ดราม่าแอร์เมสปลอม ทีน่า พลิกลิ้น ไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดกระเป๋าแอร์เมสปลอม ยืนยันไม่จ่าย 2 ล้านแน่นอน เพราะอีกฝ่ายไม่ได้ตกลงราคานี้ตั้งแต่แรก อยากฟ้องเชิญเลย ด้านทนายเกิดผล บอกเจอกันที่ศาลครับ สรพงษ์
ความคืบหน้าดราม่ากระเป๋าแอร์เมสปลอมระหว่างชมพู่ เจ้าของกระเป๋า กับทีน่า เจ้าของร้านรับซื้อแบรนด์เนม ซึ่งเดิมพันไว้ว่า ถ้าหากกระเป๋าใบนี้ของจริง จะจ่าย 2 ล้าน พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น "สรพงษ์" และจะเลิกเป็นกะเทยทันที ก่อนที่ต่อมาผลการตรวจจากต่างประเทศ ยืนยัน กระเป๋าใบนี้คือของจริง นั้น
อ่านข่าว : ทนายเกิดผล แจ้งผลตรวจกระเป๋าแอร์เมส สามพยางค์สั้น ๆ งานนี้มีคนหนาวแล้ว
ล่าสุด (20 ธันวาคม 2564) กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า น.ส.จิดาภา ชีนารักษ์ หรือชมพู่ เจ้าของกระเป๋าแอร์เมสใบดังกล่าว ยืนยันจะไม่ขอรับเงินจำนวน 395,000 บาท ที่ทีน่าโอนเข้าบัญชีมาเมื่อวานนี้ (18 ธันวาคม) และได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว โดยยืนยันจะขอรับเงิน 2 ล้านบาทเท่านั้น ตามที่ทีน่าได้ท้าไว้ รวมทั้งขอให้ทีน่าเลิกเป็นสาวสองและใช้ชื่อสรพงษ์ ตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ด้วย
ส่วนกรณีที่ทีน่าได้ใช้ปากกาเขียนลงบนกระเป๋าว่าของปลอม จะต้องรับผิดชอบเพราะทำให้กระเป๋ามีตำหนิและเสื่อมราคา รวมถึงที่มีการไลฟ์ก็ทำให้ตนที่เป็นเจ้าของธุรกิจได้รับความเสียหายด้านชื่อเสียง จึงยืนยันว่าจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด
ขณะที่ เรื่องเล่าเช้านี้ เผยบทสัมภาพษณ์ ทีน่า เจ้าตัวยืนยันไม่ได้โกง พอผลตรวจออกมายืนยันว่าของแท้ ก็โอนเงินให้เลย อีกทั้งตนยินดีที่จะซื้อกระเป๋าอยู่แล้ว พอรู้ผลว่าเป็นของจริงก็เลยโอนเงินไป ส่วนตอนแรกที่ตรวจแล้วมันปลอมเพราะก่อนหน้านี้ เคยโดนหลอกเจองานแบบนี้มาก่อนครั้งหนึ่ง เรื่องกระเป๋าตนไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดว่าของปลอม ไม่ใช่เลย ตนถึงเอามาตรวจสอบวิธีนี้
ส่วนเรื่องที่อีกฝ่ายไม่รับขอโทษแต่ขอรับเป็นเงิน 2 ล้าน อย่างเดียวนั้น ขอบอกว่าตอนแรกอีกฝ่ายไม่ได้ตกลงราคากันที่ 2 ล้านบาท ตนเลยไม่แคร์ รวมถึงเรื่องคดีความที่อีกฝ่ายจะไปฟ้องร้อง ก็โอเคให้อีกฝ่ายไปฟ้องได้เลย
ด้าน ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความลงในเฟซบุ๊ก ระบุว่า รายการโหนกระแส สนุกมาก แม่ค้าทีน่า ยอมเปลี่ยนชื่อเป็น สรพงษ์ (แมนมาก สรพงษ์) เพราะผลรับรองกระเป๋าต่างประเทศ ยืนยันว่ากระเป๋าแท้แน่นอน...แต่ไม่จ่าย 2,000,000 บาท นะครับ เจอกันที่ศาลครับ สรพงษ์
อ่านข่าว : หนุ่ม กรรชัย ไล่บี้ทีน่าจนเสียงอ่อน ยอมเปลี่ยนชื่อเป็น "สรพงษ์" หน้าซีดโดนรีด 2 ล้าน
