเราทะเลาะกันบ่อย แต่ไม่มีเลิกกัน ตอนนี้ก็เลยพยายามปรับ โดยที่เราก็มีความหวังอยากให้เขาเปลี่ยนได้

  เคยลองแยกกันหรือเว้นช่วงระยะห่างสักพักไหม

          แพร : เคยลองทำ  เคยแยกกันสักพักขอระยะห่าง เคยทำ แต่ได้แค่ 5 วัน มันก็ไม่ได้ เพราะเรายังไม่ได้เลิกกัน แล้วแพรเคยถามพี่อู๋ก็ไม่เอา เขาบอกถ้างั้นก็เลิกกันไปเลยดีกว่า แพรก็เลยไม่อยากคิดอะไรมาก ก็พยายามสู้กันไป ส่วนอนาคตจะเป็นยังไงไม่รู้ แต่ตอนนี้ต่างทำให้ดีสุด พยายามช่วยกัน

          นี่คือความรู้สึกของแพรที่พูดออกมาเหมือนระบายความอัดอั้น โดยที่แฟนหนุ่ม "อู๋" นวพล ภูวดล จะรู้สึกหรือรับรู้หรือเปล่า ต้องมาฟังจากเขา...

          อู๋ : ตอนนี้ก็มีงอนกันมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ดีเราจะได้รู้อะไรว่าใครเป็นยังไง ก็ต้องปรับกันไป สำหรับแพรเขาโอเค.แล้วล่ะ แต่ผมยังมีความเป็นตัวของตัวเองมากเกินไป บางทีละเลยเขาไปบ้างก็ค่อยๆ ปรับกันไป คือบางทีผมมองเป็นเรื่องเล็กโดยไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้หญิง และพอมันสะสมบ่อยเข้าๆ เพราะเราเอาแต่ใจตัวเองมากเกินไปหรือเปล่า ก็ต้องค่อยๆ ปรับไป อย่างผมเป็นผม ไม่ค่อยหวาน ไม่ค่อยโรแมนติก ไม่ค่อยทำเซอร์ไพรส์ แต่หลังๆ มีทำบ้าง  อย่างวันเกิดวันปีใหม่ก็ทำให้ตลอด

  ที่อู๋ละเลยเพราะมันเกิดจากความเป็นเพื่อนกันมาก่อนหรือเปล่า

          อู๋ : ไม่เกี่ยวครับ เริ่มจากการเป็นเพื่อนหรือเปล่าก็ไม่ขนาดนั้น แต่เราเจอกันบ่อยมั้งครับ เลยมองเป็นเรื่องปกติไป ไม่นึกว่ามันจะสำคัญสำหรับเขา เราละเลยมองเป็นเรื่องเล็ก อย่างเรื่องดูหนัง กินข้าว หรือเวลาเขาป่วย เราอาจจะไม่ค่อยเทคแคร์เขา เราเอาตัวเองเป็นหลักเวลาไปไหน แต่ตอนนี้ไม่เป็นแล้ว คือผมค่อนข้างเรื่องมากกับร้านที่ไปกิน ถึงอร่อยแต่คนเยอะก็ไม่อยากไป เพราะคนเยอะใครจะไปกินลง ผมไม่ชอบ แต่บางทีเราต้องมาเจอคนละครึ่งทาง ตอนนี้ผมไม่เป็นแล้ว บางทีผมไม่อยากไปแต่ก็ต้องไปเพื่อเขา หรือเราไม่อยากกินข้าวร้านนี้ก็ต้องกินเพื่อเขา

  แพรน้อยใจที่อู๋เห็นเพื่อนสำคัญกว่า

          อู๋ : ผมไม่ถึงขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าเพื่อนต้องมาก่อน ผมก็เคยคุยกับเพื่อนว่าแฟนต้องมาที่หนึ่ง เราต้องแคร์แฟนมากกว่า ตอนนี้ผมก็พยายามปรับ เอาใจใส่เขามากขึ้น แค่นั้นเอง ค่อยๆ ปรับไป แต่จะให้เปลี่ยนคงไม่ได้เพราะเราเป็นแบบนี้มา 25 ปี

          คือผมก็ยอมรับนะ รู้ว่าผิด แต่พอนึกได้ เฮ้ย...เราพูดอะไรออกไป ทำอะไรไป ทำไมไม่ตามใจเขา ทำไมพูดแรงๆ พูดอะไรไม่ดีกับเขา ซึ่งเขาก็อดทนเพื่อผม ผมซึ้งน้ำใจเขาตรงนี้ ซึ่งต่อไปนี้ผมจะไม่ทำอย่างนั้นแล้ว เขาเป็นคนที่ไม่เรียกร้องอะไรเลยจนผมเคยตัว เขาสปอยล์เรามาก เทคแคร์เรามากจนเรานิสัยเสียเคยตัว แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วไง เราทำอะไรนึกถึงเขาก่อน ตอนนี้ก็คุยกันทุกวัน คอยเตือนกันตลอด ผมบอกให้เขาเตือนผมบ่อยๆ แต่ผมก็ต้องปรับเยอะ คงต้องค่อยๆ เปลี่ยน และระวังให้มากกว่าเดิม เพราะรู้ว่าเขาเหนื่อย ฉะนั้นเราควรต้องทำตัวยังไง เพราะไม่อยากให้เลิกกัน
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ต่างพยายามยื้อ ความสัมพันธ์ แพร-อู๋ เริ่มร่อแร่ โพสต์เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา 00:00:00 7,007 อ่าน
TOP