ภาคต่อไวรัล จดหมายจากแม่ค้า ออร์เดอร์พลิกชีวิต จากคนคิดสั้น ช่วยสั่งจนร้านฟื้น


          ภาคต่อไวรัล สาวสั่งอาหารจากแม่ค้า ได้จดหมายมาน้ำตาไหล ล่าสุดแม่ค้ามาเล่า ประคองร้านจนแทบไม่ไหว ทั้งวันมีสั่งมาออร์เดอร์เดียว จนได้ลูกค้ามาช่วยสั่ง คนแห่เข้าร้าน ช่วยพลิกวิกฤตให้ฟื้น จากคิดฆ่าตัวตายตอนนี้ไม่ทำแล้ว

จดหมายจากแม่ค้า

          จากกรณีไวรัลที่ทำเอาทั้งโลกออนไลน์ชุ่มชื้นหัวใจ เมื่อลูกค้าคนหนึ่งสั่งแกร็บจากร้านหนึ่งติดกันเป็นเวลา 3 วัน และวันที่ 3 นั้น ก็ได้รับจดหมายน้อยจากเจ้าของร้าน บรรยายถึงความลำบากว่า ทางร้านเป็นพาร์ตเนอร์กับแกร็บมา 5 วัน แต่เพิ่งมีออร์เดอร์เดียวคือของคุณ พร้อมกับเขียนอีกว่า ทั้งวันขายได้ 2 ออร์เดอร์ ออร์เดอรตัวเองอันหนึ่ง ออร์เดอร์ลูกค้าอีกอัน หักเปอร์เซ็นต์แล้วได้เงินทั้งหมดแค่ 300


          ล่าสุด ร้าน PJKitchen and PJCoffee ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความอีกครั้ง เพื่อที่จะขอบคุณคุณกาญจน์ ที่ได้ทวีตข้อความจนเป็นไวรัล และทำให้ทางร้านสามารถลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง ทว่า ทางคุณกาญจน์ไม่ได้สั่งอาหารที่ร้านอีก ทางร้านเลยไม่รู้ว่าจะส่งจดหมายที่เขียนด้วยลายมืออย่างไร จึงนำข้อความและจดหมายนั้นมาโพสต์ในเพจ เพื่อฝากขอบคุณที่การกระทำเล็ก ๆ ของลูกค้าคนหนึ่ง ช่วยพลิกฟื้นชีวิตร้านเล็ก ให้กลับมามีลมหายใจได้อีกครั้ง

จดหมายจากแม่ค้า

แม่ค้าเผย ออร์เดอร์เดียวในวันนั้น จุดความหวังให้แม่ค้า ดีใจน้ำตาเปื้อนกระดาษ


          ทั้งนี้ ในตอนต้นจดหมาย เจ้าของร้านบอกว่า ตนอยากจะส่งจดหมายนี้ไปถึงคุณกาญจน์ ตอนนี้ตนปิดร้านเรียบร้อยแล้ว ตนอยากส่งจดหมายนี้เพื่อให้รู้ว่า ความรู้สึกดี ๆ ของคน ๆ หนึ่งนั้นมันมากมายแค่นไหน วันนั้นได้เขียนไปบ้างแล้วในกระดาษ แต่ไม่ทราบว่าคุณกาญจน์จะได้รับไหม เพราะตอนนั้นมัวแต่ดีใจ ไม่มีกระดาษ ปากกาหมึกหมด น้ำตาหยดลงบนตัวหนังสือ อาหารก็ต้องทำ กลัวแกร็บจะรอ มือก็สั่น ทั้งรีบทั้งลน

          วันนี้ตนอยากเขียนถึงคุณกาญจน์ว่า ออร์เดอร์ของคุณกาญจน์มีความหมายมากแค่ไหน ตนไม่รู้ว่าคุณกาญจน์คือใคร อยู่ที่ไหน แต่คุณกาญจน์ทำให้ตนมีความหวังและเห็นแสงสว่างในชีวิตขึ้นมา

แม่ค้าเล่า ทำร้านมา 6 ปี ช่วงแรกขาดทุนเละเทะ พอเริ่มไหวหน่อยก็เจอโควิด ต้องยอมปรับตัวเข้าเดลิเวอรี่


          ตนเริ่มเปิดร้านนี้ เข้าปีที่ 6 แล้ว จากอดีตเป็นพนักงานบริษัท ก็เอาเงินมาลงทุนทำร้าน เพราะปกติเป็นคนชอบทานของดี ๆ เลยอยากทำร้านที่ดี ขายของดี ราคาไม่สูง ลดแลกแจกแถมให้เด็ก ๆ และคนยากไร้

          แต่เนื่องจากตนไม่มีประสบการณ์เลย คำนวณต้นทุนไม่เป็น จากที่คิดว่าจะได้ต้นทุนคืนในเดือนที่ 13 ปรากฏว่า ไม่เป็นเช่นนั้น ช่วง 1-2 ปีแรกเละเทะ มีแต่ติดลบและขาดทุนทุกเดือน ค่าแรง ค่าจ้าง วัตถุดิบ ค่าเช่า แบกไว้หมด ตรงกับคำพูดที่ว่า ขายดีจนเจ๊ง

