x close

ศาลฎีกาสั่งยกฟ้อง ผู้บริหาร เมก้าฯ - วิศวกร คดีแก๊สรั่วตึก SCB ปี 59 ทำคนงานดับ 8 ศพ

          ศาลฎีกาพิพากษา ยกฟ้องวิศวกรฯ และผู้บริหาร บริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด ในคดีแก๊สรั่วตึก SCB เมื่อปี 2559 จนเป็นเหตุให้คนงานเสียชีวิต 8 ศพ ชี้ไม่เป็นการกระทำโดยประมาท

ศาลฎีกาสั่งยกฟ้องคดีแก๊สรั่วตึกSCBปี59
ภาพจาก สำนักข่าว INN

          วันที่ 23 กันยายน 2564 ไทยโพสต์ รายงานว่า ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีสารเคมีระบบดับเพลิงไพโรเจน ฟุ้งกระจายจนมีผู้เสียชีวิต ที่สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2559 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 รายและบาดเจ็บ คดีหมายเลขดำ อ.1764/2559 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 และครอบครัวของผู้เสียชีวิต คือ นายวิรัช ดีดพิณ, นายพีรพัฒน์ กอยประโคน และนางสาวกรรณิการ์ ประจิตร์ หรือ สินศิริ ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องผู้บริหารบริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด ได้แก่…

          - นาย ณพงษ์ สุขสงวน อายุ 49 ปี ประธานกรรมการบริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด

          - นายอดิศร โฟดา อายุ 55 ปี ผู้บริหาร บจก.เมก้า แพลนเน็ต

          - นายจิระวัฒน์ เปรมปรีดิ์ อายุ 34 ปี วิศวกรโครงการปรับปรุงระบบป้องกันอัคคีภัยของ บจก.เมก้าฯ

          - นายสมคิด ตันงาม อายุ 63 ปี กก.บจก.โจนส์ แลงฯ

          - นายสมคิด จันทร์หอม อายุ 40 ปี หัวหน้าช่าง บจก.โจนส์ แลงฯ

          - นายตรีภพ ยังประเสริฐกุล อายุ 41 ปี ผู้จัดการดูแลอาคาร บจก.โจนส์ แลงฯ

          - น.ส.ขจรจิตร พรหมดีราช อายุ 49 ปี พนักงานบริษัท เอบิต มัลติซิสเต็ม จำกัด ที่รับช่วงต่อจาก บจก.เมก้า แพลนเน็ต ควบคุมดูแลการวางท่อระบบดับเพลิงภายในอาคาร

          - นายบุญเสริม กระจาด อายุ 40 ปี วิศวกร บจก.เอบิต มัลติซิสเต็ม ที่คุมคนงาน


          โดยคดีนี้มี บริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด โดยนาย ณพงษ์ สุขสงวน และนายอดิสร โฟดา กรรมการผู้มีอำนาจ และ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ แมนเนจเม้นท์ จำกัด โดยนายสมคิด ตันงาม กรรมการผู้มีอำนาจ เป็นจำเลยที่ 1 - 10 ในความผิดฐานร่วมกันกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายแก่กายและอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 300, 390

          คดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2560 เห็นว่า แม้จำเลยที่ 1 และ 2 ซึ่งเป็นผู้บริหาร บจก.เมก้าฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง แต่มีหน้าที่กำกับดูแล บจก.เมก้าฯ หรือ จำเลยที่ 9 รักษาความปลอดภัย ขณะที่นายจิระวัฒน์ วิศวกรโครงการปรับปรุงระบบป้องกันอัคคีภัยของ บจก.เมก้าฯ จำเลยที่ 3 เป็นหัวหน้างาน มีหน้าที่ต้องควบคุมดูแลความปลอดภัย แต่กระทำโดยประมาทไม่ปิดระบบดับเพลิงเดิม ไม่ควบคุมในที่เกิดเหตุ

