2 ทนายดังคืนดีกันแล้ว - พีคสุด ขอ หนุ่ม กรรชัย เลิกปั่น ถามสำนึกจริงเปล่าเนี่ย ?

          ทนายตั้ม ทนายเดชา คืนดีกันแล้ว ประกาศลั่นไม่กลับไปคบ อัจฉริยะ แซะ หนุ่ม กรรชัย ก็โดนมาแล้วนี่ หากจะตามไปกินข้าวกับแก๊งทนายไปได้ แต่ขออย่างเดียว อย่าปั่นอีก 

2 ทนายดังคืนดีกันแล้ว

          กรณีความบาดหมาง ระหว่าง ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ และ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอด มีเรื่องฟ้องร้องกันหลายคดี ล่าสุดคดีทุกอย่างจบหมดแล้ว ถอนฟ้องกันทุกคดี จับมือเคลียร์ใจและขอโทษกันและกัน วันนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงจูบปากกันได้ รายการ โหนกระแส วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 สัมภาษณ์เปิดใจทั้งคู่ ถึงเรื่องราวความบาดหมางตลอด 4 ปี


ษิทรา

ดีกันแล้ว ?


          ทนายตั้ม : เรียบร้อยครับเมื่อวันจันทร์ จริง ๆ แล้วเมื่อวันจันทร์ มีคดีที่ผมฟ้อง อ.เดชา เรื่องคดีหมิ่นประมาทไว้ ก่อนศาลจะลงมา ได้มีโอกาสคุยกับ อ.เดชา ปรับความเข้าใจกัน คุยถึงเรื่องที่ผ่านมา ว่ามีอะไรติดใจกันอยู่ ปรากฏว่าเคลียร์กันได้แล้ว เราเลยตกลงว่าถ้างั้นเราก็อย่าไปทะเลาะกันดีกว่า ต่างคนต่างไปทำงาน ส่วนหนึ่งมาช่วยเหลือสังคมกันดีกว่า

พี่เดชา ไม่ติดข้องหมองใจกันแล้ว ?


          ทนายเดชา : ก็เคลียร์กันหมด ผมเป็นคนขอโทษเขาก่อนเลย ในรายการขออนุญาตยกมือไหว้ คือสิ่งที่ผ่านมา ตั้งแต่ 2561 เวลา 4-5 ปี เราก็ไปพาดพิงเขาเยอะ ต้องยอมรับ อะไรไม่ถูกต้องเราก็ต้องกล้าขอโทษ

กล้าทำกล้ารับ ?

          ทนายเดชา : แน่นอน ถึงอายุมากกว่า แต่บางสิ่งบางอย่างที่ทำก็ไม่เหมาะสม เราก็ต้องยอมรับความจริง เราขอโทษเขาก่อน

2 ทนายดังคืนดีกันแล้ว

จริง ๆ ทั้งสองท่าน รู้จักกันมาก่อนไหม ?

          ทนายเดชา : ก็รู้จักกันทางสื่อ เคยออกรายการกัน

จำไม่ผิด คุณเคยไปออกรายการคุณพุทธ ช่องอมรินทร์ คุณอยู่ฝั่งเดียวกัน คุณนั่งอยู่ฝั่งเดียวคุณ คุณลุยกับประธานแมลงสาบ แล้วไปปะทุกันตอนไหน ?

          ทนายตั้ม : วันนั้นผมเจอ อ.เดชา ครั้งแรก

          ทนายเดชา : ผมว่าบางทีอยู่ที่เอฟซี กองเชียร์มันเยอะ เอฟซีที่เขาเชียร์ทนายตั้มกับที่เชียร์ผม บางทีเขาก็บิลต์ ๆ แล้วเกิดอารมณ์ขึ้นมา เถียงกันไปเถียงกันมา แล้วผมเป็นคนหัวร้อนไง เป็นคนเก็บทรงไม่อยู่ นิสัย (หัวเราะ) ยอมรับความจริง หนึ่งหัวร้อน สองเก็บทรงไม่อยู่เป็นคนใจร้อน ก็มีเรื่องมีราวด่ากันไปเยอะแยะมากมาย

แต่ด้วยความสัตย์จริง ผมรู้จักสองท่านมานานมาก และสนิททั้งสองคน ผมเหมือนอยู่ตรงกลางในบางมุม แต่เชื่อไหมด้วยมารยาท ทั้งสองท่านไม่เคยมาพูดถึงกันให้ผมฟัง มุมการอยู่หน้าสื่อ หรือเบลมกัน มันเป็นละครไหม ?