          จากนั้น ทางร้านก็เริ่มเจอมรสสุม ทั้งจากฝุ่น PM2.5 พฤติกรรมลูกค้าเริ่มเปลี่ยนและหันไปสั่งเดลิเวอรี่แทน ตอนนั้นตนยังไม่สมัครร่วมเดลิเวอรี่เพราะไม่อยากเสียค่า GP จากนั้นเมื่อเจอโควิด ปรากฏว่าร้านทรุด ร้านโดนปิดแต่รายจ่ายเหมือนเดิม ตนไปกู้เงินมาและรับเนื้อย่างมาปิ้งขายหน้าร้านไม้ละ 2 บาท เพื่อหาเงินจ่ายให้เด็กในร้าน แต่สำหรับตนนั้น 6 ปี ไม่เคยมีเงินเดือน จนตนต้องไปสมัครเดลิเวอรี่ แต่ไม่เข้าร่วม GP เพราะไม่อยากปรับค่าอาหารขึ้น

จุดต่ำสุด เกือบจบชีวิตตัวเอง แต่ขอกัดฟันสู้อีกรอบ ยอมเข้าร่วมเดลิเวอรี่


          อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทางร้านจะสมัครมา 2 ปี แต่กลับไม่มีออร์เดอร์จาก Grab เข้ามาเลย ตนก็เจอปัญหารุมเร้าทุกทาง ต้องไปกู้หนี้มาเพื่อพยุงร้าน อายุก็มาก จะไปสมัครงานก็ไม่มีใครรับ มีโรคประจำตัว จนเกือบจบชีวิตตัวเอง และยิ่งมีโควิดรอบอื่น ๆ ก็ยิ่งต้องพยายามดิ้นรนให้มากขึ้นอีก เลยกัดฟันสู้อีกรอบ

          ก่อนหน้านี้ ตนถูกลูกค้าตำหนิว่าราคาอาหารแพง เมื่อเอาไปเทียบกับร้านข้างทางอื่น ๆ จนตนเสียใจและเป็นแผลในใจ ทั้งที่ค่าเช่าก็แพง ค่าจ้างเด็กในร้านก็แพง เนื้อสัตว์ก็ใช้เนื้อสัตว์อนามัย ผักปลอดสารพิษ ข้าวหอมมะลิ แม้ลูกค้าจะไม่รู้แต่เรารู้ อยากให้ลูกค้ากินแล้วกลับมาซื้อใหม่ แม้ว่าจะขายเดลิเวอรี่จนแทบไม่ได้กำไร เพราะอยากขายของออกไปก่อน และสุดท้ายก็ตัดสินใจเข้าร่วมค่า GP กับทางแอปฯ เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา และจ่ายค่าโฆษณาอีกวันละ 80 บาท

คุณกาญจน์ช่วยซื้อ จนร้านฟื้น - ไปมูเตลูขอพระพิฆเนศให้ท่านช่วย จนร้านกลับมาดี


          วันแรกที่ทำ มีเพื่อนช่วยซื้อ วันที่ 2 รอทั้งวันไม่มีสักออร์เดอร์ รอจน 20.00 น. เลยปิดร้าน จน 20.04 น. ได้ยินเสียงออร์เดอร์จากแกร็บ กระโดดดีใจกับแม่ครัวรีบไขประตูมาขายให้คุณกาญจน์ จนวันต่อมาคุณกาญจน์ก็มาซื้ออีก แต่แล้ววันถัดไปคุณกาญจน์ก็ไม่มาซื้อ เลยคิดว่าเราพลาดอะไรไปหรือเปล่า อาหารไม่ถูกปาก แพงไปแน่ ๆ เพราะใครจะซื้อข้าวมื้อละ 300 ได้ทุกมื้อ  เลยคิดว่าไม่ไหวแล้ว

          วันที่ 26 มกราคม ตนปิดร้านแล้วเพื่อนก็พาไปไหว้ขอพระพระพิฆเนศตรงห้วยขวาง ก็ขอไปตรง ๆ เลยว่าตนอยากมีชีวิตต่อไปเพื่อกลับมาขายได้ และช่วยคนอื่นเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ ขอให้กลับมาค้าขายได้ และวันที่ 27 มกราคม จากที่ไม่มีลูกค้าเลย ตนก็ได้ลูกค้ามา 1 โต๊ะ 4 ท่าน ตอนเที่ยงก็ได้ 4-5 คน ช่วงค่ำก็ได้อีก 3-4 คน และพอ 2 ทุ่ม ก็ได้ออร์เดอร์ของคุณกาญจน์อีก

          ตนรู้สึกตื้นตันใจมาก อยากเล่าให้คุณกาญจน์ฟัง จากที่ตนไม่เคยมาสายมู วันนี้เชื่อว่าท่านส่งคุณกาญจน์มาให้ตน เพื่อให้ตนอยู่ต่อไปและแบ่งปันไปอีกหลายชีวิต ตนเลยอยากขอบคุณคุณกาญจน์ ที่เหมือนให้ชีวิตใหม่กับตน และทำให้ตนไม่คิดสั้น ให้โอกาสและให้สิ่งดี ๆ กับอีกหลาย ๆ คนต่อไป

          "สุดท้ายอยากจะบอกคุณกาญจน์ว่า พี่คงจะไม่มีอะไรมาตอบแทนคุณกาญจน์มากไปกว่านี้ ทำได้เพียงพี่จะไม่ใส่ผงชูรสลงไปในอาหารคุณกาญจน์นะคะ"


เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ภาคต่อไวรัล จดหมายจากแม่ค้า ออร์เดอร์พลิกชีวิต จากคนคิดสั้น ช่วยสั่งจนร้านฟื้น อัปเดตล่าสุด 1 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 14:59:13 23,626 อ่าน
TOP
x close