ดราม่า จะไปงานแต่งเพื่อนสมัยเรียน กลับเจอกดดันให้ใส่ซองกว่า 3 หมื่น ทั้งที่ไม่สนิทแล้ว หัวโจกทำใจโตไม่สนเพื่อน ๆ ชี้ถ้าเงินไม่พอก็ให้ยืมเอา ชาวเน็ตซัด คนแบบนี้ยังควรคบต่อไหม เงินใส่ซองจริง ๆ แล้วใส่เท่าไหร่กัน
![ดราม่าจะไปงานแต่งเพื่อนเจอกดดันให้ใส่ซองกว่า3หมื่น]( "ดราม่าจะไปงานแต่งเพื่อนเจอกดดันให้ใส่ซองกว่า3หมื่น")
วันที่ 27 กันยายน 2564 เว็บไซต์แอปเปิลเดลี่ ของไต้หวัน มีรายงานกรณีของหญิงรายหนึ่งที่ออกมาระบายความอัดอั้นใจบนโลกออนไลน์ หลังจากที่เธอต้องไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนสมัยเรียน แต่กลับมีปัญหาหนักอกเกี่ยวกับเรื่องการใส่เงินของขวัญในซอง เมื่อมีเพื่อนในกลุ่มเสนอให้ทุก ๆ คนใส่ซองเป็นจำนวนกว่า 6,000 หยวน (ราว 31,000 บาท) ซึ่งเป็นจำนวนที่มากเกินกำลังของหญิงรายนี้ จนสร้างความกดดันแก่เธอ
โดย เอ (นามสมมติ) เล่าว่า ปีนี้เธออายุ 24 ปีแล้ว ทำงานได้เงินเดือน 27,000 หยวน (ราว 1.3 แสนบาท) ซึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จำเป็น เธอจะเหลือเงินไว้ใช้จ่ายอย่างเสรีหรือเก็บออมไว้เดือนละ 5,000 หยวน (ราว 25,000 บาท)
กระทั่งไม่นานมานี้ พบว่ามีเพื่อนคนหนึ่งสมัยมัธยมปลายกำลังจะแต่งงาน โดยในกลุ่มของเธอมีอยู่ด้วยกัน 8 คน จากนั้นหนึ่งในคนที่ค่อนข้างจะเป็นจุดศูนย์กลางของกลุ่ม ก็ได้เสนอให้เพื่อน ๆ ใส่ซองจำนวนเท่ากัน พร้อมชี้ว่า "ฉันว่าสัก 6,000 หรือ 6,600 ก็ต่างกันไม่มาก 6,600 หยวน (ราว 34,000 บาท) ก็ดีนะ" พร้อมชี้ว่าเป็นเลขมงคล
อย่างไรก็ตาม เพื่อนคนอื่น ๆ ในกลุ่มตอบกลับว่า เงินใส่ซองควรจะขึ้นอยู่กับมิตรภาพ แม้ว่าพวกเธอจะเป็นกลุ่มเพื่อนที่สนิทกันในโรงเรียน แต่ปัจจุบันหลังจากเรียนจบทุก ๆ คนก็ไม่ได้สนิทคุ้นเคยกันดังเดิมแล้ว ใส่ซองสัก 3,600 หยวน (ราว 18,000 บาท) หรือ 2,600 หยวน (ราว 13,000 บาท) ก็น่าจะพอดี
แต่กลายเป็นว่าคนที่เป็นหัวโจกที่เสนอให้ใส่ซอง 6,600 หยวน กลับไม่พอใจ แถมยังต่อว่าเพื่อน ๆ อีก หลังจากนั้นยังมาถามความเห็นจากเอเป็นการส่วนตัว บอกรู้ดีว่าเงินเดือนของเอเหลือไม่พอ แต่ถ้าไม่มีเงินจริง ๆ ก็มายืมตนก่อนแล้วค่อยผ่อนคืนให้ก็ได้
เอ ชี้ว่า แม้เพื่อน ๆ จะสนิทกันตอนเรียน แต่หลังเรียนจบก็ไม่ได้พบเจออะไรกันอีกยกเว้นแต่มารวมตัวกันในแต่ละปี และนั่นทำให้เธอรู้สึกแปลกมาก และคิดว่าถ้าเธอต้องไปหยิบยืมเงินมาใส่ซอง เพื่อจะไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนที่ไม่ได้คุ้นเคยกันแล้ว ตัวเองจะได้ประโยชน์อะไร
พร้อมกันนั้น เอยังถามความเห็นจากชาวเน็ต ว่าทุก ๆ คนใส่ซองไปงานแต่งเพื่อนสมัยเรียนสักเท่าไหร่กัน หรือเธอคิดแบบนี้เป็นเพราะเธอขี้เหนียวเกินไปกันแน่
ทั้งนี้ ชาวเน็ตจำนวนมากได้เข้ามาคอมเมนต์ตอบกลับ มองว่าความเห็นของเพื่อนหัวโจกรายนั้นค่อนข้างจะไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย โดยทั่วไปเงินใส่ซองแค่สักคนละ 2,200 - 2,600 หยวน (ราว 11,000 - 13,000 บาท) เว้นเสียแต่ว่าเพื่อนที่จะแต่งงานนั้นเป็นเพื่อนที่สนิทกันสุด ๆ ก็อาจจะใส่ซองถึง 6,600 หยวน