          ทนายเดชา : มันเป็นข้อเท็จจริง บางทีในข้อกฎหมาย ผมเห็นอีกอย่าง ตั้มเห็นอีกอย่าง การเห็นไม่ตรงกัน หนึ่งอาจข้อกฎหมายด้วย สองอาจมีสิ่งที่เราไม่ชอบหน้ากันก็เสริม ๆ กัน ทำให้กลายเป็นคู่กัด

สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนถูกสร้างเป็นซีรีส์ มีทั้งพระเอก ผู้ร้าย ผลัดกันไปมา มองยังไง ?

          ทนายตั้ม : จริง ๆ ผมกับ อ.เดชา ทะเลาะกันตั้งแต่ปี 61 ได้ ปีนี้ 65 แล้ว 4 ปีแล้ว ตอนแรกมีคนพยายามเจรจาให้เราหลายครั้ง ตอนแรกเราโมโห เพราะเราคิดว่าเราเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำไม่คุยอย่างเดียว แต่พอมาถึงจุดหนึ่ง เราก็คิดว่าเรื่องราวมันผ่านมาตั้งนานแล้ว อ.เดชา ซึ่งก็เป็นผู้ใหญ่กว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเจอที่ศาลขอโทษผมและยกมือไหว้ ผมก็คิดว่าถ้าอย่างนี้เรามาคุยปรับความเข้าใจกันดีกว่า เราหยุดดีกว่า แล้วเอาเวลานี้มาทำงานให้ครอบครัว มีคดีอะไรที่เราพอจะช่วยเหลือสังคมได้ก็ช่วยกัน เพราะ อ.เดชา แม่นข้อกฎหมายอยู่แล้ว มีอะไรต่อจากนี้ ผมก็โทร. ไปปรึกษาอาจารย์ได้

2 ทนายดังคืนดีกันแล้ว

ทะเลาะกันครั้งแรกเรื่องอะไร ?

          ทนายตั้ม : ครั้งแรกก็ตอนไปออกรายการคุณพุทธนี่แหละ ตอนนั้นเรากะไปแฉประธานแมลงสาบ อาจารย์บอกจะทำให้มันหยุดเลยในวันนั้น พอตอนกลางคืน อาจารย์โทร. มาว่าจะไม่ดำเนินการแล้ว ทำให้ผมโมโห ผมเลยโพสต์ไป พอผมโพสต์ไปในทางไม่ดีเหมือนอาจารย์ไม่กล้าแล้ว ทำนองนี้ เอฟซีผมเลยไปทัวร์ลงอาจารย์เดชา มันก็เลยเหมือนผมเป็นฝ่ายเปิดศึกไปก่อน จริง ๆ ถ้าอาจารย์ไม่ทำแล้ว ผมทำเงียบ ๆ ไปก็ได้ แต่ด้วยความที่เป็นผม ทนายตั้มมันไม่ยอมอยู่แล้ว มันต้องให้ทุกคนรู้ เอฟซีผมก็ไปทัวร์ลงอาจารย์ นี่คือจุดเริ่มต้นแห่งความบาดหมาง ผมไปโพสต์ในเฟซว่าใจไม่ถึงหลบไป คนรุ่นใหม่จะเดิน เท่านั้นแหละครับ (หัวเราะ) ทัวร์ไปลงเลย

          ทนายเดชา : มาเยอะเลย เวลามาลงไม่ได้ลงครั้งเดียว อย่างเวลาผมไลฟ์ก็จะมีเอฟซีเขามาแสดงความคิดต่าง ๆ ด่าทอเราเยอะ เราก็เครียด โมโห เราก็ด่ากลับ คุณหนุ่มก็รู้ผมยอมที่ไหนล่ะ เอฟซีหายไป 4 หมื่น มีบางช่วง ด่าผมผมก็ด่ากลับ

          ทนายตั้ม : นี่คือเริ่มแรก

หลังจากนั้นไปก่อหวอดจนมีคดีหนักขึ้น คืออะไร ?

