หนุ่มชาวฟิลิปปินส์ วัย 28 ปี เสียชีวิต หลังถูกเจ้าหน้าที่รัฐสั่งให้ทำสควอต 300 ครั้ง ลงโทษฐานฝ่าฝืนเคอร์ฟิวช่วงโควิด 19 ออกไปซื้อน้ำ
![ทำสควอตเสียชีวิต]( "ทำสควอตเสียชีวิต")
เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น และนิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า นายดาร์เรน มาเนาอัก เปญาเรดอนโด ชายหนุ่มชาวฟิลิปปินส์ วัย 28 ปี จากจังหวัดคาบีเต เสียชีวิตอย่างน่าเศร้า ภายหลังจากถูกสั่งลงโทษอย่างไม่เป็นธรรม นำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์ว่าตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐรายล่าสุดของประเทศ
เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ทางการสั่งเคอร์ฟิวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 05.00 น. แต่หลังจาก เวลา 18.00 น. ดาร์เรนได้ออกจากบ้าน เพื่อไปซื้อน้ำดื่ม ก่อนจะถูกทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่นควบคุมตัว
ตามคำให้การของครอบครัว เผยว่า ดาร์เรน และผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวอีกราย ถูกควบคุมตัวไปด้วยกัน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งลงโทษ โดยการให้ทำสควอต 100 ครั้ง แต่ทำไม่พร้อมกัน จึงสั่งให้ทำซ้ำอีก รวมทั้งหมด 300 ครั้ง
ภายหลังจากเสร็จสิ้น ดาร์เรนมีอาการอ่อนล้าและเจ็บปวด เวลาประมาณ 20.00 น. เขาได้รับการช่วยเหลือจากผู้ที่ถูกร่วมทำโทษ ช่วยพามาส่งที่บ้าน จากนั้นในเช้าวันต่อมา ดาร์เรนมีอาการปวดอย่างรุนแรงจนไม่สามารถเดินได้ ต้องค่อย ๆ คลานพยุงตัวขึ้นลงบันได
ในตอนแรกทางภรรยาของดาร์เรนคิดว่าไม่น่าจะเป็นอันตรายร้ายแรง เพราะเขาบอกแค่ว่ามีอาการปวดที่หัวเข่า ต้นขา และลำตัว แต่หลังจากนั้นในเวลาต่อมาในช่วงเย็น ดาร์เรนเกิดอาการชัก จากนั้นมีการฟื้นมาในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ในที่สุดเขาก็สิ้นใจจากไปในเวลาประมาณ 22.00 น.
ภายหลังจากเกิดเหตุ ทางอันโทนี เฟอร์เรอร์ นายกเทศมนตรีเมือง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้สั่งการให้ทางตำรวจดำเนินการสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อความชัดเจน และเพื่อความเป็นธรรมกับทางครอบครัว
ในขณะที่ทาง มาร์โล นิลโล โซเลโร ผู้บัญชาการหน่วยตำรวจของเมือง ปฏิเสธว่าการการเสียชีวิตของดาร์เรน ไม่ได้เกิดจากการลงโทษ ทางเจ้าหน้าที่ไม่มีการลงโทษเช่นนั้น โดยยืนยันว่า ผู้ที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวจะได้รับโทษด้วยเหตุผลและไม่ใช้ความรุนแรง
"เราไม่มีการลงโทษเช่นนั้น แต่เราใช้วิธีการบรรยายให้ความรู้แทน" มาร์โล กล่าว
สำหรับฟิลิปปินส์ ปัจจุบันมีรายงานผู้ติดเชื้อ COVID-19 เกือบ 800,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 13,425 ราย นับเป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย
ขอบคุณข้อมูลจาก edition, nypost
เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น และนิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า นายดาร์เรน มาเนาอัก เปญาเรดอนโด ชายหนุ่มชาวฟิลิปปินส์ วัย 28 ปี จากจังหวัดคาบีเต เสียชีวิตอย่างน่าเศร้า ภายหลังจากถูกสั่งลงโทษอย่างไม่เป็นธรรม นำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์ว่าตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐรายล่าสุดของประเทศ
เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ทางการสั่งเคอร์ฟิวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 05.00 น. แต่หลังจาก เวลา 18.00 น. ดาร์เรนได้ออกจากบ้าน เพื่อไปซื้อน้ำดื่ม ก่อนจะถูกทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่นควบคุมตัว
ตามคำให้การของครอบครัว เผยว่า ดาร์เรน และผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวอีกราย ถูกควบคุมตัวไปด้วยกัน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งลงโทษ โดยการให้ทำสควอต 100 ครั้ง แต่ทำไม่พร้อมกัน จึงสั่งให้ทำซ้ำอีก รวมทั้งหมด 300 ครั้ง
ภายหลังจากเสร็จสิ้น ดาร์เรนมีอาการอ่อนล้าและเจ็บปวด เวลาประมาณ 20.00 น. เขาได้รับการช่วยเหลือจากผู้ที่ถูกร่วมทำโทษ ช่วยพามาส่งที่บ้าน จากนั้นในเช้าวันต่อมา ดาร์เรนมีอาการปวดอย่างรุนแรงจนไม่สามารถเดินได้ ต้องค่อย ๆ คลานพยุงตัวขึ้นลงบันได
ในตอนแรกทางภรรยาของดาร์เรนคิดว่าไม่น่าจะเป็นอันตรายร้ายแรง เพราะเขาบอกแค่ว่ามีอาการปวดที่หัวเข่า ต้นขา และลำตัว แต่หลังจากนั้นในเวลาต่อมาในช่วงเย็น ดาร์เรนเกิดอาการชัก จากนั้นมีการฟื้นมาในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ในที่สุดเขาก็สิ้นใจจากไปในเวลาประมาณ 22.00 น.
ภายหลังจากเกิดเหตุ ทางอันโทนี เฟอร์เรอร์ นายกเทศมนตรีเมือง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้สั่งการให้ทางตำรวจดำเนินการสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อความชัดเจน และเพื่อความเป็นธรรมกับทางครอบครัว
ในขณะที่ทาง มาร์โล นิลโล โซเลโร ผู้บัญชาการหน่วยตำรวจของเมือง ปฏิเสธว่าการการเสียชีวิตของดาร์เรน ไม่ได้เกิดจากการลงโทษ ทางเจ้าหน้าที่ไม่มีการลงโทษเช่นนั้น โดยยืนยันว่า ผู้ที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวจะได้รับโทษด้วยเหตุผลและไม่ใช้ความรุนแรง
"เราไม่มีการลงโทษเช่นนั้น แต่เราใช้วิธีการบรรยายให้ความรู้แทน" มาร์โล กล่าว
สำหรับฟิลิปปินส์ ปัจจุบันมีรายงานผู้ติดเชื้อ COVID-19 เกือบ 800,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 13,425 ราย นับเป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย
