สาวช้ำ ผอ. แต่งงานกับหญิงอื่นตอนท้อง เรียกร้องกลับโดนไล่ กล่าวหาว่าลูกคือลูกชู้

          สาวหอบหลักฐานฟ้อง ผัวบิ๊กข้าราชการ ระดับ ผอ. แอบไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นตอนกำลังท้อง หลังลูกคลอดโดนไล่ออกจากบ้าน ไม่ส่งเสียเลี้ยงดู สุดเจ็บช้ำโดนกล่าวหาว่าลูกเป็นลูกชู้

ทิ้งลูกไปแต่งงาน

          วันที่ 20 ตุลาคม 2564 เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 รายงานว่า น.ส.เก๋ อายุ 37 ปี ชาว จ.ขอนแก่น เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกชายวัยขวบเศษ เพื่อให้สามีส่งเสียเลี้ยงดู พร้อมหลักฐานภาพถ่ายสามีไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น  

          น.ส.เก๋ เปิดเผยว่า ตนเคยทำงานในกรุงเทพฯ ตอนอายุ 24 ปี ได้รู้จักกับนายพจน์ (นามสมมุติ) อายุ 55 ปี ปัจจุบันรับราชการในตำแหน่งผู้อำนวยศูนย์ฯ แห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น หลังจากนั้นต่างแยกย้ายไม่เจอกันอีก ซึ่งตนได้แต่งงานกับอดีตสามี มีลูกด้วยกัน 1 คน และเลิกรากันไปในเวลาต่อมา

          จากนั้นปี 2560 นายพจน์ ย้ายมารับตำแหน่งผู้อำนวยการฯ พื้นที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งตรงกับช่วงที่ตนเลิกกับอดีตสามี และเปิดร้านขายอาหารเพื่อสุขภาพในเมืองขอนแก่น เมื่อนายพจน์ย้ายมาก็มีโอกาสไปมาหาสู่กัน ต่อมานายพจน์ขอคบเป็นแฟน พร้อมเอาทะเบียนหย่ากับภรรยาเก่ามาให้ดู ซึ่งญาติพี่น้องของตนเห็นว่าเขาไม่มีพันธะแล้ว อีกทั้งมีหน้าที่การงานมั่นคง น่าจะเลี้ยงดูตนได้ จึงตัดสินใจคบหากัน

          ต่อมา นายพจน์อยากมีลูก จึงปล่อยให้ตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ ตอนนั้นนายพจน์ถามว่าต้องแต่งงานหรือไม่ ด้วยความที่ตนคิดว่าสิ้นเปลือง และถ้าคน 2 คน เข้าใจและรักกัน ไม่ต้องมีพิธีแต่งงานก็ได้ ช่วงที่ตนตั้งท้อง 3 เดือน เราพากันไปหาซื้อบ้านและใช้ชีวิตร่วมกัน โดยนายพจน์ให้เงินใช้จ่ายเดือนละ 50,000 บาท

          ทั้งนี้ ช่วงที่ย้ายไปอยู่ในบ้านด้วยกันและท้องได้ 3 เดือนนั้น เริ่มสังเกตว่าสามีเปลี่ยนไป แอบคุยโทรศัพท์และมักจะไปคอมเมนต์ใต้โพสต์ของหญิงสาวรายหนึ่ง อายุ 32 ปี ชาว จ.อุดรธานี อยู่บ่อย ๆ จึงเก็บความสงสัยไว้ ส่วนท้องก็โตขึ้นทุกวัน ความเปลี่ยนแปลงของสามีมากขึ้น

          ต่อมานายพจน์ให้ตนออกจากงาน ให้ปิดร้านอาหารแล้วอยู่บ้านเฉย ๆ ตนจึงแอบค้นเฟซบุ๊กสามี กระทั่งไปเจอภาพสามีเข้าพิธีแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่ง จัดงานใหญ่โตในโรงแรมที่อุดรธานี เมื่อสามีกลับมาบ้าน จึงเอาภาพให้ดูพร้อมถามว่า ทำไมถึงทำแบบนี้ สามีตอบว่าจำเป็นต้องแต่ง และไม่พูดอะไรอีกเลย ส่วนตนไม่ได้โวยวายเพราะกำลังท้อง อดกลั้นใช้ชีวิตอยู่คนเดียว รอจนลูกคลอด สามีก็เซ็นรับรองบุตรในฐานะพ่อเด็ก แต่ชีวิตไม่ราบรื่นอย่างที่คิด เพราะสามีไม่มาสนใจดูแล ไม่ให้เงินทองเหมือนเดิม

ทิ้งลูกไปแต่งงาน

          จากนั้นในเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา นายพจน์ไล่ตนออกจากบ้านพร้อมกับลูก จึงต้องไปอยู่บ้านกับแม่และพี่สาว ส่วนสามีไม่เคยโทร. หาและไม่มาดูแลอีกเล ทั้งนี้ ตนรวบรวมหลักฐานไปปรึกษาทนายความ และนำข้อความที่ถูกนายพจน์ต่อว่าเข้าแจ้งความกับตำรวจ รวมถึงอธิบดีกรมทางหลวง เพื่อขอความเป็นธรรมให้ลูก ให้นายพจน์มารับผิดชอบลูก แต่ถูกปฏิเสธว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง หนำซ้ำยังกล่าวหาว่าเป็นลูกชู้

          นอกจากนี้ นายพจน์ยังยืนยันว่าเป็นหมัน มีลูกไม่ได้ และท้าทายตนด้วยถ้อยคำรุนแรงว่าถ้าไม่ได้สำส่อนก็ให้ไปตรวจดีเอ็นเอ แถมยังบอกว่าจบคือจบ บารมีเรามันต่างกัน ตนไม่เข้าใจว่าถ้าเป็นหมันแล้วตอนคลอดไปเซ็นรับรองบุตรทำไม

          ขณะเดียวกันมีคลิปเสียงที่นายพจน์ พูดจาลักษณะข่มขู่พี่สาวของ น.ส.เก๋ ด้วย ระบุว่า ของพวกมึงยังมีเป้าให้ล่ออีกเยอะแยะ ถ้าเล่นสกปรกคิดให้ดี ๆ แม่ก็แก่แล้ว ลูกก็ยังเล็ก อย่าคิดว่าจะทำอะไรชั่ว ๆ ได้อย่างที่คิด หาชู้ให้น้องสาว แล้วยังจะมีหน้ามากรรโชกทรัพย์อีก ระวังตัวไว้แล้วกัน ขณะที่พี่สาวก็หัวเราะกับคำพูดของอีกฝ่าย และหลอกล่อให้พูดออกมาให้หมด
ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สาวช้ำ ผอ. แต่งงานกับหญิงอื่นตอนท้อง เรียกร้องกลับโดนไล่ กล่าวหาว่าลูกคือลูกชู้ โพสต์เมื่อ 20 ตุลาคม 2564 เวลา 17:16:52 30,887 อ่าน
TOP
x close