          ทนายตั้ม : หลังจากนั้นมีคดีหวย 30 ล้าน เหมือนยืนคนละฝั่งกันและมีการโต้กันไปโต้กันมา ช่วงปลาย ๆ หวย 30 ล้าน อาจารย์มาเข้าข้างผมอยู่ 2 วัน ผมก็ดีใจ อาจารย์ไม่ด่าผมแล้ว มาชมผม แต่อีก 3 วันก็ด่าผมใหม่ (หัวเราะ)

          ทนายเดชา : ก็เป็นเรื่องข้อกฎหมาย จริง ๆ สื่อมาถามผมให้แย้งกับทางนี้ ผมพูดไปทางโน้นก็อัดมา ก็เลยเกิดข้อพิพาทกัน

โดนปั่น ?

          ทนายเดชา : จะเรียกงั้นก็ได้ คิดดู อย่างทนายตั้มพูดอย่างนี้ เขาไม่ได้ถามปกติ เขาถามว่าถ้าทนายเป็นคุณปรีชาจะโต้ยังไง แล้วจะมีเรื่องไหมล่ะ ทางโน้นก็ไม่พอใจเท่านั้นเอง

2 ทนายดังคืนดีกันแล้ว

จุดเริ่มต้นฟ้อง มันเริ่มจากคดีไหน ?

          ทนายตั้ม : มันเริ่มจากผมถูกคนคนหนึ่งไปสร้างเรื่องว่าผมไปวิ่งเต้นอัยการ ทำปลอมแปลงเอกสาร คุณหนุ่มรู้จักดี แต่ตอนนี้คนไม่ค่อยรู้จักเขาแล้วครับ (หัวเราะ) พอเขามาเปิดประเด็น เหมือนต้องการดิสเครดิตผม คนคนนี้เคยอยู่กับผม แล้วมาขอเปอร์เซ็นต์ผมในเรื่องหวย 30 ล้าน ตอนนั้นเขาคิดว่าผมต้องได้เปอร์เซ็นต์เท่านี้ ๆ ก็เปิดมาขอว่าจะเอาทีมทนายเขา ซึ่งเขาคือทะแนะ จะเอามาร่วมทีมกับผม แล้วจะขอเปอร์เซ็นต์ ถ้าผมได้แบบนี้

          ทีนี้พอผมปฏิเสธไป เพราะผมมีพี่ทนายอาคมอยู่แล้ว สองคนก็พอ เขาก็เกิดความไม่พอใจ เริ่มมาค่อนแคะไปเรื่อย ๆ แล้วมันก็มีหลายเรื่อง พอคนดวงกำลังตก เรื่องหนึ่งก็มีสองสามสี่มา อ.เดชา ตอนนั้นที่ไม่พอใจ เขาไปแชร์และด่าผมทุกวันเลยตอนนั้น วันหนึ่งเลยให้ทีมงานรวบรวมคลิป แล้วไปแจ้งควา มอ.เดชา ฟ้องตรงต่อศาล

ไปด่าเขาทำไม ?

          ทนายเดชา : จำไม่ได้ มันก็ไปเรื่อย มีอะไรมาเราก็พูดไป มันมีข่าวมา ออกสื่อ เราก็เอามาวิเคราะห์ตามสไตล์ผม แค่นั้น

          ทนายตั้ม : อ.เดชา ก็ว่าเราไปวิ่งเต้นอัยการ ไปว่าเราปลอมแปลงเอกสาร นำสืบเท็จ วันนี้คุยกันแล้ว

เป็นคดีแรกที่ฟ้อง ?

          ทนายตั้ม : ผมฟ้องหลายคดี รวมหลายกรรม ไม่ได้ฟ้องแยก

          ทนายเดชา : ฟ้อง 2 คดี 28 กรรม สองปีก็คูณเข้าไปถ้าติดคุก วันนี้จบดีแล้วไง (หัวเราะ) จะ 60 แล้ว ถ้าติดคุกอีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้

2 ทนายดังคืนดีกันแล้ว

คดีหมิ่นประมาท แล้วทางพี่เดชาฟ้องทนายตั้มบ้างไหม ?

          ทนายเดชา : ก็มีฟ้องกลับไป พวกหมิ่นประมาท ฟ้องแพ่ง ร้องเรียนมารยาท เยอะแยะเหลือเกิน แล้วคดีผู้กำกับโจ้ก็ไปแจ้งความ ผมไปแจ้งเขาที่หาว่าตบทรัพย์ ตอนแรกผมจะไม่แจ้ง คุณบอกว่าถ้าแน่จริงก็ไปแจ้ง ผมก็เลยไปแจ้ง คุณเป็นคนเสี้ยมผม ผมเลยต้องไปแจ้งจับเขา

หลังจากนั้นยังไงต่อ ?

