หลงเชื่อประกาศขายบ้านจัดสรร เข้าทำสัญญา พร้อมโอนเงินจอง-ผ่อนดาวน์เรียบร้อย สุดท้ายกลายเป็นบ้านทิพย์ โครงการไม่มีอยู่จริง
![หลอกขายบ้าน]( "หลอกขายบ้าน")
![หลอกขายบ้าน]( "หลอกขายบ้าน")
ภาพจาก เฟซบุ๊ก กระแสข่าว
![หลอกขายบ้าน]( "หลอกขายบ้าน")
ภาพจาก Kannapon.SuperZebra / Shutterstock.com
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
วันที่ 10 ธันวาคม 2564 เพจ กระแสข่าว รายงานกรณีผู้เสียหายเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมสัตหีบ จ.ชลบุรี หลังถูกหลอกให้ซื้อบ้านจัดสรร เสียค่าจองบ้านและค่าดาวน์ รายละ 1.8 แสนบาท ค่าวัสดุก่อสร้างกว่า 2 ล้านบาท ผู้เสียหายสูญเงินรวมแล้ว 5 ล้านบาท ศูนย์ดำรงธรรมฯ ได้รับเรื่องไว้ พร้อมดำเนินการตรวจสอบ หากพบมีการทำผิดจริง จะเร่งดำเนินการตามกฎหมาย
จากการตรวจสอบ สำนักงานที่ดินชลบุรี สาขา อ.สัตหีบ ไม่พบการขออนุญาตโครงการหมู่บ้านจัดสรรบนที่ดินที่ถูกกล่าวอ้าง ขณะที่ เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ ตรวจสอบแล้วยืนยันว่าไม่เคยอนุญาตให้ก่อสร้างโครงการหมู่บ้านดังกล่าว
จากการตรวจสอบ สำนักงานที่ดินชลบุรี สาขา อ.สัตหีบ ไม่พบการขออนุญาตโครงการหมู่บ้านจัดสรรบนที่ดินที่ถูกกล่าวอ้าง ขณะที่ เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ ตรวจสอบแล้วยืนยันว่าไม่เคยอนุญาตให้ก่อสร้างโครงการหมู่บ้านดังกล่าว
ต่อมา นายประทีป นาคบังเกิด ทนายความศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฏหมาย จ.ชลบุรี ได้นำผู้เสียหาย 3 คน เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.สัตหีบ โดยผู้เสียหายเห็นประกาศขายบ้านและที่ดินโครงการ รุ่งเจริญแลนด์ พื้นที่หมู่ 9 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ. ชลบุรี โดยมี นายพีรพงศ์ ศุกร์อมรชัย อายุ 62 ปี และ น.ส.ณีรนุช ขำอ่อน อายุ 50 ปี เป็นเจ้าของโครงการ
จากนั้นได้ติดต่อซื้อบ้านจัดสรรโครงการดังกล่าว และได้รับการยืนยันจากบุคคลทั้ง 2 ว่ามีโครงการอยู่จริง ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงเข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้านจัดสรร พร้อมจ่ายเงินจองบ้านและเงินผ่อนดาวน์ไปเรียบร้อย
จากนั้นได้ติดต่อซื้อบ้านจัดสรรโครงการดังกล่าว และได้รับการยืนยันจากบุคคลทั้ง 2 ว่ามีโครงการอยู่จริง ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงเข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้านจัดสรร พร้อมจ่ายเงินจองบ้านและเงินผ่อนดาวน์ไปเรียบร้อย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก กระแสข่าว
ต่อมาทราบว่าเจ้าของโครงการไม่ได้ขอนุญาตปลูกสร้างบ้านจัดสรรตามประกาศ ผู้เสียหายจึงสอบถามข้อเท็จจริงและขอเงินคืน แต่ถูกบ่ายเบียง ซึ่งทั้ง 2 คน ยอมรับว่ายังไม่ได้ขอนุญาตจัดสรรโครงการหมู่บ้าน และจะคืนเงินให้ แต่ภายหลังไม่ยอมคืนเงิน จึงพากันเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ด้าน ทนายประทีป กล่าวว่า กรณีจองบ้านแล้วไม่ได้บ้านนั้น พบว่าสั่งอุปกรณ์ก่อสร้างมาแล้ว แต่เจ้าของโรงการนำไปขายให้คนอื่น รวมถึงได้รับร้องเรียนจากแรงงานที่ทำงานแล้วไม่ได้เงิน รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นเกือบ 5 ล้านบาท
ด้าน ทนายประทีป กล่าวว่า กรณีจองบ้านแล้วไม่ได้บ้านนั้น พบว่าสั่งอุปกรณ์ก่อสร้างมาแล้ว แต่เจ้าของโรงการนำไปขายให้คนอื่น รวมถึงได้รับร้องเรียนจากแรงงานที่ทำงานแล้วไม่ได้เงิน รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นเกือบ 5 ล้านบาท
ภาพจาก เฟซบุ๊ก กระแสข่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก กระแสข่าว