![อวสานสรพงษ์ พลิกลิ้น ไม่ได้พูดกระเป๋าของปลอม ยันไม่จ่าย 2 ล้าน อวสานสรพงษ์ พลิกลิ้น ไม่ได้พูดกระเป๋าของปลอม ยันไม่จ่าย 2 ล้าน]()
ขอบคุณข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ, เรื่องเล่าเช้านี้
ความคืบหน้าดราม่ากระเป๋าแอร์เมสปลอมระหว่างชมพู่ เจ้าของกระเป๋า กับทีน่า เจ้าของร้านรับซื้อแบรนด์เนม ซึ่งเดิมพันไว้ว่า ถ้าหากกระเป๋าใบนี้ของจริง จะจ่าย 2 ล้าน พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น "สรพงษ์" และจะเลิกเป็นกะเทยทันที ก่อนที่ต่อมาผลการตรวจจากต่างประเทศ ยืนยัน กระเป๋าใบนี้คือของจริง นั้น
อ่านข่าว : ทนายเกิดผล แจ้งผลตรวจกระเป๋าแอร์เมส สามพยางค์สั้น ๆ งานนี้มีคนหนาวแล้ว
ล่าสุด (20 ธันวาคม 2564) กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า น.ส.จิดาภา ชีนารักษ์ หรือชมพู่ เจ้าของกระเป๋าแอร์เมสใบดังกล่าว ยืนยันจะไม่ขอรับเงินจำนวน 395,000 บาท ที่ทีน่าโอนเข้าบัญชีมาเมื่อวานนี้ (18 ธันวาคม) และได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว โดยยืนยันจะขอรับเงิน 2 ล้านบาทเท่านั้น ตามที่ทีน่าได้ท้าไว้ รวมทั้งขอให้ทีน่าเลิกเป็นสาวสองและใช้ชื่อสรพงษ์ ตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ด้วย
ส่วนกรณีที่ทีน่าได้ใช้ปากกาเขียนลงบนกระเป๋าว่าของปลอม จะต้องรับผิดชอบเพราะทำให้กระเป๋ามีตำหนิและเสื่อมราคา รวมถึงที่มีการไลฟ์ก็ทำให้ตนที่เป็นเจ้าของธุรกิจได้รับความเสียหายด้านชื่อเสียง จึงยืนยันว่าจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด
ขณะที่ เรื่องเล่าเช้านี้ เผยบทสัมภาพษณ์ ทีน่า เจ้าตัวยืนยันไม่ได้โกง พอผลตรวจออกมายืนยันว่าของแท้ ก็โอนเงินให้เลย อีกทั้งตนยินดีที่จะซื้อกระเป๋าอยู่แล้ว พอรู้ผลว่าเป็นของจริงก็เลยโอนเงินไป ส่วนตอนแรกที่ตรวจแล้วมันปลอมเพราะก่อนหน้านี้ เคยโดนหลอกเจองานแบบนี้มาก่อนครั้งหนึ่ง เรื่องกระเป๋าตนไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดว่าของปลอม ไม่ใช่เลย ตนถึงเอามาตรวจสอบวิธีนี้
ส่วนเรื่องที่อีกฝ่ายไม่รับขอโทษแต่ขอรับเป็นเงิน 2 ล้าน อย่างเดียวนั้น ขอบอกว่าตอนแรกอีกฝ่ายไม่ได้ตกลงราคากันที่ 2 ล้านบาท ตนเลยไม่แคร์ รวมถึงเรื่องคดีความที่อีกฝ่ายจะไปฟ้องร้อง ก็โอเคให้อีกฝ่ายไปฟ้องได้เลย
ด้าน ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความลงในเฟซบุ๊ก ระบุว่า รายการโหนกระแส สนุกมาก แม่ค้าทีน่า ยอมเปลี่ยนชื่อเป็น สรพงษ์ (แมนมาก สรพงษ์) เพราะผลรับรองกระเป๋าต่างประเทศ ยืนยันว่ากระเป๋าแท้แน่นอน...แต่ไม่จ่าย 2,000,000 บาท นะครับ เจอกันที่ศาลครับ สรพงษ์
อ่านข่าว : หนุ่ม กรรชัย ไล่บี้ทีน่าจนเสียงอ่อน ยอมเปลี่ยนชื่อเป็น "สรพงษ์" หน้าซีดโดนรีด 2 ล้าน

ขอบคุณข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ, เรื่องเล่าเช้านี้