          ทนายเดชา : ก็มีคดีเยอะแยะมากมายไปหมด ทำนองเล่นกู กูก็เล่นมึง ไม่ยอมกัน จำไม่ได้ว่ากี่คดี เยอะ

          ทนายตั้ม : จำไม่ได้ เราตกลงกันแล้วว่าจะถอนทั้งหมด เดี๋ยวจะไปนั่งลิสต์ ผมก็มีไปแจ้งความ ร้องมารยาทเขาเหมือนกัน แต่จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่แล้ว ถ้าเราตัดตรงนี้ไปได้ เราจะเหลือเวลา 30 เปอร์เซ็นต์ของชีวิตเลย ในการทำเรื่องเพื่อสังคมได้

เยอะมากเลยนะ ?

          ทนายเดชา : มันเยอะแยะ มันเสียเวลาทำมาหากิน แล้วต้องไปลุ้นว่าใครจะแพ้ใครจะชนะ จะมีความสุขยังไง

ไม่ใช่แค่คดีทนายตั้มอย่างเดียว มีฟ้องทนายคนอื่น ?

          ทนายเดชา : ผมก็ไปร้องทนายรณณรงค์ ร้องมารยาท 2 เรื่อง ตะกี้ในเมื่อตกลงกับตั้มเรียบร้อย เลิก ก็ให้ตั้มไปบอกรณณรงค์ ว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวผมถอนให้ 2 คดี จบ

          ทนายตั้ม : ผมก็เป็นกาวใจ คุยกับทนายทุกคนที่สนิทกัน ไม่ว่าจะทนายเจมส์ ทนายเกิดผล ทนายรัชพล ทนายอาคม ทนายรณณงค์ เดี๋ยววาเลนไทน์นี้จะนัดกินข้าวกับทนายเดชา

2 ทนายดังคืนดีกันแล้ว

ไปด้วยได้ไหม ?

          ทนายตั้ม : ได้ครับ เชิญเลย

          ทนายเดชา : แต่อย่าไปปั่นอะไรเพิ่มอีกนะ

ก็พูดไปเรื่อย หาว่าผมไปปั่น ?

          ทนายเดชา : เมื่อกี้ลูกน้องคุณหนุ่มหาว่าผมไปอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหมอปลา ผมไม่รู้เรื่องเลย หาว่าผมเป็นทนายวัดอะไรต่าง ๆ ผมอยู่สำนักงานทั้งวัน ไม่เคยไปวัดอะไรเลย

ทำไมพี่เดชาชอบฟันคนโน้นคนนี้ไปเรื่อย ?

          ทนายเดชา : ไม่มีนะ ผมจัดรายการขำ ๆ สนุกสนาน

จะเริ่มถอนคดีกันยังไง ?

          ทนายตั้ม : นึกอะไรได้ก็ไปถอนครับ เราไม่มีเวลาอยู่แล้ว จะมอบอำนาจให้คนไปถอนทุกคดี และหวังว่าอนาคตจะไม่มีอะไรแบบนี้อีก

          ทนายเดชา : ไม่มีแล้วครับ ขนาดคดีคุณแหม่มที่กาญจนบุรี

2 ทนายดังคืนดีกันแล้ว

ตอนนั้นไปว่าทนายตั้มวิ่งเต้นอะไร ?

          ทนายเดชา : มันก็มีข่าวต่าง ๆ รายการผม เวลาไลฟ์ จะเอาข่าวต่าง ๆ มาเสนอ มีข่าวว่าทนายตั้มนำสืบเท็จ ปลอมเอกสาร วิ่งเต้นอัยการ เราดูจากข่าวไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง

ดูจากข่าวหรือไปฟังจากใครมา ?

          ทนายเดชา : ดูจากข่าว อย่าไปพูดถึงเขาเลย เดี๋ยวคุณก็ต้องเชิญเขามา ดูจากข่าวดูจากอะไร เราไม่รู้หรอกข้อเท็จจริงเป็นยังไง แต่มาถึงวันนี้ เราพอทราบจากทนายตั้มแล้วว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง พอไม่เป็นความจริงปุ๊บเราก็ขอโทษเขา ในสิ่งที่เรานำเสนอไป เราไม่รู้หรอกว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องจริงหรือเปล่า เพราะเราไม่เห็น มีข่าวมา เราก็เอามาวิเคราะห์ ประกอบกับเราไม่ชอบขี้หน้าเขาอยู่แล้ว เราก็เสริมเพิ่มไป ทาสีเพิ่มเข้าไป

ต้องยอมรับ ?