ศาลฎีกาสั่งยกฟ้องคดีแก๊สรั่วตึกSCBปี59
ภาพจาก จส.100

          จำเลยที่ 1, 2, 3, 9 จึงมีความประมาทร่วมด้วย ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตขึ้น ให้ลงโทษฐานร่วมกันกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายแก่กายและอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ซึ่งเป็นบทหนักสุด จำคุกจำเลยที่ 1 - 3 คนละ 2 ปีและปรับคนละ 20,000 บาท แต่เนื่องจากจำเลยที่ 1 - 3 ไม่เคยต้องโทษมาก่อน อีกทั้งความประมาทที่เกิดขึ้นในการปิดระบบดับเพลิงเดิม ก็นอกเหนือจากความสามารถของจำเลย จึงเห็นควรให้โอกาสจำเลยโดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้คนละ 2 ปี

          ส่วน บจก.เมก้าฯ จำเลยที่ 9 ให้ปรับ 20,000 บาท และจำเลยที่ 1 - 3 และ 9 ร่วมกันชดใช้เงินญาติผู้ตายที่เป็นโจทก์ร่วมด้วย 5 คน รวม 2.1 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับจากวันเกิดเหตุ 13 มีนาคม 2559 ส่วนจำเลยที่ 4 - 8 และ 10 พิพากษายกฟ้อง

          ทั้งนี้โจทก์ยื่นอุทธรณ์ ต่อมาวันที่ 24 กรกฎาคม 2562 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้อง นาย ณพงษ์ และนายอดิศร จำเลยที่ 1 - 2 และยกคำร้องที่บังคับให้จำเลยที่ 1 - 2 ชดเชยค่าสินไหมทดแทนด้วยให้นายจิระวัฒน์ จำเลยที่ 3 และบริษัท เมก้าฯ จำเลยที่ 9 ชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ร่วมที่ 1 นับจากวันฟ้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

          ต่อมาพนักงานอัยการโจทก์ โจทก์ร่วม และจำเลยที่ 3, 9 ยื่นฎีกา โดยในวันนี้ นายจิระวัฒน์ จำเลยที่ 3 และผู้บริหารบริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด จำนวน 2 คน ที่เป็นจำเลยที่ 9 เดินทางมาฟังคำพิพากษา พร้อมญาติและบุคคลใกล้ชิดที่มาร่วมให้กำลังใจ

ศาลฎีกาสั่งยกฟ้องคดีแก๊สรั่วตึกSCBปี59
ภาพจาก จส.100

          โดยศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า นายจิระวัฒน์ จำเลยที่ 3 วิศวกรโครงการปรับปรุงระบบป้องกันอัคคีภัยของ บจก.เมก้าฯ ได้ปฏิบัติตามหน้าที่ โดยก่อนเข้าไปพื้นที่ได้ขออนุญาตและแจ้งให้ปิดระบบดับเพลิงแล้ว จากคำเบิกความของผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า ระบบไพโรเจนน่าจะเสื่อมสภาพ พยานหลักฐานโจทก์ โจทก์ร่วมที่นำสืบมา จึงไม่อาจรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าในวันเกิดเหตุจำเลยที่ 3 มิได้แจ้งให้ปิดระบบดับเพลิงเดิม

          อันเป็นการกระทำโดยประมาทของจำเลยที่ 3 ตามฟ้องตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลยที่ 3 ตาม ป.วิอาญา มาตรา 227 วรรคสอง เมื่อได้ความดังกล่าวแล้วถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 9 กระทำการโดยประมาทด้วยเหตุดังกล่าวเช่นเดียวกันกับจำเลยที่ 1, 2 ดังนี้ จำเลยที่ 3, 9 จึงไม่ต้องชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วม ฎีกาจำเลยที่ 3, 9 ฟังขึ้น ส่วนฎีกาโจทก์ร่วมฟังไม่ขึ้น

          พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 3, 9 เสียด้วย ยกคำร้องขอให้ใช้ค่าสินไหมทดแทนของโจทก์ร่วม นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

ศาลฎีกาสั่งยกฟ้องคดีแก๊สรั่วตึกSCBปี59
ภาพจาก จส.100


ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโพสต์


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ศาลฎีกาสั่งยกฟ้อง ผู้บริหาร เมก้าฯ - วิศวกร คดีแก๊สรั่วตึก SCB ปี 59 ทำคนงานดับ 8 ศพ อัปเดตล่าสุด 23 กันยายน 2564 เวลา 16:26:02 5,350 อ่าน
TOP