แห่แชร์ภาพสะพานลอยหน้า ม.มหิดล ศาลายา ได้งบปรับปรุงซุ้มเฉลิมพระเกียรติฯ 1.3 ล้านบาท แต่ทางขึ้นบันไดกลับสร้างไม่เสร็จสักที วางอิฐตัวหนอนให้ขึ้นเอง ความปลอดภัยของประชาชนอยู่ตรงไหน !?
กลายเป็นประเด็นให้ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์เกี่ยวกับปัญหาการสร้างสะพานลอยบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จ.นครปฐม ที่ดูเหมือนจะยังสร้างไม่เสร็จตามกำหนดการที่วางไว้ และปล่อยทิ้งคาราคาซัง ทำให้นักศึกษาและคนในพื้นที่บ่นกันระนาว ถึงความปลอดภัยในการใช้งาน บางคนถึงกับยอมเสี่ยงข้ามถนนดีกว่าเสี่ยงขึ้นบันไดสะพานลอย อย่างล่าสุด (15 กันยายน 2564) ผู้ใช้
เฟซบุ๊ก Roy Jettawat Sophon ได้ออกมาโพสต์ถึงภาพสะพานลอยในปัจจุบัน เผยให้เห็นทางขึ้นบันไดที่สร้างไม่ถึงพื้น และใช้อิฐตัวหนอนมากองซ้อน ๆ กันเพื่อให้เป็นทางขึ้นอีกที โดยผู้โพสต์ระบุว่า สะพานลอยแห่งนี้อยู่ในโครงการปรับปรุงซุ้มเฉลิมพระเกียรติบนสะพานลอย งบประมาณ 1,300,000 บาท สัญญาจ้างตั้งแต่ 19 ธันวาคม 2563 - 18 มีนาคม 2564
ปัจจุบันผ่านมากว่า 6 เดือนแล้ว เหตุใดถึงยังไม่เสร็จสมบูรณ์เสียที สร้างเสร็จแค่ซุ้มเฉลิมพระเกียรติฯ ส่วนทางขึ้นสะพานกลับปล่อยทิ้งไว้แบบนั้น พร้อมแท็กชื่อหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทั้งหมด
นอกจากนี้ทาง
เพจ เฮ้ย นี่มันฟุตบาทไทยแลนด์ ได้ร่วมแชร์ภาพสะพานลอยดังกล่าวด้วย ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก มองว่า มีเงินทำซุ้มสวย แต่ไม่มีปัญญาทำทางเท้ากับสะพานลอยให้ดีได้ สงสารคนแก่ คนพิการ จะขึ้นสะพานลอยอย่างปลอดภัยได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ดราม่าสะพานดังกล่าวไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ทาง
เพจ ต้องแฉ ตามเรื่องมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ระบุว่า โครงการดังกล่าวดำเนินการโดยเทศบาลตำบลศาลายา จัดจ้างบริษัท โอลี่ กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้รับเหมา ขณะนั้นสภาพสะพานเหมือนหยุดชะงัก ทิ้งงานไว้ไร้การดูแลใด ๆ เหลือกองอิฐ กองทราย และพื้นที่ถูกรื้ออยู่อย่างไร้วี่แววว่าใกล้จะเสร็จ แถมยังเลยสัญญามากว่า 5 เดือนแล้ว หากอ้างว่าต้องชะลอการดำเนินงาน เพราะช่วงโควิด 19
คงต้องฝากถามถึง กองช่าง เทศบาลตำบลศาลายา จังหวัดนครปฐม ว่าจะมีแนวทางเอื้ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งานของประชาชนอย่างไรบ้าง หรือจะปล่อยให้มีสภาพเช่นนี้ไว้จริง ๆ
โดยล่าสุดทางเพจก็มาโพสต์ถามหาความคืบหน้าอีกรอบ แม้จะได้คำชี้แจงจากนายกเทศมนตรีตำบลศาลายา ว่าไม่สามารถขนย้ายแรงงานเข้าดำเนินการได้ในช่วงโควิด แต่ก็มีข้อโต้แย้งจากอดีตผู้ว่า สตง. ว่าถึงอย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ผู้รับเหมาเข้างานไม่ได้ หน่วยควรจัดการพื้นที่ไม่ให้ประชาชนได้รับความเสี่ยงในการใช้งาน งานนี้คงต้องรอติดตามดูความเคลื่อนไหวของหน่วยงานในพื้นที่จะออกมาแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างไร !