          ทนายเดชา : มันเรื่องจริง ถ้าเราไม่ยอมรับในสิ่งที่เราผิดพลาด เราจะมานั่งทำไมตรงนี้

ฟังพี่เดชาพูดแล้วนี่คือคนจริง 2022 พี่ยอมรับว่าใส่สีตีข่าวเขาเลยเหรอ ?

          ทนายเดชา : ส่วนหนึ่งก็เพราะเราไม่ชอบขี้หน้าเขา ก็เรื่องจริง ใคร ๆ ก็รู้

พี่พูดแบบนี้ ต่อไปคนจะเชื่อมั่นในตัวพี่เหรอ ?

          ทนายเดชา : ไม่เป็นไร ไม่ต้องเชื่อผม ขอให้ผมเชื่อตัวเองก็พอแล้ว อะไรต่าง ๆ ที่ผมทำผิดไป เราก็ต้องสำนึก ยิ่งเรามีเหตุผลมาก คนยิ่งเกลียดเรามาก อะไรผิดพลาดก็แค่นั้น เราไม่ชอบขี้หน้าเขาอยู่แล้ว

2 ทนายดังคืนดีกันแล้ว

จะมีเหตุการณ์แบบนี้อีกไหม ?

          ทนายเดชา : พอแล้วเหนื่อย 60 แล้ว พอแล้ว บอกลูกชายพอแล้ว ไม่เอาแล้ว ทุกวันนี้ชีวิตผมสุขสบายแล้ว ไม่ต้องทำงานแล้ว ทรัพย์สินก็พอมี ไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อน จริง ๆ อยากเลิก อยากปิดสำนักงาน ก็ไม่รู้จะทำทำไม 60 แล้ว

ไปปลูกมะม่วง ทำสวนเหรอ ?

          ทนายเดชา : แต่ไม่เอาที่ ส.ป.ก. นะ

ก็เป็นอย่างนี้ เดี๋ยวเขาฟ้องก็เป็นเรื่องอีก ?

          ทนายเดชา : ผมไปตรวจสอบแล้ว ว่าไม่มีหลักฐานว่าเขาไปวิ่งเต้นอัยการ ไม่มีหลักฐานว่าเขาปลอมเอกสาร เราก็ขอโทษเขา เขาฟ้องมาก็สมควรแล้วไง

วันจันทร์ที่ผ่านมา ศาลนัดไกล่เกลี่ยเหรอ ?

          ทนายตั้ม : นัดไต่สวนมูลฟ้อง ศาลจะมีคำสั่งเลย แต่พอคุยกันเรียบร้อย ผมก็ถอนวันนั้นเลย คดีอื่นก็ค่อย ๆ ทยอยถอนกันให้หมด

2 ทนายดังคืนดีกันแล้ว

ทำไมทนายตั้มถึงใจอ่อน ?

          ทนายตั้ม : ผมว่าเราทะเลาะกันมานานแล้ว เราเสียเวลากับตรงนี้ คนดู เอฟซีที่ติดตามเราทั้งสองคนก็ไม่ได้ประโยชน์ อย่างแรกคือผมเห็นความจริงใจของ อ.เดชา พอเจอผม ผมเดินไปในห้องพิจารณา แกยกมือไหว้ขอโทษผม ทั้งที่ผมเด็กกว่าแกตั้งเยอะ แกน่าจะรุ่นพ่อผมได้แล้ว ผมก็รับไหว้แบบงง ตกใจ อ.เดชา เลยเข้ามาคุยว่าให้จบกันไป และปรับความเข้าใจกันหลาย ๆ เรื่องที่ผ่านมา มีใครไปเสี้ยมอะไรแก ทำให้แกโมโห

          แกบอกว่าที่มาทะเลาะกับผม ไม่ใช่เรื่องของแกเลย เป็นเรื่องของคนอื่นที่มายุแยง จริง ๆ ผมกับเขาไม่ได้มีเรื่องอะไรกัน จะทะเลาะกันทำไม บอกเอฟซีผมไว้เลย ว่าผมกับทนายเดชาไม่ได้มีอะไรกัน ถ้ารักผมก็อย่าไปว่า อ.เดชา พอได้แล้วนะครับ มันควรจบได้แล้ว เดี๋ยวมาดูข้อดีที่เราสองคนจะมาร่วมกันทำงานเพื่อสังคมดีกว่า ผมว่ามีอะไรเด็ด ๆ แน่นอน

ต่อไปก็มีโอกาสเชิญทนายทั้งสองมาช่วยเหลือชาวบ้าน ?