หลายคนยังไม่เข้าใจตรรกะของคนที่เสนอให้ใส่ซองจำนวนมาก ขณะที่อีกคนยังแนะนำให้เอคิดดูดี ๆ ว่าคนแบบนี้เหมาะที่จะยังคบหาเป็นเพื่อนต่อหรือไม่ ทั้งที่รู้ว่าสถานการณ์การเงินของเอไม่ค่อยดีนัก แทนที่จะเข้าใจ กลับมาบังคับให้ฝืนจ่ายเงินจำนวนมากเช่นนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก tw.appledaily
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 27 กันยายน 2564 เว็บไซต์แอปเปิลเดลี่ ของไต้หวัน มีรายงานกรณีของหญิงรายหนึ่งที่ออกมาระบายความอัดอั้นใจบนโลกออนไลน์ หลังจากที่เธอต้องไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนสมัยเรียน แต่กลับมีปัญหาหนักอกเกี่ยวกับเรื่องการใส่เงินของขวัญในซอง เมื่อมีเพื่อนในกลุ่มเสนอให้ทุก ๆ คนใส่ซองเป็นจำนวนกว่า 6,000 หยวน (ราว 31,000 บาท) ซึ่งเป็นจำนวนที่มากเกินกำลังของหญิงรายนี้ จนสร้างความกดดันแก่เธอ
โดย เอ (นามสมมติ) เล่าว่า ปีนี้เธออายุ 24 ปีแล้ว ทำงานได้เงินเดือน 27,000 หยวน (ราว 1.3 แสนบาท) ซึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จำเป็น เธอจะเหลือเงินไว้ใช้จ่ายอย่างเสรีหรือเก็บออมไว้เดือนละ 5,000 หยวน (ราว 25,000 บาท)
กระทั่งไม่นานมานี้ พบว่ามีเพื่อนคนหนึ่งสมัยมัธยมปลายกำลังจะแต่งงาน โดยในกลุ่มของเธอมีอยู่ด้วยกัน 8 คน จากนั้นหนึ่งในคนที่ค่อนข้างจะเป็นจุดศูนย์กลางของกลุ่ม ก็ได้เสนอให้เพื่อน ๆ ใส่ซองจำนวนเท่ากัน พร้อมชี้ว่า "ฉันว่าสัก 6,000 หรือ 6,600 ก็ต่างกันไม่มาก 6,600 หยวน (ราว 34,000 บาท) ก็ดีนะ" พร้อมชี้ว่าเป็นเลขมงคล
อย่างไรก็ตาม เพื่อนคนอื่น ๆ ในกลุ่มตอบกลับว่า เงินใส่ซองควรจะขึ้นอยู่กับมิตรภาพ แม้ว่าพวกเธอจะเป็นกลุ่มเพื่อนที่สนิทกันในโรงเรียน แต่ปัจจุบันหลังจากเรียนจบทุก ๆ คนก็ไม่ได้สนิทคุ้นเคยกันดังเดิมแล้ว ใส่ซองสัก 3,600 หยวน (ราว 18,000 บาท) หรือ 2,600 หยวน (ราว 13,000 บาท) ก็น่าจะพอดี
แต่กลายเป็นว่าคนที่เป็นหัวโจกที่เสนอให้ใส่ซอง 6,600 หยวน กลับไม่พอใจ แถมยังต่อว่าเพื่อน ๆ อีก หลังจากนั้นยังมาถามความเห็นจากเอเป็นการส่วนตัว บอกรู้ดีว่าเงินเดือนของเอเหลือไม่พอ แต่ถ้าไม่มีเงินจริง ๆ ก็มายืมตนก่อนแล้วค่อยผ่อนคืนให้ก็ได้
เอ ชี้ว่า แม้เพื่อน ๆ จะสนิทกันตอนเรียน แต่หลังเรียนจบก็ไม่ได้พบเจออะไรกันอีกยกเว้นแต่มารวมตัวกันในแต่ละปี และนั่นทำให้เธอรู้สึกแปลกมาก และคิดว่าถ้าเธอต้องไปหยิบยืมเงินมาใส่ซอง เพื่อจะไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนที่ไม่ได้คุ้นเคยกันแล้ว ตัวเองจะได้ประโยชน์อะไร
พร้อมกันนั้น เอยังถามความเห็นจากชาวเน็ต ว่าทุก ๆ คนใส่ซองไปงานแต่งเพื่อนสมัยเรียนสักเท่าไหร่กัน หรือเธอคิดแบบนี้เป็นเพราะเธอขี้เหนียวเกินไปกันแน่
ทั้งนี้ ชาวเน็ตจำนวนมากได้เข้ามาคอมเมนต์ตอบกลับ มองว่าความเห็นของเพื่อนหัวโจกรายนั้นค่อนข้างจะไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย โดยทั่วไปเงินใส่ซองแค่สักคนละ 2,200 - 2,600 หยวน (ราว 11,000 - 13,000 บาท) เว้นเสียแต่ว่าเพื่อนที่จะแต่งงานนั้นเป็นเพื่อนที่สนิทกันสุด ๆ ก็อาจจะใส่ซองถึง 6,600 หยวน
หลายคนยังไม่เข้าใจตรรกะของคนที่เสนอให้ใส่ซองจำนวนมาก ขณะที่อีกคนยังแนะนำให้เอคิดดูดี ๆ ว่าคนแบบนี้เหมาะที่จะยังคบหาเป็นเพื่อนต่อหรือไม่ ทั้งที่รู้ว่าสถานการณ์การเงินของเอไม่ค่อยดีนัก แทนที่จะเข้าใจ กลับมาบังคับให้ฝืนจ่ายเงินจำนวนมากเช่นนี้
