เจ้าคุณพิพิธ VS พระมหาไพรวัลย์ เอาการสึกต่อรอง - โต้อาตมาใฝ่สูงตอนไหน ผ้าเหลืองเดือด


          พระมหาไพรวัลย์ โต้เจ้าคุณพิพิธ ดูถูกเกินไปแล้ว ยันถ้าจะสึกเป็นเพราะตัวเอง ไม่ใช่เรื่องการต่อรอง และทุกสิ่งที่พูดไป ไม่ได้สำคัญตัวผิด เป็นเรื่องการร้องขอความเป็นธรรม


          จากกรณีที่พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ แห่งวัดสร้อยทอง ได้ประกาศกลางไลฟ์ ว่าจะขอสละสมณเพศ หากว่า พระราชปัญญาสุธี (อุทัย ญาโณทโย) รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ก็ได้ออกมายืนยันว่า มีการเสนอชื่อพระราชปัญญาสุธี เป็นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองแล้ว

          หลังจากนั้น พระมหาไพรวัลย์ ก็มีการโพสต์ยอมรับว่า หลายเรื่องอาตมาทำตัวไม่เหมาะสม แต่ก็ไม่เคยนั่งเครื่องบินไปดูฟุตบอลถึงต่างประเทศ ไม่เคยทำนายดูดวงหรือปลุกเสกผ้ายันต์ ทำให้มีคนสงสัยว่า ท่านได้พาดพิงพระสงฆ์อีกรูปที่มีอำนาจในการตัดสินใจแต่งตั้งเจ้าอาวาสหรือไม่ ซึ่งอาจจะหมายถึงสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือเจ้าประคุณสมเด็จธงชัย แห่งวัดไตรมิตรวิทยาราม ในฐานะเจ้าคณะใหญ่หนกลาง

เจ้าคุณพิพิธ

เจ้าคุณพิพิธ ซัด อย่าสำคัญตัวผิด ไปกดดันพระระดับสูง


          ต่อมาพระเทพปฏิภาณวาที (เจ้าคุณพิพิธ) แห่งวัดสุทัศนเทพวราราม ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพระมหาไพรวัลย์ที่ประกาศจะสึก หากพระราชปัญญาสุธี ไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองว่า การกระทำแบบนี้ เป็นการต่อรองโดยการใช้ตัวเองเข้าแลกกับตำแหน่ง ถ้าทำแบบนี้ต้องดูด้วยว่า ตัวเองมีคุณค่าพอไหม อย่าคิดว่ามีติดตามเป็นล้านแล้วตัวเองสำคัญ เพราะคนเหล่านั้นอาจจะดูเพราะความตลก แปลกใหม่ หรือบ้า ๆ บอ ๆ ก็ได้

          ถ้าประกาศสึกไปจริงคงมีคนมาช่วย แต่บอกเลยไม่มีคนมาช่วยหรอก ในโลกนี้ให้จำไว้เลยว่าไม่มีใครช่วยอย่างแท้จริง และการต่อรองแบบนี้เป็นการทำร้ายตัวเอง ทำร้ายวัดสร้อยทอง และทำร้ายวิธีการเผยแพร่พระพุทธศาสนา

พระมหาไพรวัลย์ โต้ ท่านทำให้วงการพระดูแย่


          ล่าสุด วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 พระมหาไพรวัลย์ มีการโพสต์ตอบโต้เจ้าคุณพิพิธถึงเรื่องนี้ว่า ถ้าอาตมาจะลาสิกขา คือ ลาด้วยตัวเอง และทุกสิ่งที่อาตมาพูดไป มันคือความสัตย์ ไม่ได้เกี่ยวกับการสำคัญตัวอะไร

          อาตมาไม่ใช่คนเล่นละครเก่งที่ตอนโทรศัพท์คุยกัน คุยอีกแบบ อยู่หน้าสื่อ เป็นอีกแบบ พูดแบบนางเอกละครหลังข่าว พูดแบบไม่ใช้ความกล้าหาญ แบบนั้นใคร ๆ ก็ทำได้ อาตมาคิดว่า เจ้าคุณพิพิธดูหนังจีนเยอะไป พูดเรื่องการศึกสงคราม การต่อรอง ทั้งที่มันเป็นเรื่องของความเป็นธรรมมากกว่าที่ต้องส่งเสียงเรียกร้อง

          สิ่งที่เจ้าคุณพิพิธทำ ทำให้คณะสงฆ์ดูแย่ไปอีก เพราะเป็นการบอกโดยตรงว่า วงการสงฆ์ไม่ต่างจากเกมการเมืองของเหล่าฆราวาสเลย

          อาตมารักการพระศาสนา รักคณะสงฆ์ และลึก ๆ ก็เคารพนับถือพระผู้ใหญ่ (เหมือนที่ผมเคยเคารพนับถืออาจารย์นั่นแหล่ะครับ) ผมจึงพูดอะไรอย่างตรงไปตรงมา ในฐานะของกัลยาณมิตร ของคนรุ่นใหม่ ของลูกของหลาน

          นอกจากนี้ อาตมาเป็นคนที่เจียมตัวเสมอ พูดคิดอะไรไตร่ตรองดีแล้ว หลายครั้งก็ไม่ได้โต้เจ้าคุณพิพิธเพราะยังเห็นแก่ความนับถือ ประเด็นก่อน ๆ ก็มีเรื่องความไม่ก้าวหน้า ไม่มีอนาคต ทำไมท่านต้องคิดว่า อนาคตของเราคืออนาคตเดียวกัน อาตมามีความมักใหญ่ใฝ่สูงแบบที่ท่านคิดตอนไหน

          พร้อมกันนั้น พระมหาไพรวัลย์ ยังย้อนถึงอดีตของเจ้าคุณพิพิธด้วยว่า เมื่อก่อนท่านเองก็โดนเยอะนะ ทั้งเรื่องสำนักงานตัวเองที่โดนเวนคืน ทั้งเรื่องการเขียนกลอน เรื่องที่เคยเกิดขึ้น ไม่ทำให้เห็นสัจธรรมอะไรเลยเหรอ

          ขอประทานโทษเถอะครับ อย่าทำให้ผมหมดความนับถือเลย ทำไมถึงคิดว่า การเป็นผู้ใหญ่แล้วคือสามารถใช้คำพูดดูถูกคนรุ่นลูกรุ่นหลานยังไงก็ได้


เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจ้าคุณพิพิธ VS พระมหาไพรวัลย์ เอาการสึกต่อรอง - โต้อาตมาใฝ่สูงตอนไหน ผ้าเหลืองเดือด อัปเดตล่าสุด 5 พฤศจิกายน 2564 เวลา 11:47:56 72,567 อ่าน
TOP
x close