          ทนายเดชา : ยินดีครับ

          ทนายตั้ม : ยินดีเลยครับ แต่เราต้องผ่านคดีคุณแหม่มกับคุณนุ่นไปก่อน (คดีเสี่ยก้องโดดรถเสียชีวิต)

          ทนายเดชา : ยังต้องสู้กันต่อ แต่เอาเฉพาะเนื้องาน แต่ไม่มีอะไรว่ากันแล้ว เหนื่อย

          ทนายตั้ม : เราคุยกันแล้ว เรายังมีเนื้องานที่อยู่คนละฝั่งกันอยู่ แต่ว่าผมรับปากจะไม่ไปพูดถึงอาจารย์ เอาแต่เนื้องาน เดี๋ยวไม่แน่ วันที่ 14 จะดำเนินคดีกับทางคุณแหม่มในเรื่องชู้สาว ผมก็บอกอาจารย์ตรง ๆ เพราะเป็นหน้าที่ของผม หน้าที่อาจารย์คือช่วยเหลือลูกความ เรากำหนดขอบเขตกันแน่นอน ว่าตอนนี้เราเหมือนพี่น้องกัน แต่เรื่องงานก็ยังทำเต็มที่ให้ลูกความตัวเองต่อไป

ทั้งสองคนเหมือนนักมวย ขึ้นเวทีต้องต่อยกัน ลงมาก็เป็นเพื่อนกัน ?

          ทนายตั้ม : สมัยก่อนขึ้นเวทีก็ต่อยกันบนศาล พอลงจากเวทีก็ฟัดกันต่อหลังศาลด้วย (หัวเราะ)

จะไปต่อยกันหลังศาลเหรอ ?

          ทนายเดชา : มันก็มีอารมณ์กัน อะไรเกินเลย บางทีก็ควบคุมไม่อยู่ เราก็เป็นคนใจร้อน แก้ยาก

          ทนายตั้ม : วันนั้นผมมาเบิกความ อาจารย์มาถามค้าน แล้วผมรู้อยู่แล้วอาจารย์เขาขึ้นง่าย ผมก็กวน ๆ แกไป จนแกโมโหผม เลยท้าผมต่อย (หัวเราะ)

คุณก็แสบเหมือนกัน ?

          ทนายเดชา : ก็เป็นคนแบบนั้น มีอะไรเก็บไว้ไม่ได้ เป็นคนเปิดเผย

ตอนนี้ศาลดีใจไหม ?

          ทนายตั้ม : โห ดีใจครับ ท่านผู้พิพากษาบนบัลลังก์มาถ่ายรูปเมื่อวันจันทร์ ร่วมกันสามคน ผอ.ศาลอาญา ก็มาแสดงความดีใจด้วย ท่านบอกโอ๊ย จบกันได้ก็ดีแล้ว ไปช่วยกันทำงานดีกว่า คดีเต็มศาลไปหมดแล้ว

กรณีคุณอัจฉริยะ มีโอกาสจบแบบนี้ไหม ?

          ทนายตั้ม : มันไม่ได้ตรงที่เขาไปดำเนินคดีผมแบบไม่สามารถถอนได้ ไปแจ้งความผมไว้หลายเรื่อง แล้วก็คาอยู่อย่างนี้ บางเรื่องสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว บางเรื่องก็คาอยู่ ส่วนตัวผมก็รับผิดชอบในคดีของคนอื่นที่ดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะด้วย ผมว่ายังไงก็คงไม่ได้

2 ทนายดังคืนดีกันแล้ว

พี่เดชาก็เป็นเพื่อนทางพี่อัจ เป็นไปได้ไหมที่จะคุยกับพี่อัจให้จบ ๆ ไปกับทางทนายตั้ม จะได้เริ่มต้นเซตซีโร่ นับหนึ่งใหม่ ?

          ทนายเดชา : ผมว่าเขาเป็นตัวของตัวเอง ใครจะไปโน้มน้าวเขายาก เท่าที่รู้จักกันมานานพอสมควร มีความเป็นตัวของเขาเอง ผมคิดว่าเขาคงต้องตัดสินใจของเขาเอง ผมคงไม่กล้าไปแนะนำอะไรเขาหรอก

วันนี้ทนายตั้มกับพี่เดชาพอเคลียร์กันจบแล้ว พี่จะมีปัญหากับพี่อัจไหม ?

          ทนายเดชา : ไม่มีหรอก ผมไม่เคยไปยุ่งอะไรเขา ไม่เคยไปพูดพาดพิงเขา ความสัมพันธ์ก็ไม่มี เขาโกรธไหมเราก็ไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องในใจเขา แต่เราไม่ได้มีปัญหากับเขา ไม่ได้ใส่ร้ายเขา

ได้คุยกันไหมเรื่องเคลียร์กับทางทนายตั้ม ?

          ทนายเดชา : ไม่ได้คุยกัน

เรื่องทนายเดชาจบโดยสมบูรณ์แบบ ?

          ทนายตั้ม : จบก็คือจบครับ ถอนทุกอย่าง แต่ย้อนไปนิดหนึ่ง ถามว่าผมจะกลับไปคบกับอัจฉริยะไหม ผมไม่กล้าครับ ผมระแวง

ทำไม ?

          ทนายตั้ม : คุณหนุ่มก็เคยโดนมากับตัวนี่ครับ (หัวเราะ)

2 ทนายดังคืนดีกันแล้ว

พอกันทั้งคู่ มีแว้งกลับมาอีก ?

          ทนายตั้ม : ก็คิดว่าจะกลับมาถามผม แต่ไม่มีคดีความหรอก ผมระวังคำพูดอยู่แล้ว เราก็แยกส่วนกับ อ.เดชา เราทำงานทนาย วิชาชีพเดียวกัน ส่วนทนายกับทะแนะไม่เหมือนกัน

ไม่ได้ว่าใคร ?

          ทนายตั้ม : เขาก็ยอมรับนี่ครับว่าเขาเป็นทะแนะ เวลาไปออกอะไรเขาบอกว่าเขาไม่ได้จบกฎหมาย เขาเป็นแค่ทะแนะ

เรื่องการทำงาน ทนายตั้มจะทำงานร่วมกับกลุ่มเพื่อน หรือจะมีพี่เดชาด้วยไหม ?

          ทนายตั้ม : ตอนนี้ผมขอเบอร์กับไลน์พี่เดชาแล้ว มีอะไรคงประสานกัน แล้วอย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้น ได้คุยกับกลุ่มทนายความ ทุกคนแล้ว จริง ๆ อยากไปกินข้าวด้วยกัน ได้พูดคุยกัน

2 ทนายดังคืนดีกันแล้ว

ทนายดัง ๆ เขาโอเคไหม ?

          ทนายตั้ม : ผมคุยกับทุกคนเรียบร้อยแล้ว ทุกคนยินดีมากครับ ยินดีที่จะได้คุยกับ อ.เดชา

พี่ล่ะโอเคไหม ?

          ทนายเดชา : เรายินดี เราแก่แล้ว เด็ก ๆ ว่าไงก็ตามนั้น จะ 60 แล้ว พวกนี้รุ่นลูกเรา เราจะได้เกษียณ ทะเลาะกันเหนื่อย

พี่ไปท้าเขาต่อยด้วย ?

          ทนายเดชา : อย่าไปพูดเลย ขาดอายุความแล้ว

          ทนายตั้ม : (หัวเราะถูกใจ)

เราก็ไม่ธรรมดา ?

          ทนายเดชา : แก่แต่เก๋า สิ่งที่ผมมีคือความเก๋าเท่านั้นแหละ ถ้าจะบอกน้อง ๆ ก็แค่ความเก๋า แต่อะไรต่าง ๆ ความกระฉับกระเฉงคงสู้รุ่นเด็กไม่ได้ เราอายุ 60 แล้ว ใกล้สุดท้ายแล้ว

2 ทนายดังคืนดีกันแล้ว

ถามในฐานะที่เป็นพิธีกร เรื่องนี้ถ้าไม่ถึงขั้นไต่สวน พี่จะจบไหม ?

          ทนายเดชา : คดีผมกับทนายตั้มทุกศาล ระดับอธิบดีศาลให้เจรจาทุกคดี ทนายตั้มเขาไม่เจรจา แต่ผมเจรจาทุกคดี

          ทนายตั้ม : ก่อนหน้านี้ อ.เดชา เขาอยากเจรจาทุกคดี แต่ผมโมโห ผมเลยบอกว่าไม่คุยทุกศาล พอมาวันนี้ ผมไม่ได้ใจอ่อน มันก็คิดได้ว่ามันถึงแก่เวลาแล้ว มันเสียเวลาตรงนี้มา 4 ปีได้แล้ว

อาจารย์เดชาเตือนผมตลอดว่าถ้าขอโทษได้ก็ขอโทษ ขึ้นศาลไม่สนุก ผมว่าเขาอยากประนีประนอม แต่คุณนักบู๊ ลุยหมด ตำรวจก็ลุย ?

          ทนายตั้ม : ครับ

          ทนายเดชา : อาจจะโกรธด้วย แต่ผมก็เข้าใจเขานะ ผมเจรจาตลอด ไม่ใช่เจรจาตอนไต่สวน แต่เขาอาจเสียหาย ยังทำใจไม่ได้เป็นเรื่องธรรมดา

ต่อไปไม่มีแบบนี้แล้ว ?

          ทนายเดชา : ไม่มีแล้ว พอแล้ว เห็นต่างได้ แต่อาจเสริมกันเรื่องวิชาการ จะเชิญเราสองคนมาก็ได้ คุณก็ปั่นไปเถอะ เหมือน ส.ป.ก.

          ทนายตั้ม : เดี๋ยวอาจารย์ก็หัวร้อนอีก

          ทนายเดชา : อย่าง ส.ป.ก. ก็เสริมให้ได้ ว่าจะโดนกี่ดอก ส่วนน้อง ๆ ถ้ามีแนวคิด เราก็ไม่ไปขัด ไปหักหน้า ทำให้เขาเสีย ไม่เอาแล้ว

          ทนายตั้ม : กลุ่มที่เรามีอยู่ตอนนี้คนอาจมองว่าเป็นสายบู๊ มี อ.เดชา มาช่วยด้วย ความเก๋าอาจารย์เดชาจะทำให้กลุ่มเราแข็งแกร่งขึ้น เราช่วยเหลือประชาชนได้มากขึ้นด้วย

2 ทนายดังคืนดีกันแล้ว

สุดท้ายอยากบอกอะไร ?

          ทนายเดชา : อยากบอกว่าที่ผ่านมาถ้าพี่ทำอะไรไม่เหมาะสมก็ขอโทษ อยากให้อภัยผม แค่นั้น

          ทนายตั้ม : (ยกมือไหว้) ผมอภัยให้อาจารย์นะครับ แล้วก็ขอบคุณอาจารย์มาก ที่วันนี้มาให้ความจริงกับสังคม อาจารย์เป็นผู้ใหญ่แล้วมาขอโทษผมก่อน ผมซาบซึ้งมาก ถ้าสิ่งที่ผมทำกับอาจารย์ไป ไม่ว่าจะกระแนะกระแหนหรืออะไร ผมกราบขออภัยอาจารย์ ณ ที่นี้ด้วย

สำหรับผมอะไรที่เคยปั่นทำให้สองท่านมีปัญหากัน ตั้งแต่สมัยไหน ?

          ทนายเดชา : คุณสำนึกจริงเปล่านี่ (หัวเราะ)

ผมขอโทษจริง ๆ จากใจ ถ้าผมเป็นส่วนหนึ่งทำให้พี่สองคนผิดข้องหมองใจ ที่มาจากส่วนของผม ผมขอโทษนะพี่นะ อยากให้จับมือกันหน่อยในรายการ ?


          ทนายเดชา - ทนายตั้ม : (จับมือกัน)

          ทั้งนี้ สามารถติดตามชมรายการ โหนกระแส ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอยผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33

2 ทนายดังคืนดีกันแล้ว

หนุ่ม กรรชัย

2 ทนายดังคืนดีกันแล้ว

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
2 ทนายดังคืนดีกันแล้ว - พีคสุด ขอ หนุ่ม กรรชัย เลิกปั่น ถามสำนึกจริงเปล่าเนี่ย ? อัปเดตล่าสุด 10 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 15:31:06 20,388 อ่าน
TOP
x close